วันที่ 4-5 มีนานี่ว่างไหมเต้ย..มีหมายไป Test Drive New Suzuki Ciaz?” ประโยคแรกที่ บ.ก.กันต์ ทักทายไต่ถามมาถามทาง Line ยอมรับว่าไม่ได้ดึงดูดความสนใจให้ขยับตัวเท่าไร แต่ประโยคที่ 2 ที่ตามมานี่สิ “ไปถึงเชียงใหม่ ขับขึ้นเขาเลยนะเว้ย” เอ๊ะ!! ชักน่าสน ทำไมลองรถ Eco Car ต้องไปทดสอบกันโหดขนาดนั้น แสดงว่าทาง บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ต้องมีความมั่นใจเป็นอย่างมากกับรถรุ่นนี้ แถมเห็นแวบๆ ว่ามี Presenter ใหม่คือ คุณเบลล่า-ราณี ที่รู้สึกว่าจะไม่เคยรับงานเป็น Presenter รถยนต์ยี่ห้อไหนมาก่อนเสียด้วย เก็บของสิครับท่านผู้ชมจะรออะไร เผื่อฟลุ๊คไปเจอน้องเบลล่ารอรับที่สนามบินเชียงใหม่
โดยในวันที่ 4-5 มีนาคม 2563 ทาง Suzuki มอเตอร์ (ประเทศไทย) ก็ได้จัดให้ทางคณะสื่อมวลชนรวมทั้งผม ได้อยู่เป็นกลุ่มทดสอบที่ 3 ซึ่งเป็นกลุ่มสุดท้ายพอดี ที่จะได้ร่วมทดสอบก่อนใครกับรถ Eco Car รุ่นใหม่ล่าสุด New Suzuki Ciaz โดยก่อนการทดสอบจะเริ่มขึ้น คุณวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ก็ได้บรรยายสรุปคร่าวๆ ถึงความตั้งใจที่จะพลิกโฉมหน้าตลาดรถ Eco Car แบบกินรวบด้วยรถ Eco Car 3 รุ่นหลักของค่ายอย่าง New Suzuki Swift, Celerio และเจ้า New Suzuki Ciaz น้องใหม่ล่าสุด ซึ่งถือว่าเป็นการ Minor Change ครั้งแรกตั้งแต่ทำตลาดในประเทศไทยมา และแนะนำ Presenter คนใหม่ล่าสุดของทางค่าย คุณเบลล่า- ราณี แคมเปน ซึ่งเป็นผู้ใช้รถ Suzuki Swift อยู่แล้ว จึงถือว่ามีความผูกพันกับทางแบรนด์ Suzuki เป็นอย่างมาก เลยยินดีที่ได้มีโอกาสมาร่วมงานกันในครั้งนี้...
ภายนอกเปลี่ยนไป สายสปอร์ตต้องรัก สายซิ่งต้องหลง
แวบแรกที่ได้มาสัมผัสกับรถคันจริง สิ่งที่เปลี่ยนแปลงภายนอกของเจ้า New Suzuki Ciaz อย่างเห็นได้ชัดคือ เส้นสายรอบคันที่ถูกประดับประดาไปด้วยคิ้วโครเมี่ยม เพิ่มความสปอร์ตหรูหรามีระดับ รวมไปถึงกระจังหน้าสีดำแบบสปอร์ต ตัดด้วยคิ้วโครเมี่ยม ขับให้โลโก้ตัว S ดูเด่นขึ้น , ไฟหน้าแบบใหม่เปลี่ยนมาใช้แบบ LED Projector ตามสมัยนิยม พร้อมไฟตัดหมอก ช่วยให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ยามค่ำคืนกระจ่างใสชัดเจนและปลอดภัยยิ่งขึ้น, ไฟท้ายดีไซน์ใหม่หมด รวมไปถึงสปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 และฝาท้ายประดับด้วยโลโก้ RS สีน้ำเงิน อันเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่านี่คือตัวหล่อขั้นสุดในตระกูล New Suzuki Ciaz แล้ว ล้อแม็กอลูมิเนียมอัลลอยแบบรมดำที่ให้มาเป็นขอบ 16 ทำให้ภาพรวมของรถคันนี้เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน Minor Change ดูดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตาเลยทีเดียว...
