ก่อนหน้านี้ไม่นานผมเพิ่งได้ลองขับ Honda Accord โฉมเจเนอเรชั่นที่ 10 ในเวอร์ชั่น VTEC TURBO ซึ่งก็เป็นรถที่น่าสนใจ ในเรื่องของเครื่องยนต์ Downsizing Engine หรือ เทคโนโลยีเครื่องยนต์ “เล็กแต่แรง” ตัดภาพมาในตอนนี้ ผมลองขับเจ้า HONDA ACCORD HYBRID TECH คันนี้ด้วยความเร็วเฉลี่ยราว 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง และรู้สึกดีกับน้ำหนักของพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นที่มีปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่ม รับ-วางสายโทรศัพท์ รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri พร้อมปุ่มควบคุมระบบการทำงานที่อยู่ใน Honda SENSING ได้ตามสภาพการใช้งานจริงบนเส้นทางจากตัว จังหวัดกระบี่ ไปอำเภอทัปปุด จังหวัดพังงา
รูปลักษณ์ฉีกกฎความหรู ออกแบบดูสปอร์ตแบน-กว้าง และมีไดนามิกมากขึ้น
ด้วยแนวเส้นหลังคาโค้ง มีการเดินเส้นสายตัวถังคาดคิ้วโครเมี่ยม ช่วยให้รถดูหรูหราและเกิดไดนามิก ตลอดจนการออกแบบให้รถดูแบน-กว้างมากขึ้นและเป็นรถในทรงท้ายลาด เพราะรถรุ่นนี้ ทางฮอนด้าเองยืนยันว่าดีไซน์ใหม่หมดและมันเป็นสินค้าระดับ Global ขายทั่วโลก โดยเฉพาะในตลาดที่ได้รับความนิยมอย่างอเมริกา แต่อาจมีออพชั่นบางอย่างแตกต่างกันไปและเพราะฮอนด้าตั้งใจให้ดีไซน์รุ่นนี้เป็นที่ยอมรับของคนรุ่นใหม่ เส้นสายที่ใช้มองไปถึงอนาคตโดยรวมรูปลักษณ์จึงดูปราดเปรียวโฉบเฉี่ยวขึ้น มีความสวยงามลงตัวของเส้นสาย
ห้องโดยสารพรีเมี่ยมขึ้น ด้วยสกิมสีและการตกแต่ง
โดยพื้นฐานของโครงสร้างทำมาให้ใหญ่โตอยู่แล้ว เมื่อขยายฐานล้อเพิ่มขึ้นอีก 55 มม. ส่งผลต่อห้องโดยสารกว้างขึ้นตามไป มารู้จักโครงสร้างตัวถังแบบใหม่สักนิด มันช่วยลดน้ำหนักรวมลงได้ส่วนหนึ่ง แต่ยังให้ความแข็งแกร่งที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนภายในตัวรถถือว่าเปลี่ยนได้ดูพรีเมี่ยมขึ้น โดยเฉพาะเจ้าเบาะหนังสีน้ำตาล ในรุ่น Hybrid TECH ให้ความรู้สึกเหมือนรถสปอร์ตฝั่งยุโรป ซึ่งสีภายในทั้งหมดของ All New Honda Accord จะมีให้ 3 สี ขึ้นอยู่กับสีภายนอกและรุ่นรถ
จุดเด่นของรถหลากรุ่นของฮอนด้ารวมถึงใน All New Honda Accord คือการวางเลย์เอาต์คอนโซลหน้า และการตั้งใจออกแบบเสา A ปรับให้เยื้องหลัง เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยน์ให้ผู้ขับขี่ เป็นอีกจุดที่น่าสนใจเรื่องงานดีไซน์เพราะเราจะได้มุมมอง ทัศนวิสัยผ่านกระจกบานหน้าได้มากขึ้น ยิ่งมีซันรูฟมาให้ก็ยิ่งช่วยเรื่องความโปร่งโล่งในรถ ส่วนด้านเบาะนั่งมาตามคอนเซปต์เทรนด์โลกคือ ทำให้อยู่จุดต่ำที่สุดเพื่อการควบคุมที่ดี ตำแหน่งสะโพกและช่วงขาจะรู้สึกถึงความแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าและกว้างมากพอ ที่จะนั่งเต๊ะจุ๊ย ไขว่ห้าง ได้แบบสบายๆ ครับ
