ได้ลองความแรงแบบเปิดหลังคารับลมกับ MINI John Cooper Works Convertible (มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คอนเวิร์ตทิเบิล) ราคา 3.468 ล้านบาท รวม MSI Standard ในโมเดลรุ่นปรับโฉมเป็นเวอร์ชั่นแรงเสร็จสรรพจากโรงงาน ที่ตัวหลังคาผ้าใบไฟฟ้าสามารถเปิด-ปิด ในเวลา 18 วินาที ที่ความเร็วไม่เกิน 30 กิโลเมตร/ชั่วโมง และสามารถแง้มหลังคาส่วนหน้าได้ 40 เซนติเมตร พร้อมทดลองขับรถในตระกูล JCW ครบทุกรุ่น ทั้งในแบบเปิดประทุน, แฮทช์แบ็ค, คลับแมน และคันทรี่แมน ในสนามแข่งมาตรฐานระดับโลก ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์
โฉบเฉี่ยวด้วยรูปทรง และเส้นไฟ LED ลายธงยูเนียนแจ็ค
ในเวอร์ชั่นนี้ MINI John Cooper Works Convertible ดูโฉบเฉี่ยวด้วยรูปทรงและเส้นไฟ LED ลายธงยูเนียน แจ็คแห่งสหราชอาณาจักร โดยไฟเบรกจะใช้เส้นแนวตั้ง ส่วนไฟเลี้ยวจะเป็นเส้นแนวนอนกึ่งกลาง และไฟท้ายจะเปิดเป็นเส้นแนวทแยง ส่วนไฟหน้าแบบ Adaptive LED ทำงานร่วมกับ Matrix Light ใช้กล้องหน้ารถตรวจหารถยนต์คันอื่น เพื่อหลีกเลี่ยงการยิงเปิดสูงใส่ ในขณะที่ยังคงส่องสว่างส่วนอื่นๆ ของถนน เพิ่มความปลอดภัยสำหรับทั้งผู้ขับและผู้โดยสาร และมาพร้อมกล้องมองหลังผ่านจอแสดงผลด้านหน้า
ห้องโดยสารสไตล์สปอร์ต
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหนังแท้ขนาดกระชับพอดีมือ แป้นเบรก คันเร่ง และที่พักเท้าสเตนเลส ที่เปิดประตูและวัสดุหุ้มเกียร์ รวมทั้งเพดานห้องโดยสารสีดำ Anthracite ในสไตล์ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ มอบความรู้สึกสปอร์ตในห้องโดยสาร ลำโพง Harman Kardon HiFi 12 ตัว พร้อมจอสัมผัสขนาด 8.8 นิ้ว และเทคโนโลยีเชื่อมต่อ MINI Connected เพื่อการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน พร้อมแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย ติดตั้งบริเวณที่วางแขนกลางเบาะหน้า สามารถวางโทรศัพท์รุ่นที่รองรับระบบการชาร์จไร้สายบนแท่นเพื่อชาร์จได้เลย พร้อมพอร์ต USB เพิ่มเติม 2 ช่องที่คอนโซลหน้ารถ
ขุมพลัง 231 แรงม้า เบนซิน 4 สูบ 1,998 CC Twin Power Turbo
ทันทีที่คุณสตาร์ทเครื่องยนต์เสียงท่อไอเสียจะกระหึ่มทุ้มต่ำ เสมือนเชิญชวนให้กดคันเร่งลึกๆ เพิ่มเสน่ห์ให้ MINI John Cooper Works ในแบบเปิดประทุน ยิ่งเมื่อลองปรับโหมดการขับของเครื่องยนต์แบบเบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,998 CC Twin Power Turbo ตัวถังแฮทช์แบ็คและเปิดประทุนมีกำลังสูงสุด 231 แรงม้า ที่ 5,200-6,200 รอบ/นาที แรงบิด 32.6 กก.-ม. ที่ 1,450-4,800 รอบ/นาที มาเป็น Sport แล้วออกตัวจากจุดสตาร์ท ตั้งพวงมาลัยตรงแล้วก็กดคันเร่งสุด เกียร์ Steptronic Sport พร้อม Paddle Shift 8 จังหวะ ก็เปลี่ยนจังหวะลงต่ำ กระชากรอบให้กวาดขึ้นอย่างรวดเร็ว เสียงท่อไอเสียสนั่นอยู่ด้านหลัง คันเร่งยังคงถูกกดจมพื้น จังหวะเปลี่ยนเกียร์ที่รอบสูงมีกระชากนิดๆ ได้อารมณ์ดิบสะใจ แม้ไม่ได้ลองใช้ Paddle Shift ส่วนในรุ่นคลับแมนและคันทรี่แมนขับเคลื่อน 4 ล้อ แม้จะมีกำลังสูงสุดเท่ากัน แต่มาที่รอบต่ำกว่าคือ 5,000-6,000 รอบ/นาที แรงบิด 35.6 กก.-ม. ที่ 1,450-4,500 รอบ/นาที
ถามถึงการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง รถไม่มีเสียอาการให้เห็น ความเร็วก่อนเบรกประมาณ 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง พวงมาลัยนิ่งมั่นคงขับได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลว่าจะมีอะไรตัดหน้า การเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงในไลน์ที่ถูกต้อง ทำให้ไม่ต้องออกแรงควบคุมพวงมาลัยมากนัก น้ำหนักของพวงมาลัยหนืดมือพอเหมาะกับการขับสไตล์สปอร์ต ไม่มีการเสียอาการคุมรถให้เห็น