ภายในหรูหรา อุปกรณ์ครบครัน ทันสมัยด้วยเครื่องเสียงรองรับ Apple CarPlay
ก้าวเข้ามาในห้องโดยสารซึ่งตกแต่งด้วยโทนสีดำ ขลิบลายคอนโซลด้วยสีเงินแบบสปอร์ต พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มด้วยหนัง เบาะหุ้มหนังทั้งคันให้ความรู้สึกหรูหรา ห้องโดยสารโดยรวมโปร่งโล่งสบาย แม้ว่าจะใช้สีดำในการตกแต่งก็ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด และที่รู้สึกพิเศษกว่าบางยี่ห้อคือ เจ้า New Suzuki Ciaz มีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังให้ด้วย!! (C Segment บางคันยังไม่ให้มาเลยนะนั่น) ช่องวางเครื่องดื่มก็มีมาให้ถึง 8 ตำแหน่ง และหน้าจอเครื่องเสียงแบบ Touch Screen ขนาด 7 นิ้ว แถมคราวนี้ยังรองรับระบบ Apple CarPlay เสียด้วย ใครที่ใช้ iPhone ก็แค่เสียบสาย USB เข้าช่องต่อ ระบบก็จะยกหน้าจอ iPhone ของท่านมาขึ้นจอเครื่องเสียงของรถและปรับ Interface มาให้ใช้งานง่ายขึ้น ลดการละสายตาขณะขับขี่ ช่วยให้เราโฟกัสไปยังจุดหมายและสภาพการจราจรได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย กล้องมองหลังพร้อมเส้นวัดระยะก็ช่วยให้เราถอยจอดได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น อ้อ..แต่ที่ร่ายมานี่เกือบทุกอุปกรณ์จะมีมาให้เฉพาะในรุ่น Top Grade RS เท่านั้นนะครับ...
ขุมพลังเดิม K12B ประหยัด ทน ถึก ซ่อมบำรุงง่าย ช่างยนต์ไม่ขยาด
สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันในทุก Grade ราคาของเจ้า New Suzuki Ciaz นั่นก็คือเครื่องยนต์ โดยยกขุมพลังมาจากรุ่นที่แล้วคือเครื่องรหัส K12B 1,242 CC 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 91 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที เหตุผลหลักที่ทาง Suzuki Motor (ประเทศไทย) เลือกที่จะใช้เครื่องยนต์บล็อกเดิมก็คือ ความทนทานและความประหยัดน้ำมัน ซึ่งลูกค้าที่ใช้ Eco Car บางคนใช้รถประเภทนี้เป็นรถคันแรกในชีวิต ส่วนใหญ่มักจะไม่มีความรู้ในเรื่องของการดูแลบำรุงรักษา ซึ่งบางเคสลูกค้าขับไป 4 หมื่นกิโลเมตร ไม่เคยเข้าศูนย์ Service เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเลยก็มี เอาจนหน้าจอเตือนรูปกาน้ำมันเครื่องถึงได้สงสัยว่ารถมันเป็นอะไรจึงได้ขับเข้าศุนย์ฯ ช่างตรวจดูอาการพอรู้สาเหตุ – จับเปลี่ยนชิ้นส่วนที่จำเป็นและล้างห้องเครื่อง-เปลี่ยนของเหลว จบ ขับใช้งานได้ต่อแบบสบายๆ ทนถึกขนาดนี้ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแล้วล่ะครับ ให้ลูกค้าได้ใช้ของดีไปจนกว่าจะมี เทคโนโลยีใหม่ๆ มาแทนที่เถอะ ส่วนระบบส่งกำลังก็มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ แบบ CVT การออกตัวหรือเร่งแซงสามารถทำได้แบบไม่ต้องลุ้นอะไรมากมายเหลือเฟือสำหรับการใช้งานในเมือง หรือแม้กระทั่งออกทริปนอกเมืองก็ยังได้แบบหล่อๆ ชิลล์ๆ...
ช่วงล่าง - ระบบความปลอดภัย มีมาให้ ไม่ลดทอน
โครงสร้างตัวถังนิรภัย (TECT) ออกแบบพิเศษจากเหล็กกล้าทนทานสูง ปลอดภัยทุกการเดินทาง รวมไปถึงการออกแบบห้องโดยสารแบบ NVH ที่ช่วยซับเสียงรบกวนจากภายนอก ลดแรงสั่นสะเทือน เพิ่มความสุนทรีย์ในการขับขี่ พร้อมด้วยช่วงล่างระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท / ด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม ถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS – เข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติครบทั้ง 5 ตำแหน่งผู้โดยสาร และระบบป้องกันล้อล็อกพร้อมกระจายแรงเบรก ABS-EBD ก็มีมาให้อย่างครบครัน ขับขี่มั่นใจในทุกการเดินทางอย่างแน่นอน...