ส่วนด้านการจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ เน้นให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมทุกอย่างได้เพียงปลายนิ้ว การจัดวางใช้งานง่ายที่ชอบที่สุดคงเป็นหน้าจอเครื่องเสียงระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ที่รองรับ Apple Car Play ได้ เอาไว้ฟังเพลงผ่าน App JOOX, SPOTIFY เวลาเดินทาง นอกจากนี้ ยังมี Wireless Charger สำหรับมือถือรุ่นที่รองรับไม่ต้องเสียบสายชาร์จ
ฟีเจอร์เด่น กับ Honda Sensing ระบบความปลอดภัยปกป้องรอบด้าน
จุดขายในเรื่องของระบบความปลอดภัยปกป้องรอบด้าน Honda Sensing ที่นับเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเลือก Honda Accord Hybrid Tech ที่ไม่มองข้ามในเรื่องความปลอดภัย ที่มีการทำงานผ่านกล้อง และเรดาร์ช่วยตรวจจับสิ่งกีดขวาง ทั้งในระบบช่วยเตือนการชน ทั้งจากรถยนต์ คนเดินถนน เมื่ออยู่ในระยะที่ไม่ปลอดภัย ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถคันหน้า ระบบเตือน และช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ และระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติที่เมื่ออยู่ในที่มืดมาก และจะปรับเป็นไฟต่ำเมื่อมีรถสวนเลนมา
ในส่วนของระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลนนั้น จะแสดงผลผ่านหน้าจอ 8 นิ้ว ที่มีกล้องแสดงภาพด้านหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ผ่านหน้าจอ TFT และจะทำการสั่นเตือนที่พวงมาลัย นอกจากนี้ ยังมีเบรกมือไฟฟ้า Electric Parking Brake, Brake Hold อัตโนมัติ,ถุงลม 6 ตำแหน่ง, ABS EBD VSA HAS ESS
ถอยหลังง่ายขึ้นสำหรับมือใหม่ ด้วยระบบช่วยจอด Honda Smart Parking Assist System
ระบบช่วยจอด Honda Smart Parking Assist System ที่มีโอกาสได้ลองเป็นระบบช่วยจอดที่สามารถทำได้ 2 วิธี คือ ในขณะที่เราอยู่ในลานจอดรถ เมื่อเห็นข้างหน้ามีช่องว่างจอดได้ 1 กดปุ่มใช้งานกล้องมองภาพรอบทิศทางที่ก้านปัดน้ำฝนด้านซ้าย หรือ 2 กดเลือกได้จากเมนูของหน้าจอเครื่องเสียง จากนั้นเข้าเกียร์ “D” และกดปุ่มรูปพวงมาลัยที่มีตัว P เพื่อเข้าสู่ระบบช่วยจอด ซึ่งจะมีเมนูย่อยขึ้นมาให้เลือกว่าจะจอดแบบไหน “ถอยหลัง” หรือ “ขนาน” ระบบจะแสดงกรอบสีเขียวเพื่อกำหนดพื้นที่จอดด้านซ้ายและขวา จากนั้นเลือกช่องจอดกดบนหน้าจอ และทำตามคำสั่ง เดินหน้า/ถอยหลัง หรือ “เหยียบเบรกเท่านั้น” ในขณะเดียวกันระบบจะควบคุมพวงมาลัยให้อัตโนมัติ และเมื่อพบสิ่งกีดขวางระบบจะเบรกอัตโนมัติให้ด้วย โดยระบบช่วยจอดจะยกเลิกการทำงาน อัตโนมัติ ถ้ารถมีความเร็วเกิน 10km/hr ในเกียร์ D และเกิน 7km/hr ในเกียร์ R และหากรถเคลื่อนที่ตรงกันข้ามกับที่แนะนำระบบจะตัดการทำงานอัตโนมัติ
“ฮอนด้า คอนเนค” เทคโนโลยีที่จะทำให้ผู้ขับขี่และรถยนต์สื่อสารกันได้
ส่วนเทคโนโลยีที่จะทำให้ผู้ขับขี่และรถยนต์สื่อสารกันได้ และนับเป็นจุดเริ่มต้นของสังคมการขับขี่แห่งอนาคตที่เทคโนโลยีจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้รถใช้ถนนก็ คือ “ฮอนด้า คอนเนค” เทคโนโลยีที่ผสานการทำงานกับแอพพลิเคชั่นบนมือถือสมาร์ทโฟน ที่จะช่วยเตรียมความพร้อมให้รถยนต์และผู้ขับขี่ ประกอบด้วยฟังก์ชั่นหลักทั้งการตรวจสอบและแจ้งเตือนสถานะความพร้อมของรถยนต์ การแสดงข้อมูลลักษณะการขับขี่ บันทึกเส้นทาง พิกัดรถ ความเร็ว ระยะเวลาในการขับแต่ละครั้ง และระบบติดต่อช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉินหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้รถยนต์ และเพิ่มความมั่นใจมากขึ้นในตลอดทุกการเดินทาง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทางฮอนด้าติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานใน Honda Accord Hybrid Tech แต่ทางวิศวกรของฮอนด้าแจ้งว่า ในโมเดลรถยนต์รุ่นอื่นของฮอนด้าก็สามารถเพิ่มได้ในราคาประมาณ 5,900 บาท (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
ขุมพลัง Sport Hybrid i-MMD ตอบสนองอัตราเร่งมันส์ทันใจ
แน่นอนว่าสำหรับคนที่ตัดสินใจซื้อรถไฮบริด ต้องเป็นคนที่ชอบเรื่องนวัตกรรม ชอบเทคโนโลยี หรือชอบอยู่กับความทันสมัย ซึ่งในการทำงานของเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลัง 2 ตัว พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ให้กำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 215 แรงม้า ผ่านคันเกียร์แบบ E-CVT ครับ โดยในโฉม HONDA ACCORD HYBRID TECH ทางฮอนด้านำเอาแบตเตอรี่ หรือที่เรียกว่า IPU ย้ายจากห้องสัมภาระด้านท้ายมาไว้ใต้เบาะหลัง ส่งผลให้มีที่เก็บสัมภาระมากถึง 573 ลิตร ไม่แตกต่างจากร่น VTEC TURBO ครับ
ส่วนในโหมดการขับขี่มี 3 แบบ คือ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) เป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่ในเมือง โดยแบตเตอรี่ที่ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น ช่วยให้สามารถขับขี่ในโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ได้อย่างต่อเนื่องและทำความเร็วได้สูงสุดถึง 130 กิโลเมตร/ชั่วโมง
โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) เป็นระบบขับเคลื่อนที่ใช้พลังงานไฟฟ้าที่เกิดจากเครื่องยนต์และพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ผสานกำลังในการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้เกิดแรงบิดสูงสุดอย่างรวดเร็ว และมีอัตราเร่งที่ตอบสนองทันใจ และในขณะลดความเร็วเครื่องยนต์จะหยุดทำงานและชาร์จไฟกลับอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่ในขณะเร่งความเร็วที่ให้อัตราเร่งที่นุ่มนวลและทรงพลัง
ส่วนโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) พลังขับเคลื่อนจะมาจากเครื่องยนต์ โดยชุดล็อกอัพคลัตช์ที่อยู่ในเกียร์ E-CVT จะเชื่อมต่อเครื่องยนต์และส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังล้อโดยตรง ซึ่งให้ประสิทธิภาพสูงและมีแรงเสียดทานต่ำ เป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่ด้วยความเร็วสูงคงที่ โดยระบบ Sport Hybrid i-MMD ใหม่ เป็นระบบ Full Hybrid ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 24.4 กิโลเมตร/ลิตร อีกทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 97 กรัม/กิโลเมตร ที่ประหยัดขึ้นเมื่อเทียบกับตัวก่อนหน้า ที่โรงงานเคลมไว้ 23.8 กิโลเมตร/ลิตร