เพราะบาลานซ์รถที่ดี การกดเบรกหนักในโค้งที่เป็นยูเทิร์น ตัวรถยังมีความมั่นคงและไปได้เร็วอย่างที่ไม่คิดว่าตัวเองจะขับได้ ออกจากโค้งเริ่มคลายพวงมาลัย พร้อมกับเติมคันเร่งลงไปจนสุดเมื่อพวงมาลัยตรง รถวิ่งใช้ความเร็วสูงได้อย่างปลอดภัย
12 โค้ง ในสนามช้างนอกเหนือจากได้ลองฟีลลิ่งการขับ ในรุ่นเปิดประทุน ที่เป็นไฮไลท์รุ่นใหม่ล่าสุดแล้ว การเดินทางในครั้งนี้ ยังมีโอกาสได้ทดลองขับ MINI ในตระกูล JCW อีก 3 รูปแบบ ทั้ง MINI John Cooper Works Hatch 3 ประตู MINI John Cooper Works Countryman สมาชิกในตระกูลจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ที่ใหญ่ที่สุดและ MINI John Cooper Works Clubman ที่ผสานการใช้งานที่อเนกประสงค์กับสมรรถนะแบบสปอร์ต
ซึ่งรถยนต์ MINI ในตระกูล JCW เรียกว่าถูกปรับความแข็ง และกระด้าง ในมินิรุ่นเก่า มาแทนที่ด้วยความกระชับ จากช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ ด้านหน้าแบบปีกนก ด้านหลังมัลติลิงก์พร้อมเหล็กกันโคลง และติดตั้งระบบ Adaptive Suspension ลบข้อด้อยเดิมๆ แต่ยังคงความรู้สึกแบบ Go-Kart-Feeling ไว้เช่นเดิม การเกาะจิกโค้งและพุ่งออกได้แบบนิ่งๆ บวกกับตัวช่วยอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ทำให้ควบคุมแรงม้าที่มีอยู่ได้อย่างสบายมือ และไม่ต้องใช้ทักษะอะไรมากมายในการควบคุม
AETER DRIVE BY KAN YENSABAI
มินิ ก็ คือ มินิ นอกจากความน่ารักมีสไตล์ในเรื่องดีไซน์รูปทรงที่คลาสสิกแล้ว การเติมความกระชุ่มกระชวยด้วยชุดแต่งและขุมพลังในเวอร์ชั่นอัพเกรดอย่าง JCW ก็ยิ่งช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับรถในโมเดลนี้
สำหรับทริปนี้เรียกได้ว่าเป็นการประสบการณ์ และช่วงเวลาแห่งความตื่นเต้นเร้าใจ กับการทดลองขับรถ MINI ในตระกูล JCW ครบทุกตัวถังครับ ในสนามแข่งมาตรฐานระดับโลก ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ที่ มีการจัดการที่เป็นระบบ ไม่สับสน ทุกคนได้ขับรถทุกรุ่นอย่างทั่วถึงและปลอดภัยภายในเวลาที่กำหนด
แน่นอนในสนามช้างที่ไม่มีการวางไพลอนเพื่อลดความเร็ว มีแค่ไพลอนแจ้งจุดน้ำหนักเบรกเบา หรือเบรกหนัก ผมลองหวดเจ้ามินิใหม่ทั้งรุ่นคอนเวิร์ตทิเบิล, คลับแมน, แฮทช์แบ็ค และคันทรี่แมน ครบหมด โดยไม่ปิดระบบ DSC ได้ใช้ความกว้างของสนามอย่างเต็มที่
ผมลองกดคันเร่งพิสูจน์ความไม่ธรรมดาของรุ่นคอนเวิร์ตทิเบิล เร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 6.5 วินาที ท็อปสปีด 240 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่เร็วได้ราบรื่น ไม่เหวี่ยงไม่กระชาก และเก็บอาการโยนตัวได้ดีเหลือเกิน การเกาะจิกโค้งและพุ่งออกได้แบบนิ่งๆ บวกกับตัวช่วยอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ทำให้ควบคุมแรงม้าที่มีอยู่ได้อย่างสบายมือ และไม่ต้องใช้ทักษะอะไรมากมายในการควบคุม ทริปนี้ในสนามช้างของผมจึงเสมือนการได้มาลองขับ MINI JCW ทุกรุ่น ในแบบ Racing Line ให้ขับได้อย่างถูกต้อง ….
MINI JCW FAMILY
MINI John Cooper Works Hatch 3 ประตูสุดคลาสสิก สะดุดตาด้วยชุดแต่งในตระกูลจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ขนานแท้ โดดเด่นด้วยเส้นสายสีแดงบนตัวรถ ดีไซน์มาเพื่อมอบความรู้สึกของรถแข่งอย่างแท้จริง
MINI John Cooper Works Clubman ที่ผสานการใช้งานที่อเนกประสงค์กับสมรรถนะแบบสปอร์ต
MINI John Cooper Works Countryman เป็นมินิรุ่นที่มีความจุสัมภาระสูงสุด พร้อมลุยทุกการผจญภัยด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ALL4
** MINI ในตระกูล JCW ทุกรุ่นอุ่นใจด้วยโปรแกรม MINI Service Inclusive (MSI) ให้เลือกสรรตามความต้องการ ด้วยแพ็คเกจเริ่มต้น MSI Standard ที่ครอบคลุมระยะการบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร และรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง