MAZDA CX-3 ครอสโอเวอร์เพลย์บอย!!

         บนเส้นทางจากโชว์รูมมาสด้าเจพี ย่านเลียบทางด่วนเอกมัยรามอินทรา โชว์รูมใหม่เอี่ยมที่ทางมาสด้าเนรมิตขึ้นมาเพื่อรองรับยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นจุดสตาร์ท สำหรับโปรแกรมการทดสอบ Mazda CX-3 ใหม่ ใน Version Minor Change ที่เรียกว่า 2018 Collection

         ปลายทางของการทดสอบในวันนี้อยู่ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เราใช้เส้นทางผ่านเมือง ผ่าน อำเภอองครักษ์ ต่างจังหวัดนครนายก เพื่อมุ่งตรงสู่อุทยาน ได้มีโอกาสทดลองสมรรถนะของรถที่ถือว่าเป็น รถครอสโอเวอร์ ที่ได้รับความสนใจจากคนใช้รถในบ้านเราอีกหนึ่งโมเดล

ปรับโฉมใหม่ในเวอร์ชั่น Minor Change

       แน่นอนครับว่า สำหรับการปรับโฉมรถในรูปแบบของการ Minor Change หลายๆ คนก็จะจับตามองว่ามีการปรับปรุงหรือว่าเปลี่ยนแปลงในส่วนใดบ้าง เรื่องแรกที่จะต้องพูดถึงก็คงจะไม่พ้นเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกของ CX-3  ใหม่ ถามว่าอะไรบ้างที่เปลี่ยนแปลง คำตอบคือโดยรวมยังใช้แพลทฟอร์มเดิมในรูปแบบของรถ Compact Car แบบอเนกประสงค์ที่มีกลิ่นอายของความสปอร์ต แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ในโฉมนี้มีการปรับรูปลักษณ์ให้ดูกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น ไม่สปอร์ตจ๋าเหมือนกับในรุ่นที่แล้ว ภายใต้แนวคิดการออกแบบ Kodo Design ปราดเปรียวเหมือนกับเสือชีต้าซุ่มรอจังหวะกระโจนตะครุบเหยื่อ

       ดวงตาใหม่ที่ไฟคู่หน้า ไฟท้ายแบบใหม่ กระจังหน้าโลโก้ที่มีพลาสติกคลุม ไฟท้ายแบบแอลอีดีและล้ออัลลอยที่มีการออกแบบใหม่ รวมถึงสีภายนอกที่มีการดีไซน์สีใหม่ เพิ่มบุคลิกความสุขุมนุ่มลึก ไฟโคมไฟท้ายที่เปลี่ยนมาใช้เป็นแบบวงแหวนและเส้นแนวนอน ช่วยเสริมความ ปราดเปรียวให้กับมุมมองด้านท้ายของรถ

ห้องโดยสารออกแนวหรูหรา ประสานกับความสปอร์ต

       ในส่วนของห้องโดยสาร Mazda CX-3 ใหม่ในเวอร์ชั่น 2018 Collection ทางมาสด้าได้มีการปรับเพิ่มเติมในเรื่องของความลงตัวในห้องโดยสารให้ออกแนวหรูหราประสานกับความสปอร์ต ไม่ว่าจะเป็นแผงคอนโซลหน้าแบบใหม่ที่เรียกว่า Grand ตั้งแต่เบาะหนังสีดำตัดด้วยด้ายสีเทาที่เป็นด้ายจริง รวมทั้งในส่วนของวัสดุหนังนิ่มที่นำมาใช้ตกแต่งเพิ่มเติม ทางมาสด้าบอกว่า คล้ายกับหนังอาคันทาร่าที่นิยมตกแต่ง ในรถสปอร์ต แต่จะมีลักษณะที่ให้สัมผัสที่นุ่มนวลกว่า การจัดวางอุปกรณ์และฟังก์ชั่นการใช้งานในตำแหน่งอื่นๆ ก็ดูเหมาะสมลงตัว ใช้งานง่ายเมื่ออยู่ในตำแหน่งคนขับ

