สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หรือที่เราเรียกสั้นๆ ว่า สปป.ลาว ประเทศเพื่อนบ้านที่มี สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลากหลาย ทั้งวัดวาอาราม โบราณสถาน ธรรมชาติ หรือวิถีชีวิตที่มีเอกลักษณ์ จึงเป็นหนึ่งในที่เที่ยวต่างประเทศใกล้ไทยที่หลายคนสนใจ
และจากความสำเร็จของโปรเจกต์พิเศษ “Isuzu V-Cross 4x4 Master Of All Roads…ตัวจริงทุกเส้นทาง” ซีซั่น 1 สู่ “Isuzu V-Cross 4x4 Master Of All Roads…ลุยท้าโลก” ซีซั่นที่ 2 การเดินทางสำหรับ “NEW! ISUZU V-CROSS 4X4 MAGIC EYEs” ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะใช้งานในแบบออนโรด หรือตะลุยในแบบออฟโรด เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถปิกอัพออฟโรดระดับพรีเมี่ยมสู่ประสบการณ์จริงของการขับขี่ บนเส้นทางอุบลราชธานี – ปากซอง – ปากเซ ใน สปป.ลาว เพื่อเปิดอีกหนึ่งประสบการณ์การท่องเทียวโดยรถยนต์ ขับข้ามประเทศง่ายๆ ด้วยน้ำมันเพียงหนึ่งถัง
โชว์รูมอีซูซุตังปักอุบลสู่ด่านช่องเม็ก จุดผ่านแดนไทย – ลาว
การเดินทางเริ่มต้นที่ จังหวัดอุบลราชธานี ที่อีซูซุตังปักอุบลฯ สำนักงานใหญ่ เพื่อรับรถอีซูซุและบรีฟเส้นทางการสัมผัสประสบการณ์ “Isuzu V-Cross Press Trip ลุย! ท้าโลก” ก่อนเริ่มเดินทางด้วย ISUZU V-CROSS 4x4 MAGIC EYEs รวมทั้งสิ้น 11 คัน
หมุดหมายแรกของคาราวาน “Isuzu V-Cross Press Trip ลุย! ท้าโลก” อยู่ที่การข้ามแดนผ่านด่าน ช่องเม็ก จุดผ่านแดนไทย – ลาว ตั้งอยู่ในเขตอำเภอสิรินธร ห่างจากตัวจังหวัดราว 90 กิโลเมตร เป็นพื้นที่ชายแดนติดต่อระหว่างไทยกับลาว ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนจุดเดียวในภาคอีสานที่สามารถเดินทางไป สปป.ลาว ได้โดยทางพื้นดิน (ในขณะที่จุดอื่นๆ จะต้องข้ามลำน้ำโขง) และเป็นที่สิ้นสุดของทางหลวงหมายเลข 217 จากอุบลราชธานี ถนนสายนี้เชื่อมกับถนนในเขตลาวเข้าไปสู่เมืองปากเซในอีก 38 กิโลเมตร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงสายเอเชีย
ผ่านพิธีการด่านตรวจคนเข้าเมือง การตรวจนำยานพาหนะออกนอกราชอาณาจักร เพราะการนำรถเข้าสปป.ลาว ต้องทำพาสปอร์ตรถ รถทุกชนิดที่เดินทางสัญจรไป-มาใน สปป.ลาว ทุกคันต้องมีหนังสือเดินทาง (หรือพาสปอร์ต) ประจำรถคันนั้นๆ เพื่อตรวจสอบได้อยู่ตลอดเวลา พร้อมกับติดสติ๊กเกอร์เป็นภาษาอังกฤษตัว T ที่ย่อมาจากคำว่า “ไทยแลนด์”
