มาตรวัดแบบเรืองแสงพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID ในรถ รวมทั้งเทคโนโลยีที่เพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ ใช้งานได้ง่ายขึ้นด้วยระบบสัมผัส ทั้งระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 6.8 นิ้ว ในรุ่น RS ที่ผมได้มีโอกาสทดลองขับ รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์ไร้สาย (Bluetooth) ระบบปรับอากาศอัตโนมัติและระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ นับเป็นความดูดีในรถสไตล์คนเมืองที่ทางฮอนด้า แฮทช์แบ็ก 5 ประตู เพิ่มเติมเข้าไปใน แจ๊ซ ใหม่ คันนี้
ในเจเนอเรชั่นที่ 3 รถแฮทช์แบ็ก 5 ประตู แจ๊ซ ใหม่ ยังมาด้วยแนวคิดหลักสำคัญคือ การออกแบบและพัฒนาโครงสร้างตัวถังรถใหม่ให้มีพื้นที่ใช้สอยที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้อย่างหลากหลายที่เป็นจุดเด่น รวมทั้งขุมพลังที่ให้ทั้งประสิทธิภาพในการขับขี่ และอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม พร้อมด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยให้ทุกการขับขี่สะดวกสบายและสนุกสนานได้อย่างมีสไตล์
โฉบเฉี่ยวในสไตล์สปอร์ตยิ่งขึ้น
พิเศษกับครั้งแรกในการแนะนำ ฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ รุ่น RS นำเสนอความสปอร์ตในทุกมุมมองด้วยสีส้มฟีนิกซ์ (มุก) อีกทางเลือกสีสันใหม่แนวสดใสในโฉมนี้ ถูกออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกด้วยแนวคิด Low Wide Gravity เป็นการสะท้อนความโฉบเฉี่ยวในสไตล์สปอร์ตยิ่งขึ้น ด้วยการออกแบบด้านหน้าและด้านหลังให้ดูกว้างและปราดเปรียวมากขึ้นตามหลักอากาศพลศาสตร์
ด้วยเอกลักษณ์การออกแบบสไตล์สปอร์ตเฉพาะแบบ RS รอบคัน ด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่พร้อมสัญลักษณ์ RS ไฟหน้าพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (Daytime Running Light - DRL) แบบ LED โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นด้วยกันชนหน้าพร้อมไฟตัดหมอกและกันชนหลังแบบสปอร์ตในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของรุ่น RS กระจกมองข้างสีดำ ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 16 นิ้ว
เบาะนั่งแบบอัลตราซีท อเนกประสงค์ 4 โหมด
เบาะนั่งสีดำลายใหม่ดูสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ด้วยดีไซน์ใหม่ตกแต่งด้วยด้ายสีส้มในรุ่น RS กับห้องโดยสารขนาดใหญ่กว้างสบาย มาพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งช่องเก็บของ กล่องเก็บแท็บเล็ต (เฉพาะรุ่น RS และ RS+) และที่วางแก้วน้ำสูงสุด 9 ตำแหน่ง ให้ทุกการเดินทางสะดวกสบายยิ่งขึ้น
จากแนวคิดการออกแบบภายในห้องโดยสารแบบ Futuristic Cockpit มอบความรู้สึกล้ำสมัยและความสนุกสนานในการขับขี่ ซึ่งความยาวของตัวถังรถและฐานล้อ ช่วยให้ห้องโดยสารและพื้นที่ห้องโดยสารตอนหลังมีขนาดใหญ่ เพื่อรองรับทุกไลฟ์สไตล์ด้วยเบาะนั่งอัลตราซีท ที่ปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์ได้ถึง 4 โหมด พร้อมห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่ ได้แก่ Utility Mode: พับเบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้าน Long Mode: พับเบาะด้านหน้าและด้านหลัง Tall Mode: พับเบาะด้านหลังขึ้น ขยายเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวสูง และ Refresh Mode: พับเบาะด้านหน้าเชื่อมต่อเบาะด้านหลังเพื่อสร้างพื้นที่ผ่อนคลาย
กำลังดี 117 แรงม้า เครื่องยนต์ i-VTEC 1497 CC 117 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ CVT