AFTER DRIVE BY KAN YENSABAI
Honda Accord เองเป็นอีกหนึ่งอนุกรม รถซีดานขนาดกลาง ที่เป็นตัวแทนของภาพลักษณ์และความสะดวกสบายของการเดินทาง ในบ้านเรา แน่นอนครับในโฉมเจเนอเรชั่นที่ 10 ก็นับว่าเป็นรถยนต์ที่มาสร้างมิติใหม่ของวงการ กับความสปอร์ตที่มาคู่กับความหรูหรา รวมถึงเทคโนโลยีแบบจัดเต็ม
โดยส่วนตัวผมเอง Honda Accord ในรุ่น Hybrid Tech ให้อารมณ์สุขุมนุ่มลึกมากกว่าในตัว Honda Accord เวอร์ชั่น VTEC TURBO และก็เป็นรถที่ขับสนุกแต่ดูเป็นหนุ่มใหญ่มากขึ้น การเก็บเสียงอันยอดเยี่ยมทั้งจากระบบส่งเสียงความถี่ตัดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร และนวัตกรรมใหม่ที่ถูกมาใช้ติดอุปกรณ์เก็บซับเสียงรอบล้อแม็กเพื่อให้ลดเสียงความถี่ต่ำจากล้อและยาง ช่วงที่ขับบอกเลยว่าเงียบมาก ระดับที่ส่งผลเสียต่อความรู้สึก
บนเส้นทางการทดลองขับซึ่งต้องเร่งแซงช่วงทางสวนเลนหลายครั้ง เร้าอารมณ์กับเสียงเครื่องยนต์สังเคราะห์มาช่วยเพิ่มอรรถรส ส่วนอัตราเร่งในโหมดปรกติใช้งานได้คล่องตัวดี โดยเฉพาะใน Sport Mode ที่ช่วยเร่งความเร็วตั้งแต่ 100 กิโลเมตรขึ้นไป คล่องตัวมากขึ้น ส่วนสิ่งที่น่าสนใจนอกจากขุมพลังแล้ว คือช่วงล่างของที่ให้ความรู้สึกที่เฟิร์มและเกาะถนน และพวงมาลัยดูอัลพิเนี่ยน พร้อมพาวเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้าที่แม่นยำ น้ำหนักพวงมาลัยก็แปรผันตามความเร็ว คือ ขับช้าพวงมาลัยน้ำหนักเบา เช่น ในเมืองเพื่อความคล่องตัว แต่พอขับเร็วพวงมาลัยก็ปรับหนักขึ้นและในเรื่องของน้ำหนักแป้นเบรกก็ปรับมาได้ดี หยุดรถได้มั่นใจขึ้น
แม้ทุกวันนี้กระแสรถ PPV และ SUV ในระดับราคาใกล้เคียงกัน ซึ่งอรรถประโยชน์มากกว่า ภาพลักษณ์สูสี ตลอดรถยนต์ฝั่งยุโรประดับราคา 2 ล้านบาทต้นๆ จะมีอยู่หลายตัวเลือก รวมถึงรถซีดานคอมแพ็คในค่ายเดียวกันเองอย่าง Honda Civic เองก็ดูน่าสนใจมากขึ้นด้วย สถานการณ์ตอนนี้สำหรับรถยนต์ซีดานขนาดกลางจึงเป็นตลาดปราบเซียนที่มีการแข่งขันสูง หากต้องการเป็นรถยนต์ที่ถูกเลือก แต่ถ้าดูถึงภาพรวมในแง่ของรูปลักษณ์ความสปอร์ตที่มาคู่กับความหรูหรา การตกแต่งภายใน รวมถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ให้มาก็ยังดูมีอนาคตและสดใส ในราคาค่าตัว 1.639-1.799 ล้านบาทครับ
ABOUT HONDA ACCORD
ฮอนด้าแบ่งรุ่นจำหน่าย All New Honda Accord เจเนอเรชั่นที่ 10 ในประเทศไทยไว้ 3 รุ่น เริ่มต้นที่รุ่น TURBO EL ราคา 1,475,000 บาท (ทดสอบไปแล้ว) รุ่น HYBRID ราคา 1,639,000 บาท และรุ่น HYBRID TECH ราคา 1,799,000 บาท (เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ ใช้ E85 ได้ กับ เบนซิน 2.0 ลิตร ไฮบริดจ์ ใช้ได้ถึง E20)