“ขับชิดขวานะครับสมาชิก” เสียงจากรถคาราวานลีดเดอร์ “Isuzu V-Cross Press Trip ลุย! ท้าโลก” แจ้งย้ำเตือนทันทีที่ก้าวข้ามชายแดนไทยไปถึงสปป.ลาว ผ่านด่านวังเต่าฝั่งลาว เพื่อไปปั๊มตราประทับเข้าเมือง การขับรถยนต์ท่องเที่ยวในสปป.ลาว สามารถใช้ใบอนุญาตขับขี่แบบสมาร์ทการ์ดของประเทศไทยได้ โดยไม่จำเป็นต้องทำใบขับขี่นานาชาติ และรถยนต์ใน สปป.ลาว ขับพวงมาลัยซ้าย ซึ่งแตกต่างจากไทย คาราวาน “Isuzu V-Cross Press Trip ลุย! ท้าโลก” ต้องปรับโหมดการขับรถยนต์ใหม่มาเป็นขับชิดขวาและการแซงต้องแซงด้านซ้าย ซึ่งขับยากพอสมควรครับ เพราะสลับเลนส์กันขับกับบ้านเรา เวลาแซงต้องให้สมาชิกคนนั่งข้างๆ ในรถ ดูให้ว่าถนนว่างไหม
มื้อแรกในลาวที่ร้านอาหาร ลาเมมัว (La Memoire) ปากเซ
คาราวาน “Isuzu V-Cross Press Trip ลุย! ท้าโลก” มุ่งหน้าเดินทางต่อไปยังร้านอาหาร ลาเมมัว ร้านอาหารขึ้นชื่อที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ปากเซ เพื่อทานข้าวมื้อแรกในลาว และชมบรรยากาศการตกแต่งตัวร้านที่มีกลิ่นอายของความคลาสสิกและวินเทจกับอาคารยุคอาณานิคมฝรั่งเศสไปพร้อมกับอาหารมื้ออร่อย ที่การันตีด้วยรสชาติความหลากหลายของอาหาร ทั้งอาหารลาว ไทย เวียดนามและยุโรป เพื่อส่งต่อพลังให้กับการขับรถในช่วงบ่าย หลังจากอิ่มจากอาหารเที่ยงแล้วเดินทางไปสัมผัสธรรมชาติและเล่นซิปไลน์ ที่น้ำตกตาดฟาน แห่งเมืองปากซอง
ตาดฟาน น้ำตกคู่แฝดที่สวยและสูงที่สุดแห่ง สปป.ลาว
38.8 กม. ผ่านทางด่วนพิเศษตัดใหม่สู่เมืองปากซอง หรือ ปากช่อง คาราวาน “Isuzu V-Cross Press Trip ลุย! ท้าโลก” ก็มาถึงน้ำตกตาดฟาน ปากซอง เพื่อสัมผัสธรรมชาติความยิ่งใหญ่ของน้ำตกคู่แฝดแห่ง สปป.ลาว
ปากซอง คือ เมืองที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของแขวงจำปาสัก สาละวัน หรืออัตตะปือ ประเทศลาว ถือเป็นภูมิภาคที่มีความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ ที่นี่มีน้ำตกงามๆ หลายแห่งที่ควรค่าแก่การไปเที่ยวชม เพราะพื้นที่ของเมืองปากซองอยู่ในเขตภูเขาและที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และกิจกรรมแอดเวนเจอร์ที่น่าประทับใจต่างๆ มากมาย นอกจากนี้ ยังเป็นเมืองที่มีความอุดมสมบรูณ์ของป่าไม้ และน้ำตกงดงามหลายแห่ง เมืองปากซอง เป็นเมืองตากอากาศอีกแห่งหนึ่งของลาวที่น่าไปเยือนเป็นอย่างยิ่ง
คนลาวจะเรียกน้ำตกว่า “ตาด” ครับ ซึ่งหมายถึงน้ำตกที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในป่าเขา เป็นการไหลของน้ำตกลงมาตามโตรกผาสู่แอ่งเบื้องล่าง จริงๆ แล้วน้ำตกตาดฟานอยู่ห่างจากเมืองปากเซประมาณ 21 กิโลเมตร และเมืองปากเซก็ห่างจากด่านช่องเม็ก บริเวณตำบลช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ประมาณ 40 กิโลเมตร จึงสามารถไปเที่ยวได้อย่างง่ายดายจากเมืองไทย ใครเป็นขาลุยเที่ยวธรรมชาติ ห้ามพลาดมาชม
น้ำตกตาดฟาน เป็นน้ำตกที่ได้ชื่อว่าสูงที่สุดในประเทศลาว มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นสายน้ำ 2 สาย ด้วยเป็นน้ำตกสูงใหญ่ 2 สายไหลลงสู่หน้าผาสูงชันสู่กลางหุบเขา ว่ากันว่าที่นี่เคยเป็นปากปล่องภูเขาไฟมาก่อน จึงมีความสูงกว่า 250 เมตร และเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในแขวงจำปาสักครับ บริเวณรอบๆ น้ำตกรายล้อมด้วยมอสสีเขียวที่ขึ้นหนาแน่น ทำให้ภาพน้ำตกสีขาวตัดกับสีเขียวของเหล่ามอสอย่างสวยงาม ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดที่ชมทะเลหมอกได้สวยงามอลังการมากๆ
Zipline เหินฟ้าท้าความเสียว กับการโหนสลิงข้ามหุบเขาที่น้ำตกตาดฟาน
สิ่งที่น่าสนใจนอกเหนือจากการเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ มีความสดชื่นของป่ามากกว่าเมืองแล้ว สปป.ลาว ยังถือเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวสายกิจกรรมแอดเวนเจอร์เป็นอย่างมาก อีกทั้งการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติของประเทศลาวยังสามารถสร้างรายมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ
ซึ่งสำหรับใครอยากมีประสบการณ์ท้าทายความกล้ากัน เหมือนการผจญภัยโลดโผน เหินฟ้า ท้าความเสียว โหนสลิง ใช้ชีวิตอย่างทาร์ซาน ต้องห้ามพลาดไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ กิจกรรมแนวผจญภัย การโหนซิปไลน์ หรือการโหนสลิงข้ามน้ำตกและข้ามไป-มาระหว่างหุบเขาสูงใหญ่ สำหรับท่านชอบความตื่นเต้น ท้าทาย "บอกเลยว่ามันฟินและหวาดเสียวสุดๆ ซึ่งต้องเตรียมร่างกายและจำเป็นต้องมีไกด์ในการนำทาง
ทั้งนี้ กิจกรรมโหนซิปไลน์ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวค่อนข้างมาก เพราะเป็นซิปไลน์ข้ามน้ำตกตาดฟาน ที่ถือเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดของเมืองจำปาสัก ประเทศลาวครับระยะทางประมาณ 450 เมตร มีทั้งหมดราว ๆ 4-5 ฐาน ข้ามไป-มาระหว่างหุบเขาสูงใหญ่ ซึ่งผมและสมาชิกคาราวานที่ตัดสินใจเล่น เลือกเป็นการโหนซิปไลน์ แบบโหนไปด้วยมือเฉยๆ ไม่กล้าพอครับ กับการนั่งจิบกาแฟลาวแสนอร่อยบนสลิงห้อยกลางอากาศรับลมเย็นๆ พร้อมชมน้ำตกไปด้วย!