      คอนโซลเกียร์วางภาคกลางกึ่งกลางรถ แบ่งครึ่งระหว่างผู้นั่งโดยสารและผู้ขับให้เป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น ระบบเบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบ Auto ก็ยังช่วยเหลือในเรื่องของความสะดวกสบายในการขับขี่ ที่สำคัญในตัวท็อป ทั้งใน Mazda CX-3 เครื่องยนต์เบนซินและเครื่องยนต์ดีเซล ทาง Mazda ยังมีการเพิ่ม Power Sliding Glass Sunroof หรือหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้าเพิ่มเติมเข้ามา เพื่อช่วยในเรื่องของความปลอดโปร่งในห้องโดยสาร รวมถึงเพื่อเติมเต็มความสปอร์ตให้กับผู้ใช้งานได้ใช้ในรถคันนี้

        สิ่งหนึ่งที่อยากจะบอกให้คุณทำความเข้าใจ ในการที่จะบอกว่ารถสักคันหนึ่งตอบโจทย์การใช้งานแค่ไหน ก็คือธรรมชาติของรถ หรือ Segment ของรถมันคือรถอะไร แน่นอนครับ CX-3 นับตั้งแต่เปิดตัวมาในปี 2015 จนมาถึงในเวอร์ชั่น 2018 นี้ ตัวรถที่พัฒนาต่อยอดมาจากรถเก๋งเล็กอย่าง มาสด้า2 และพัฒนายกสูงขึ้นมาในแบบ Compact Crossover เพื่อการใช้งานที่หลากหลายและอเนกประสงค์มากยิ่งขึ้น

        ดังนั้น ถ้าจะถามหาความกว้างขวางสะดวกสบายแบบโอ่โถ่ง ภายในห้องโดยสารทั้ง Leg Room และ Head Room ในรถคันนี้มันคงเป็นไปไม่ได้ เพราะธรรมชาติของเขาเกิดมาเป็นรถเล็กแบบอเนกประสงค์ หรือว่ารถอเนกประสงค์ไซซ์เล็กลุยได้บ้างเป็นครั้งคราว ในแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ฉะนั้นต้องเข้าใจในจุดนี้ก่อนที่จะตำหนิว่ารถคันนี้เล็กหรือห้องโดยสารแคบ

         แต่สิ่งที่มาสด้าชดเชยและปรับปรุงเพิ่มเติมคือความสะดวกสบายในห้องโดยสารที่ยังมีมิติเท่าเดิมจะเป็นตัวโฉมก่อน ก็คือในส่วนของที่วางเท้าแขนในส่วนของคนขับ และที่วางเท้าแขนพร้อมที่วางแก้วในส่วนของผู้โดยสารแถวหลัง รวมถึงความเงียบในการตัดเสียงรบกวนจากกระแสลมปะทะและเสียงจากพื้นถนนได้ เพราะมาสด้ามีการเพิ่มความหนาของวัสดุหุ้มประตูคู่หน้าและหลัง รวมถึงขอบกระจกประตูให้มีวัสดุซับเสียงเพิ่มมากขึ้น

ขุมพลัง 2 ทางเลือก ทั้งเบนซิน 2.0 ลิตร และดีเซล 1.5 ลิตร

       ถ้าคุณชอบรถที่มีแฮนด์ลิงของพวงมาลัยกระชับคมและแม่นยำ การทำงานของเครื่องยนต์ ที่ตอบสนองคนเท้าโหดได้เป็นอย่างดี การขับทดสอบวันแรกกับ  Mazda CX-3 สีขาว เครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G ความจุ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 204 นิวตัน-เมตร ที่ 2,800 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ รองรับเชื้อเพลิง E85 ได้

        ในขณะที่ CX-3 ในรุ่น XDL ถูกติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV-D ความจุ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 270 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะเช่นกัน ซึ่งทั้งคู่มีเฉพาะระบบขับเคลื่อนล้อหน้าเท่านั้น

         ความสนุกและพลังที่จัดจ้าน ของเครื่องยนต์ในตัวรุ่น XDL เครื่องยนต์ดีเซลกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมด Manual เช่นเดียวกันกับในตัวเบนซิน 2.0 ที่แม้จะมีแรงน้อยมากกว่าที่ 105 แรงม้า แต่แรงบิดสูงสุดหรือทอร์คกลับมีมากกว่าที่ 270 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 รอบถึง 2500 รอบ/นาที ซึ่งถือว่าเครื่องยนต์ดีเซลให้ Torque ที่สูงกว่าในแง่การใช้งาน อัตราเร่งถ้าเทียบกันเองคำตอบของความสนุกในการขับน่าจะอยู่ที่ตัวเครื่องยนต์ดีเซลมากกว่า

         ถ้าจะถามต่อว่า แล้วเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 156 แรงม้า ให้พละกำลังเพียงพอต่อการใช้งาน หรือไม่ ก็ต้องบอกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งขันในท้องตลาดที่เคยมีโอกาสขับทดสอบมา เครื่องยนต์ 2.0 เบนซิน SKYACTIV ใน CX-3 ตอบสนองการทำงานได้กระชับและว่องไว รวมถึงขับได้เฉียบคมมากกว่า

ระบบความปลอดภัย i-ACTIVSENSE 8 ฟังก์ชั่น

         ถึงลักษณะทางกายภาพจะเป็นรถเล็กแบบยกสูง แต่สิ่งที่พิเศษกว่ารถยนต์รุ่นอื่นๆ ใน Segment นี้ก็คือ ในชุดช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยว GVC ที่เป็นระบบที่ทางวิศวกรของมาสด้าบอกว่า จะช่วยลดอาการโคลงของรถ โดยเฉพาะในตำแหน่งผู้โดยสารในเบาะด้านหลังได้ดีขึ้น

        ส่วนในเรื่องของอุปกรณ์ความปลอดภัยและความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย แน่นอนว่า เทคโนโลยี i-ACTIVESENSE ซึ่งเป็นเทคโนโลยีความปลอดภัยในเชิงปรัชญาของมาสด้า สกายแอคทีฟ ยังมีอยู่ครบ แต่สิ่งที่เพิ่มมาพิเศษในเรื่องของระบบความปลอดภัยก็คือ 360° View Monitor ที่เป็น ระบบช่วยให้การควบคุมรถเป็นไปอย่างเหมาะสม โดยแสดงพื้นที่รอบรถผ่านจอแสดงภายในรถ ช่วยให้มองเห็นรถได้รอบคัน ถ้าสังเกตจากโลโก้ด้านหน้าที่เป็นลักษณะพลาสติกใสคลุมตัวโลโก้ก็จะบอกได้ว่าตัวนี้คือ รถโฉมที่มีกล้อง 360 องศานี้ติดตั้งอยู่ 

AFTER DRIVE BY KAN YENSABAI

        Mazda CX-3 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรถแบบอเนกประสงค์ที่ได้รับความสนใจมาตั้งแต่เปิดตัวในบ้านเราในปี 2558 เป็นรถอเนกประสงค์แบบยุคใหม่ ในรูปแบบของ Compact คือ มีขนาดไม่ใหญ่และเป็นรถที่ดูแล้วมีสไตล์ที่ทันสมัย

       โดยส่วนตัวสำหรับผมแล้ว ถ้าโจทย์ในการหารถยนต์สักคันไว้ใช้งานของคุณคือ รถแบบอเนกประสงค์เพียบพร้อมไปได้ทุกที่ไปได้ทุกทาง หรือเป็นรถแบบลุยๆ ตัวเลือกของคุณอาจจะไม่ใช่ CX-3แต่ถ้าโจทย์ในการหารถคุณคือ ต้องการรถที่มีสไตล์ มีกลิ่นอายความสปอร์ต รถที่ขับสนุกมากๆ เมื่อเทียบกับรถใน Segment เดียวกัน รถที่มีราคาไม่เวอร์วังเมื่อเทียบกับอุปกรณ์ต่างๆ สิ่งอำนวยความสะดวกในรถ รวมถึงระบบเทคโนโลยีทันสมัยและระบบความปลอดภัยที่ให้มา ภายนอกที่ดูปราดเปรียว ขนาดกะทัดรัด แต่ไม่ถึงกับเล็กจิ๋ว

ในอนาคตเชื่อว่าน่าจะเป็นรถที่เป็นหนึ่งใน Collection ที่นักเล่นค้นหามาสะสม ด้วยคาแร็คเตอร์ที่แตกต่างและรูปทรงที่ดูชัดเจนในความเป็นตัวของตัวเอง  Mazda CX-3 คันนี้ น่าจะเติมเต็ม ความต้องการเหล่านี้ได้ครับ

ราคาจำหน่าย Mazda CX-3 2018 Collection

CX-3 2.0 E ราคา 879,000 บาท

CX-3 2.0 C ราคา 955,000 บาท

CX-3 2.0 S ราคา 1,029,000 บาท

CX-3 2.0 SP ราคา 1,083,000 บาท  *รุ่นที่ทดสอบ

CX-3 1.5 XDL ราคา 1,189,000 บาท *รุ่นที่ทดสอบ