ในโหมดการขับ ส่วนของกิจกรรมทดสอบขับรถยนต์ฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ บนเส้นทางทดสอบแบบทัวร์วันเดียว ชิลล์ๆ เที่ยวร้านกาแฟเก๋ๆ และร้านอาหารชิคๆ รอบกรุงเทพมหานคร จาก บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด สุขุมวิท 66/1 จากบางนา-บางกรวย-ไทรน้อย-คลองสาน-เอกมัย โดยใช้ทางด่วนศรีรัช สู่ถนนวงแหวนรอบนอก
เมือกดปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ ด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 117 แรงม้า ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 146 นิวตัน-เมตร ที่ 4,700 รอบ/นาที พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ได้รับการพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ให้อัตราเร่งและประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม พร้อมตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยระบบควบคุม
ส่วนพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นก็ทำให้ทุกการควบคุมง่ายขึ้นกว่าที่เคย ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด สะดวกสบายด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมระบบช่วยการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน ECO Assist อีกทั้งรองรับพลังงานทางเลือก E 85
นอกจากนี้ ฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ ยังมาพร้อมกับระบบ Eco Coaching ที่จะแสดงผลการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน ด้วยการเปลี่ยนสีที่มาตรวัดเรืองแสง และ Econ Mode ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยลดการใช้พลังงานสิ้นเปลือง โดยระบบจะปรับการทำงานของเครื่องยนต์ลิ้นปีกผีเสื้อและเกียร์ให้ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งปรับการทำงานของระบบปรับอากาศ และการหมุนเวียนอากาศภายในห้องโดยสารให้เหมาะสม ช่วยให้เครื่องยนต์ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
จัดเต็มระบบความปลอดภัย
ทางฮอนด้าเลือกใช้โครงสร้างตัวถังนิรภัย (G-CON) ช่วยปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทางใน ฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ รวมทั้งระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัยเมื่อต้องเบรกกะทันหัน พร้อมระบบกระจายแรงเบรกควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) เพิ่มประสิทธิภาพการเบรกให้สมดุลมากขึ้น ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA) เพิ่มการยึดเกาะถนน ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
โดยเฉพาะเฉพาะรุ่น RS+ จะมีถุงลมถึง 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า Dual SRS ถุงลมด้านข้างคู่หน้าแบบอัจฉริยะ i-Side Airbags และม่านถุงลมด้านข้าง Side Curtain Airbags และกล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการถอย โดยสามารถเลือกดูมุมกล้องที่แตกต่างกันได้ทั้งแบบ 130 องศา 180 องศา และมุมมองจากด้านบน เรียกว่าเป็นอีกรถเล็กที่ให้มาครบครันในเรื่องระบบความปลอดภัย
AFTER DRIVE BY KAN YENSABAI
รหัส RS นี้เรียกได้ว่าแรงตั้งแต่เปิดตัว เพราะทางฮอนด้าเชื่อว่า กลุ่มเป้าหมายของ Honda Jazz คือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีการรับรู้และไลฟ์สไตล์ที่ไม่เหมือนใคร การเปิดตัวของรถด้วยการ Live สดๆ ตรงผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตแบบแหวกแนว จึงเกิดขึ้น เพื่อทำการแนะนำ Honda Jazz รุ่นปรับโฉมประจำปี 2017 สู่ลูกค้าเป้าหมาย