เส้นทางซิปไลน์ที่ผ่านเข้าไปในป่าลึกที่สามารถชมความงามของธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ ก่อนที่เราจะไปเล่นกันจะมีเจ้าหน้าที่มาแนะนำอุปกรณ์ต่างๆ และซักซ้อมการเล่น เพื่อความปลอดภัยกันก่อนครับ และไม่แนะนำให้คนมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพด้านหัวใจและความดันเล่นกิจกรรมหวาดเสียวนี้ ทั้งการแกะสลักเซฟตี้ต่อเนื่องขึ้นไปเรื่อยๆ ในแต่ละฐาน Zipline ที่ต้องใช้สมาธิอย่างมากไม่ให้ลืมคล้องสายเซฟตี้
อากาศที่นี่จะเย็นตลอดทั้งปีมีความชื้นสูง ทำให้ตลอดระยะเวลาเดินป่าเพื่อไปในแต่ละฐาน Zipline มีแต่ความสดชื่นลมโชยเย็นสบาย และระหว่างจะมีสตาฟคอยดูแลตลอดเส้นทางเพื่อดูแลความปลอดภัย ได้มาสัมผัสกิจกรรมโหนซิปไลน์ที่สนุกมากๆ แล้ว ยังเหมือนได้ท้าทายขีดความสามรถของตัวเอง ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำอีกด้วยครับ
ส่วนใครที่มาเที่ยวน้ำตกตาดฟานแล้วไม่อยากผจญภัยโลดโผน เหินฟ้า ท้าความเสียวกับการเล่นซิปไลน์ ก็สามารถนั่งชิลล์ๆ ชมวิวรับอากาศเย็นๆ ฟังเสียงน้ำตกแบบใกล้ชิดกันไปเลย เพราะมีทั้งร้านอาหารและร้านกาแฟไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวด้วยครับ
จากนั้นคาราวาน “Isuzu V-Cross Press Trip ลุย! ท้าโลก”เดินทางเข้าที่พัก ณ โรงแรมสะบายดี วัลเล่ย์ รีสอร์ท (Sabaidee Valley) ซึ่งแวดล้อมไปด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบ สูดอากาศบริสุทธิ์ท่ามกลางธรรมชาติแห่งขุนเขา ที่มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ เป็นไฮไลท์ และปิดท้ายวันด้วยการรับประทานอาหารค่ำ ที่ร้านอาหารในโรงแรม ให้บริการด้วยเมนูอาหารที่คัดสรรเป็นอย่างดี พร้อมนั่งฟังเพลงชิลล์ๆ เคล้าวิวทิวเขา และชมการแสดงฟ้อนรำจากน้องๆ สาวน้อยชาวลาว ด้วยความประทับใจ ก่อนแยกย้ายกันไปชาร์จพลังพร้อมลุยต่อในวันพรุ่งนี้
CC 1971 Café. ร้านกาแฟที่บันทึกร่องรอยจากสงครามอินโดจีน
เช้าวันที่สองของการเดินทางที่เมืองปากซอง คาราวาน “Isuzu V-Cross Press Trip ลุย! ท้าโลก” เดินทางมาที่ “CC 1971 Café.” ร้านกาแฟสุดฮิต ตั้งอยู่ในเมืองปากซอง ที่นี่เป็นร้านกาแฟที่ยังหลงเหลือร่องรอยจากสงครามอินโดจีน โดยเมื่อก่อนตึกดังกล่าวเคยเป็นสำนักงานการไฟฟ้าเก่าของเมือง คาเฟ่แห่งนี้หากไม่มาถือว่ามาไม่ถึง จุดเด่นของร้านกาแฟแห่งนี้คือตัวตึกที่เหมือนตึกร้าง อีกทั้งตามฝาบ้านยังมีรอยกระสุนหลายชนิด รวมทั้งซากปืนใหญ่ ซากลูกระเบิด แต่ก็ถือว่าเป็นจุดขายของที่นี่ เลยทำให้มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาถ่ายรูปกันอย่างข้างๆ คับคั่ง
ตาดแซะพะ น้ำตกมหัศจรรย์แห่งลาวใต้
60 กิโลเมตร จาก “CC 1971 Café.” ร้านกาแฟ ในเมืองปากซอง มาที่ ตาดแซะพะ แม้ระยะทางจะดูเหมือนไม่ไกลมาก แต่บอกเลยว่าเส้นทางไปโหดใช้ได้เลยครับสำหรับจุดหมายต่อมาในวันนี้ ของคณะคาราวาน
