บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ได้เชิญสื่อมวลชนทดสอบสมรรถนะ “ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่” เริ่มสตาร์ทจากนิคมบางชัน ไปกินกุ้งอร่อยๆ รวมระยะทาง 260 กิโลเมตร แต่การทดสอบในครั้งนี้เป็นแบบประหยัดน้ำมันเพื่อพิสูจน์ว่า นิว ฮอนด้า ซิตี้ ขับสนุกประหยัดน้ำมัน
การเดินทางครั้งนี้มีจุดที่ให้สื่อมวลชนเช็กพ้อยท์ที่ปั๊มเชลล์ ถ.ปทุมธานี-บางปะหัน เพื่อสลับผู้ขับและไปเช็กพ้อยท์จุดสุดท้ายของการชาเล้นจ์ที่ร้านอาหารกุ้งเผาทองชุบ ริมน้ำเจ้าพระยา เป็นเส้นทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ในสภาพการจราจรแบบช่วงเช้าที่มีรถหนาแน่น ที่มีการใช้ความเร็วเพื่อเร่งแซงรถบรรทุก หรือใช้ความเร็วในช่วงถนนว่าง ก็ขับสนุกและไม่เหนื่อย
สำหรับ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ที่เพิ่มความสปอร์ตด้วยกระจังหน้า กันชนหน้า กันชนหลัง สเกิร์ตข้าง สปอยเลอร์หลัง และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ถูกใจสายแต่ง ภายนอกดูกะทัดรัด เหมาะกับการขับในเมืองแต่ออกนอกเมืองก็สบาย ภายในห้องโดยสารโปร่งไม่อึดอัดซึ่งเป็นจุดเด่นของฮอนด้า ซิตี้
ส่วนเครื่องยนต์ มีให้เลือก 2 แบบ ฟูลไฮบริด e:HEV ที่ทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน มาพร้อมแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม 27.8 กิโลเมตร/ลิตร กับอีกเครื่องยนต์ขนาด 1 ลิตร VTEC TURBO 122 แรงม้า ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม 23.8 กิโลเมตร/ลิตร ที่สำคัญมั่นใจได้ในทุกการขับขี่กันเทคโนโลยีความปลอดภัย Honda SENSING ที่มีมาให้ในทุกรุ่นย่อย ความบันเทิงภายในห้องโดยสารกับหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท และระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ เพิ่มเติมฟังก์ชันใหม่ ด้วยระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (with Low-Speed Follow: with LSF) มีเฉพาะในรุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS และที่น่าสนใจไม่แพ้กันในระบบความปลอดภัย คือ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera) และไฟเตือน เบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
เทคโนโลยีความปลอดภัยอื่นๆ ที่น่าสนใจ
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
-ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC) (รุ่น V, SV และ RS) พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (with Low-Speed Follow: with LSF) (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
-ใหม่ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
ภายนอกกับความสปอร์ตเพิ่มขึ้น
-กระจังหน้าโครเมียม
-ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED
-ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- มือจับประตูด้านนอกโครเมียม (รุ่น SV และ e:HEV SV)
-ฝาครอบกระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ
-เสาอากาศแบบครีบฉลามสีเดียวกับตัวรถ
-ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว (รุ่น V) แบบทูโทน (รุ่น SV) และแบบทูโทนขนาด 16 นิ้ว (รุ่น e:HEV SV)
สปอร์ตรอบคันและโฉบเฉี่ยว กับรุ่น RS และ รุ่น e:HEV RS
-กระจังหน้าสีดำเงาดีไซน์ใหม่ เสริมความสปอร์ตแบบ RS
-กันชนหน้า กันชนหลัง สเกิร์ตข้าง ดีไซน์ใหม่ เสริมความสปอร์ตแบบ RS
-สปอยเลอร์หลังดีไซน์สปอร์ตแบบ RS
-มือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ (รุ่น RS และ e:HEV RS)
-ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
-ฝาครอบกระจกมองข้างสีดำเงา
-ระบบปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลาพร้อมระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ (รุ่น e:HEV RS)
-เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำเงา
-ล้ออัลลอยแบบทูโทนสไตล์สปอร์ตขนาด 16 นิ้ว
ภายในห้องโดยสาร
-วัสดุตกแต่งคอนโซลหน้าสีเงิน (เฉพาะรุ่น V) และสีดำ Piano Black (เฉพาะรุ่น SV และ e:HEV SV)
-วัสดุหุ้มเบาะผ้า (เฉพาะรุ่น V) และวัสดุหุ้มเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์สีดำ (เฉพาะรุ่น SV และ e:HEV SV)
ภายในห้องโดยสารในรุ่น RS และรุ่น e:HEV RS
-วัสดุตกแต่งคอนโซลหน้าสีแดงเมทัลลิก
-วัสดุหุ้มเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์สีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่น่าสนใจ
-มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
-ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) (รุ่น RS และ e:HEV RS)
-ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
-ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
-ปุ่ม ECON
-ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง ด้านหลังแบบ Type-C 2 ตำแหน่ง (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
-ลำโพง 8 ตำแหน่ง (รุ่น RS และ e:HEV RS)
-กระจกมองหลังแบบตัดแสง
-แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกแต่งหน้าแบบมีฝาปิดด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า (รุ่น RS และ e:HEV RS)
-ระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT (รุ่น RS และ e:HEV RS)
ราคาฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ รวม 5 รุ่นย่อย แบ่งเป็น
ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ มี 2 รุ่นย่อย
-รุ่น e:HEV RS ราคา 839,000 บาท
-รุ่น e:HEV SV ราคา 769,000 บาท
ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ ใหม่ มี 3 รุ่นย่อย
-รุ่น RS ราคา 749,000 บาท
-รุ่น SV ราคา 679,000 บาท
-รุ่น V ราคา 629,000 บาท
สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ได้แก่ สีน้ำเงินออบซิเดียน (มุก) (เฉพาะรุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS) สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) (เฉพาะรุ่น RS และ e:HEV RS) สีขาวแพลทินัม (มุก) (เฉพาะรุ่น SV, RS, e:HEV SV, และ e:HEV RS) สีดำคริสตัล (มุก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) และสีขาวทาฟเฟต้า (เฉพาะรุ่น V)
After Drive by Thitirat Thongmatra
จากที่ได้ลองขับ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ทั้ง 2 รุ่น แบบ e:HEV และแบบเทอร์โบนั้น ทั้ง 2 เครื่องยนต์ให้ความรู้สึกแตกต่างกัน e:HEV ได้ความรู้สึกเงียบถ้าขับในเมืองที่มีรถติดมากๆ นั้น คงช่วยลดความเครียดไปได้บ้างเพราะประหยัดน้ำมัน แถมเครื่องยนต์ยังช่วยในเรื่องของการออกตัวในแบบรถติดๆ ได้ ในส่วนของ ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ ก็ขับสนุกเหยียบแล้วมาเร็วด้วยเทอร์โบที่มีมาให้ถึงแม้เครื่องจะ 1 ลิตรก็ตาม เร่งแซงช่วงออกต่างจังหวัดได้อย่างมั่นใจ เข้าโค้งง่ายเพราะระบบความปลอดภัยที่มีมาให้อย่าง Honda SENSING ส่วนของการขับแบบประหยัดน้ำมัน Paddle Shift ก็ช่วยได้ทำให้ขับสนุกและง่ายขึ้นไปอีกขั้น