การ Minor Change 2017 ที่ปรับโฉมจาก Honda Jazz ในปลายทางของเจเนอเรชั่นที่ 3 ที่เปิดตัวในประเทศไทย มาตั้งแต่เมื่อปี 2557 แน่นอนครับ เพราะเป็นรุ่นขายดี ทางฮอนด้าเลยจัดสีตัวถังภายนอกใหม่แบบสดใสที่เรียกว่า สีส้มฟีนิกซ์ ออกสีส้มแสด เพิ่มคาแร็คเตอร์ความไม่ธรรมดาให้กับตัวรถเฉพาะรุ่น RS
ส่วนดีไซน์ภายนอกจริงๆ ก็ถือว่าเปลี่ยนและปรับไม่มากนักคือ ในส่วนของกระจังหน้า สัญลักษณ์ RS และกันชนหน้า-หลังปรับปรุงใหม่ ไฟหน้าพร้อมไฟส่องสว่างกลางวัน Daytime Running Lights (DRL) แบบ LED ยังมีกระจกมองข้างสีดำ ล้ออัลลอยขอบ 16 นิ้ว ที่ต้องเรียกว่าทำมาเอาใจขาซิ่ง เพราะน่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนที่ชอบรถแต่งแบบจบครบๆ จากโรงงาน
เรื่องของภายในห้องโดยสารปรับเบาะนั่งแบบใหม่เย็บด้วยด้ายสีส้ม พื้นที่ห้องโดยสารยังคงเน้นความสะดวกสบาย ใช้โทนสีดำ ที่ดำรวมไปถึงส่วนผ้าบุหลังคาด้วยที่ทำความสะอาดได้ง่ายและเปื้อนยาก เมื่ออยู่ในตำแหน่งคนขับให้ทัศนวิสัยที่ดีมองได้กว้าง จุดเด่นคือ ในเรื่องการปรับเบาะนั่งในห้องโดยสารที่ฮอนด้า เรียกว่า อัลตราซีท ออกแบบมาเพื่อเน้นความอเนกประสงค์ ที่เป็นจุดขายของรถ และทำได้ดีกว่ารถจากค่ายอื่นในพิกัดเดียวกัน และความหลากหลายการปรับใช้งาน เพราะสามารถพับและปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มพื้นที่ได้ถึง 4 รูปแบบ และในส่วนห้องสัมภาระท้ายก็มีขนาดใหญ่
ถึงแม้ในส่วนที่นั่งแถวหลังจะไม่มีที่วางแขนและแอร์ในตำแหน่งหลังติดตั้งมาให้ แต่ผู้ชายไซซ์สูง 175 เซนติเมตร นั่งอยู่ในรถ 3 คน เกือบทั้งวันทั้งช่วงรถติด แต่ละคนก็ยึดแข้งยืดขาได้สบายๆ ไม่อึดอัด ในเรื่องอุปกรณ์อำนวยความสะดวก โดยรวมก็ดูทันสมัยครบครันครับ ทั้งมาตรวัดแบบเรืองแสงพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display) บอกข้อมูลการขับขี่ การสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง และระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมแผงควบคุมแบบสัมผัส
ในโหมดการขับ Honda Jazz RS เป็นรถเล็กที่ขับควบคุมได้ง่าย กำลังสูงสุด 117 แรงม้า จากเครื่องยนต์ 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร แรงบิดสูงสุด 146 นิวตัน-เมตร ที่ 4,700 รอบ/นาที ถือว่าเหลือเฟือใช้งานได้ดีครับ เครื่องยนต์เร็ว แรง พอตัว บนเส้นทางรอบกรุงเทพฯ การทำความเร็ว อัตราเร่ง ระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่อยู่ภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม
ออพชั่นเสริมช่วยเหลือในการขับที่จัดมาพอตัว ทั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น และระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย เกียร์ CVT แปรผัน 7 สปีด ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control ระบบช่วยขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน ECO Assist รองรับเชื้อเพลิงพลังงานทางเลือก E 85
รวมถึงในส่วนของระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) และกล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ ระบบความปลอดภัย โครงสร้างตัวถังนิรภัย G-ForceControl หรือ G-CON ถุงลม 6 ตำแหน่ง
โดยส่วนตัวมองว่าในนาทีนี้ Honda Jazz RS จัดเป็นทางเลือกที่ดี และน่าจะได้รับความนิยมเหมือนเดิม สำหรับกลุ่มลูกค้าวัยหนุ่มสาวที่มีไลฟ์สไตล์เป็นของตัวเอง ชอบรถเล็กแบบ 5 ประตู ที่มีความคล่องตัวและอเนกประสงค์มากๆ ครับ
ราคา HONDA JAZZ RS 6 รุ่น
HONDA JAZZ RS มีให้เลือก 6 สี ได้แก่
สีขาวทาฟเฟต้า, สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก), สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก),
สีดำคริสตัล (มุก), สีขาวออร์คิด (มุก) และสีใหม่ คือ สีส้มฟีนิกซ์ (มุก)