ตาดแซะพะ น้ำตกมหัศจรรย์แห่งลาวใต้ หนึ่งในสองของน้ำตกในแขวงอัตตะปือ สปป.ลาว ที่น้อยคนจะรู้จัก แต่กำลังเป็นที่กล่าวขานสำหรับนักท่องเที่ยวที่ได้ไปสัมผัส อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 60 กิโลเมตร แม้ระยะทางดูเหมือนไม่ไกลมาก แต่บอกเลยว่าทางไปออฟโรดใช้ได้ และเป็นทางลูกรัง และหากฝนตก บอกเลยว่าผ่านยากลำบาก ต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น ซึ่งการเดินทางไปยังตาดแซะพะ น้ำตกมหัศจรรย์แห่งลาวใต้ เป็นเส้นทางที่เหมาะกับการพิสูจน์สมรรถนะของรถ ISUZU V-CROSS 4X4 MAGIC EYEs ที่ใช้ในการเดินทางครั้งนี้
เครื่องยนต์ Isuzu 3.0 Ddi Blue Power รุ่น 4JJ3-TCX กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,600 รอบ/นาที ระบบ Terrain Command สวิตช์เปลี่ยนการขับเคลื่อนจาก 2 ล้อเป็น 4 ล้อ ทำงานได้ฉับไว แม่นยำ เลือกการใช้งานให้เหมาะกับทุกสภาพถนนทั้ง 2H/4H และ 4L พร้อมสมรรถนะในการลุยน้ำได้สูงสุด 800 มิลลิเมตร ระบบ Electronic Diff-Lock ควบคุมการทำงานด้วยไฟฟ้า เรียกได้ว่าเป็นรถเดิมๆ จากไม่ได้ปรับแต่งอะไร แต่ตอบโจทย์ การเดินทางท่องเที่ยว แบบผจญภัยในครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งถ้าไปที่นี่แล้วก็ไม่ควรพลาดที่จะดื่มด่ำซึมซับพลังของธรรมชาติและเสียงน้ำตกที่ยิ่งใหญ่
ปากเซ มนต์เสน่ห์แห่งลาวใต้
จากตาดแซะพะ น้ำตกมหัศจรรย์แห่งลาวใต้ ผ่านทางหลวงชนบท และผ่านทางด่วนพิเศษตัดใหม่สู่เมือง คณะคาราวานก็เดินทางมาถึงยังเมืองปากเซ มนต์เสน่ห์แห่งลาวใต้ เมืองเอกของแขวงจำปาสัก ที่อยู่ริมแม่น้ำโขง เมืองปากเซ นอกจากจะเป็นเมืองท่องเที่ยวอีกแห่งของประเทศลาว ที่มีที่เที่ยวที่สวยงามมากมาย ทั้งวัด โบราณสถาน มรดกโลก เส้นทางเดินป่า และน้ำตกสวยๆ หลายแห่งแล้ว ยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจกับแขวงจำปาสัก และนับว่าเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของลาวตอนใต้ ที่มีประชาชนหลากหลายชนชาติเข้ามาดำรงชีวิตที่เมืองนี้อีกด้วย
ที่เมืองปากเซคาราวานเพลิดเพลินกับอาหารมื้อค่ำ ที่ร้านหมูกระทะฮิตติดลมบนของคนรักปิ้งย่างที่ร้าน “ซิ้นดาดลูลี่ ลูล่า” ที่คัดสรรมาเนื้อคุณภาพดีมาเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะ ก่อนเข้าเช็กอินกันที่ “โรงแรมจำปาสักแกรนด์ “ โรงแรมที่มีทำเลที่ดีมากในเมืองปากเซ นอกจากจะมีขนาดใหญ่แล้ว โรงแรมยังอยู่ติดริมแม่น้ำโขงตรงสะพานมิตรภาพญี่ปุ่นลาว ประตูสู่เมืองปากเซ อีกด้วย ซึ่งทำให้ผู้เข้าพักจะได้เห็นวิวทิวทัศน์อันสวยงามของแม่น้ำโขง รวมทั้งสะพานที่สวยงามเหมาะกับการพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง
วัดพูสะเหลา จุดชมวิวที่สวยที่สุดของปากเซ