After Drive By Taey Sutthipol Nincha-Em
ผมยอมรับว่าไม่เคยมีโอกาสได้ใช้สิทธิ์รถคันแรกตามนโยบายรัฐบาลกับชาวบ้านเขา ไม่ว่าเฟสไหนก็ตาม ดังนั้น รถในตระกูล Eco Car จึงไม่ได้อยู่ในสายตาสักเท่าไร แต่น้องๆ ทั้งที่ทำงานและที่บ้านต่างก็มีรถใน Segment นี้ใช้กันทั้งนั้น (รวมไปถึงน้องสาวของผมก็ใช้เจ้า Suzuki Ciaz โฉมแรกด้วย) พอมีโอกาสได้ทดลองขับในเส้นทางทดสอบจากตัวเมืองเชียงใหม่ ที่การจราจรพลุกพล่านไม่แพ้เมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ ลากยาวไปจนถึงทางโค้งขึ้นเขาร้านปูอลาสก้า อำเภอเชียงดาว สองเส้นทางที่ต่างกันอย่างสุดขั้วซึ่งหาได้เฉพาะที่เชียงใหม่เท่านั้น ทำให้ผู้ทดสอบสามารถรีดสมรรถนะของตัวรถได้เป็นอย่างดี การออกตัวแซงรถของเจ้าถิ่นที่ขับกันแบบต๊ะตอนยอนทำได้อย่างทันใจไม่ต้องลุ้น การสาดโค้งขึ้นเขาก็ทำได้อย่างมั่นใจไม่มีหลุดให้ต้องหวาดเสียว ช่วงที่เป็นเส้นทางขึ้นเขาผมได้ผลัดกับเพื่อนๆสื่อมวลชนไปนั่งโดยสารด้านหลังดูบ้าง พบว่าการให้ตัวของห้องโดยสารทำได้ดี ไม่ได้โคลงมากมายจนต้องขอลงไปอาเจียนข้างทาง อาจจะเป็นเพราะทัศนวิสัยในห้องโดยสารที่โปร่งโล่ง กระจกด้านหน้าและด้านผู้โดยสารตอนหลังมีขนาดบานที่ใหญ่ ทำให้ช่วยเรื่องการอึดอัดเวียนหัวให้ลดลงได้อย่างดีมาก จุดสังเกตหนึ่งที่พบคือ หมอนพิงศีรษะคนนั่งหลังเป็นแบบปรับไม่ได้ ถ้าคนตัวเล็กหรือสูงเกินไปอาจจะนั่งไม่สบาย แต่คนสูง 176 ซม. อย่างผมพบว่ามันหนุนท้ายทอยกำลังดี ผมหลับตอนขึ้นเขาได้ก็คิดดูละกัน ถ้ามีที่เท้าแขนเบาะหลังตรงกลางคงจะดีกว่านี้ (ผู้โดยสารจะได้ไม่ต้องอยู่ในท่ากอดอกหลับ) ช่วงเปลี่ยนคนขับรอบสุดท้ายผมขออาสาขับส่งทุกคนเข้าเมือง เพราะส่วนตัวคิดว่ารถ Eco Car เราคงใช้ชีวิตกับมันในเมืองเป็นส่วนใหญ่ จึงอยากลองจับความรู้สึกดู ซึ่งเจ้า New Suzuki Ciaz ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง พวงมาลัยน้ำหนักกำลังดีเวลาขับในเมือง จะเปลี่ยนเลนจราจรแบบมุดซอกแซกก็ทำได้ง่ายดาย อัตราเร่งเป็นไปตามน้ำหนักเท้าของผู้ขับ เหยียบยังไงได้อย่างนั้น น้ำหนักเบรกกำลังดี ไม่เบรกจึ๊กจนหัวสั่นหัวคลอน พอไปถึงจุดหมายโดยสวัสดิภาพ ผมเดินลงจากรถแล้วมองไปที่รถคันนี้ด้วยความรู้สึกใหม่ๆ คิดในใจว่า ถ้า Eco Car จะเป็นคำตอบได้ทุกโจทย์การใช้งานของคนเมืองขนาดนี้ เมื่อจะต้องซื้อรถคันที่ 2 เจ้า New Suzuki Ciaz จะต้องถูกพิจารณาเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ แน่นอน จากรถที่ไม่เคยอยู่ในสายตา ตอนนี้กลับมานั่งอยู่ในใจผมเรียบร้อยแล้วครับ เศรษฐกิจยุคข้าวยากหน้ากาก(อนามัย)แพงแบบนี้ Eco Car สักคันก็พอถมเถเชื่อหัวไอ้เรืองเถอะ
New Suzuki Ciaz มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย
GL ราคา 523,000 บาท (เกียร์ธรรมดา) และ 559,000 บาท (เกียร์อัตโนมัติ CVT)
GLX ราคา 625,000 บาท (เกียร์อัตโนมัติ CVT)
RS ราคา 675,000 บาท (เกียร์อัตโนมัติ CVT)
New Suzuki Ciaz มีสีให้เลือกทั้งหมด 6 สี คือสีขาว Pure White Pearl, สีดำ Super Black Pearl, สีน้ำตาล Dignity Brown Pearl Metallic (เฉพาะรุ่น GL,GLX), สีเทา Mineral Gray Metallic (เฉพาะรุ่น GL,GLX), สีเงิน Star Silver Metallic (เฉพาะรุ่น GL,GLX) และสีพิเศษ สีแดง Ablaze Red Pearl (เฉพาะรุ่น GLX,RS)
เฉพาะ New Suzuki Ciaz รุ่น Top Grade RS มีระบบเครื่องเสียงเชื่อมต่อกับผู้ขับขี่ที่ใช้ iPhone ด้วยระบบ Apple CarPlay ที่สามารถยกรายชื่อในสมุดโทรศัพท์, ข้อความ, ระบบนำทาง, และเพลงที่คุณชื่นชอบจาก Apple Music มาไว้ในหน้าจอเครื่องเสียงติดรถได้เลย เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่ มาพร้อมระบบนำทางด้วยดาวเทียมและการเชื่อมต่อ Bluetooth พร้อมกล้องมองหลังช่วยในการถอยจอด เบาะโดยสารหุ้มหนังและพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังแบบสปอร์ต 3 ก้าน