เช้าวันที่ 3 ที่เมืองปากเซ หลังจากเช็กเอาท์ที่โรงแรมแล้ว คณะคาราวาน จึงได้แวะไปสักการะวัดพูสะเหลา ศาสนสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของสปป.ลาว ตั้งอยู่บนเนินเขาใกล้กับสะพานลาว-ญี่ปุ่น เมื่อมองมาจากบนสะพานจะเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีเหลืองทองสง่างามบนเนินผา ซึ่งจากจุดที่ตั้งของพระพุทธรูปองค์ใหญ่ก็เป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองปากเซด้วยเช่นกัน เพราะสามารถมองเห็นเวิ้งแม่น้ำโขงไกลสุดลูกหูลูกตา สะพานลาว-ญี่ปุ่น พร้อมทั้งวิวทิวทัศน์ของเมืองปากเซอันเงียบสงบได้แบบ 360 องศา และเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมเมื่อมาเยือนปากเซ บริเวณโดยรอบวัดพูสะเหลายังมีพระพุทธรูปองค์เล็กตั้งเรียงรายอีกมากมาย ถือได้ว่าเป็นจุดท่องเที่ยวแรกของเมืองปากเซที่ไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว
“ตั้งขบวนตาม Carlist เข้าด่านนะคะ 01-07” เสียงจากรถคาราวานลีดเดอร์แจ้งสมาชิกคาราวาน “Isuzu V-Cross Press Trip ลุย! ท้าโลก” ก่อนมุ่งหน้าข้ามด่านลาว เดินทางกลับสู่ประเทศไทยที่ด่านช่องเม็ก จังหวัดอุบลฯ ที่ด่านลาวนั้น สมาชิกคาราวานตั้งขบวนเข้าด่านผ่านไม้กั้นทีละคัน เลื่อนกระจกลงทุกบาน ผ่านเฉยๆ ส่วนคนไม่ต้องลง ก่อนวนรถจอดหน้า Duty free ลาว เพื่อรับคืนพาสปอร์ตและเอกสารรถ
ส่วนที่ด่านช่องเม็ก จังหวัดอุบลฯ ฝั่งไทย ประทับตราพาสปอร์ตให้ล่วงหน้า สมาชิกคาราวานแค่ขับรถผ่านช้าๆ และเลื่อนกระจกลงทุกบาน คนไม่ต้องลงรถก็เสร็จพิธีการ คาราวาน “Isuzu V-Cross Press Trip ลุย! ท้าโลก” ก็ข้ามด่านลาวเดินทางกลับสู่ประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ ก่อนไปแวะรับประทานอาหารเที่ยงกันที่ “ร้านชมจันทร์ Bar and Restaurant ร้านอาหารริมแม่น้ำมูล ที่เป็นที่นิยมในเมืองอุบล สำหรับการสังสรรค์เป็นหมู่คณะ ร้านกว้างขวางตกแต่งสวยงามบรรยากาศดี ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำมูลใกล้สะพาน 100 ปีสมเด็จพระศรีนครินทร์ ชมธรรมชาติเย็นสบาย เสิร์ฟอาหารหลากหลายทั้งอาหารไทยอีสานและอาหารนานาชาติ โดยเฉพาะเมนูปลาที่บอกเลยว่าสดมากกันแบบอิ่มหนำ
ก่อนจะไปปิดท้ายทริป “Isuzu V-Cross 4x4 Master Of All Roads …ลุยท้าโลก” บนแผ่นดินลาวใต้ กันที่โชว์รูมอีซูซุตังปักอุบล สำนักงานใหญ่เพื่อส่งมอบคืนรถ โดยการเดินทางทั้งหมดของทริป Isuzu V-Cross Press Trip ลุย! ท้าโลก” เส้นทางอุบลราชธานี – ปากซอง – ปากเซ และกลับมาที่ประเทศไทยอีกครั้ง ในทริปนี้โดยรวมเส้นทางกว่า 542 km น้ำมันในถังยังเหลือให้วิ่งท่องเที่ยวในประเทศไทยต่อได้อีก บอกเลยครับว่า ISUZU V-CROSS 4X4 MAGIC EYEs ประหยัดน้ำมันไม่ธรรมดาจริงๆ
คุยหลังขับ BY Kan Yensabai
สำหรับรถ Double Cab V-Cross 3.0 M 6AT 4×4 ราคาค่าตัว 1,217,000 บาทที่ใช้ในการเดินทางครั้งนี้ กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,600 รอบ/นาที ของเครื่องยนต์ Isuzu 3.0 Ddi Blue Power รุ่น 4JJ3-TCX เป็นรถเดิมๆ ไม่ได้ปรับแต่งอะไร และกำลังเพียงพอกับการใช้งานเดินทาง ที่หายห่วงกับพละกำลังที่เหลือล้นมันใจสำหรับการเดินทางไกลที่จะต้องมีเส้นทางชันหรือต้องเร่งแซงตอบสนองได้อย่างทันใจ พร้อมให้การประหยัดน้ำมันที่ดีด้วย
ระบบ Terrain Command ที่ให้มาสามารถสวิตช์เปลี่ยนการขับเคลื่อนจาก 2 ล้อเป็น 4 ล้อ ทำงานได้ฉับไว แม่นยำ เลือกการใช้งานให้เหมาะกับทุกสภาพถนนทั้ง 2H/4H และ 4L พร้อมสมรรถนะในการลุยน้ำได้สูงสุด 800 มิลลิเมตร ระบบ Electronic Diff-Lock ควบคุมการทำงานด้วยไฟฟ้า และช่วงล่างที่ออกแบบช่วงล่างให้มีความนุ่มนวลในการเดินทางไกล ทำให้การเดินทางสบายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งความแข็งแรง ทนทานของระบบช่วงล่างที่เซ็ตมาพร้อมมากกับการเดินทางไกลทุกสภาพเส้นทาง รองรับการขับเดินทางท่องเที่ยวได้มั่นใจดี
ความโดดเด่นอีกเรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้ในโมเดลนี้ของ ISUZU V-CROSS คือระบบ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) ที่มาพร้อมนวัตกรรมกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera รวมไปถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรฝัน ACC พร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go โดยระบบจะทำหน้าที่ควบคุมความเร็วให้คงที่ และจะช่วยควบคุมความเร็วเพื่อรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยโดยอัตโนมัติได้จนถึงรถคันหน้าหยุดนิ่ง ทำให้การเดินทางไกลลุยๆ สไตล์แบบคาราวานสะดวก สบายและมั่นใจในการคุมรถมากขึ้น
เพราะเมื่อเราต้องขับตามรถคันนำในความเร็วคงที่ เปิดระบบ ACC เหมือนมีคนขับให้เราทำให้ลดอาการเมื่อยล้าลงไปได้บางจังหวะเราอาจจะเพลินกับธรรมชาติ ลืมดูรถคันหน้าระบบก็จะเบรกให้อัตโนมัติ หรือ เมื่อต้องเบรกฉุกเฉินตัวรถก็จะทำการเตือนก่อน และจะทำการเบรกโดยอัตโนมัติหากผู้ขับขี่ยังไม่เหยียบเบรกหลังสัญญาณเตือน ซึ่งทำให้เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางได้อีกด้วยครับ
แถมอีกนิดสำหรับสิ่งที่ชอบคือความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นในห้องโดยสารเหมือนรถเก๋ง โดยเฉพาะจากตำแหน่งผู้ขับและผู้นั่งโดยสารด้านหน้าสบายมากครับ เบาะโอบรัดกระชับแต่นั่งได้สบายตัว เหมาะกับการเดินทางท่องเที่ยวแบบคาราวาน ด้วยรถปัจจุบันเส้นทางในประเทศลาวสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นเหมาะกับการเดินทางโดยรถยนต์ และรถ ISUZU V-CROSS ก็พร้อมในทุกเส้นทางจริงๆ
สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทีมงานอีซูซูทุกท่าน กับการพาไปเปิดประสบการณ์สุดประทับใจที่ลาวใต้ และการดูแลเป็นอย่างดีตลอดทริปการเดินทางครับ ขอบอกเลยว่ามาลาวใต้แล้วประทับใจ ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลากหลาย จึงเป็นหนึ่งในที่เที่ยวต่างประเทศใกล้ไทยที่หลายคนสนใจ และนอกเหนือจากการเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติแล้ว ยังถือเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวสายกิจกรรมแอดเวนเจอร์เป็นอย่างมากอีกด้วยครับ..