MITSUBISHI ATTRAGE & MIRAGE ปรับลุคใหม่..เติมความปลอดภัยให้อีโคคาร์

  • June 27, 2017

         หลังจากบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวรถยนต์ใหม่ 2 รุ่น ประกอบไปด้วย ‘มิตซูบิชิ แอททราจ รุ่นใหม่’ และ ‘มิตซูบิชิ มิราจ รุ่นใหม่’ ที่อัดแน่นด้วยนวัตกรรมแห่งเทคโนโลยีที่มากกว่าที่ผ่านมาในราคาที่เป็นเจ้าของได้ ทั้งยังโดดเด่นในเรื่องของความปลอดภัยและประหยัดน้ำมันสูงสุด มาในครั้งนี้ก็ได้เวลาทดสอบสมรรถนะ การใช้งาน แบบการเดินทางท่องเที่ยวของซิตี้คาร์โฉมใหม่ ‘แอททราจ รุ่นใหม่’ และ ‘มิราจ รุ่นใหม่’ บนเส้นทางกรุงเทพฯ - ระยอง  

 

ทดสอบสมรรถนะ ‘แอททราจ’ และ ‘มิราจ รุ่นใหม่’ บนเส้นทาง กรุงเทพฯ - ระยอง  

         จุดสตาร์ทที่ร้านอาหาร เลคแอนด์พาร์ค ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ คุณยอดชาย ซื่อวัฒนากุล ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักสื่อสารการตลาด บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวต้อนรับ และคุณจารุกร เรืองสุวรรณ ผู้ชำนาญการอาวุโสสำนัก สำนักกลยุทธ์งานขาย บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงข้อมูลเบื้องต้นของรถทั้ง 2 รุ่น

         เมื่อทางทีมงานของมิตซูบิชิได้แนะนำเส้นทางการทดสอบคาราวาน ‘แอททราจ รุ่นใหม่’ และ ‘มิราจ รุ่นใหม่’ ล้อหมุนออกเดินทางจากบริเวณหน้าร้านอาหาร เลคแอนด์พาร์ค ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มุ่งหน้าสู่เส้นทางการทดสอบ จาก กรุงเทพฯ และแวะพักที่ร้านกาแฟอินทนิล ค่าเฟ่ สถานีบริการน้ำมันบางจาก ก่อนเส้นเลี่ยงเมืองชลบุรี

 

         หลังจากนั้นคาราวาน ‘แอททราจ รุ่นใหม่’ และ ‘มิราจ รุ่นใหม่’ ก็มุ่งหน้าสู่จังหวัดระยองและรับประทานอาหารกลางวัน พร้อมกับเที่ยวชมสวนและทานผลไม้บุฟเฟ่ต์ ณ สวนละไม อาณาจักรผลไม้ท่ามกลางขุนเขาก่อนออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยแวะพักที่ร้านกาแฟอเมซอน สถานีบริการน้ำมัน ปตท. เส้นบ้านบึง และเดินทางถึงอาคาร เอฟ วาย ไอ เซ็นเตอร์ ที่เป็นจุดสิ้นสุดการทดสอบแบบ One Day Trip

 

ไมเนอร์เชนจ์ใหม่ ใส่อุปกรณ์ครบขึ้น

        ในรุ่น Mitsubishi  Mirage ถูกออกแบบใหม่ให้ดูหรูหรา พรีเมี่ยมขึ้นอย่างชัดเจน ด้านหน้าติดตั้งไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ Bi-Xenon และไฟหรี่ Spectrum LED ที่มีลักษณะเป็นเส้นดูสวยงาม ขณะที่ด้านท้ายติดตั้งไฟท้ายแบบ LED ชุดกันชนหน้า-หลังถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยกันชนหน้าถูกตกแต่งด้วยแถบโครเมี่ยมชิ้นยาวพร้อมไฟตัดหมอก ติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้วแบบทูโทน พร้อมยางขนาด 175/55 R15

 

         ขณะที่รุ่น Mitsubishi Attrage ยังคงดีไซน์ไฟหน้า-ไฟท้ายเช่นเดิม แต่มีการปรับส่วนกันชนใหม่ ตกแต่งด้วยโครเมี่ยมบริเวณไฟตัดหมอก พร้อม Daytime Running Light แบบ LED กระจังหน้าตกแต่งด้วยโครเมี่ยมรมดำเพิ่มความดุดันมากขึ้น พร้อมล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้วสีเงินรมดำ และยางขนาด 185/55 R15 โดยรวมแล้ว Mirage ไมเนอร์เชนจ์ใหม่ จะถูกออกแบบให้ดูหรูหรามากขึ้น ขณะที่ Attrage จะดูให้อารมณ์สปอร์ต

       โดยทั้ง Mitsubishi Attrage และ Mirage ไมเนอร์เชนจ์ใหม่ ยังมีการติดตั้ง Apple CarPlay 1 มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น GLS-LTD ของทั้ง ‘มิตซูบิชิ แอททราจ รุ่นใหม่’ และ ‘มิตซูบิชิ มิราจ รุ่นใหม่’ Car Play เป็นช่องทางที่สะดวกและปลอดภัยในการใช้งาน iPhone ภายในรถยนต์

       โดยที่ผู้ขับขี่สามารถโทร.ออกพร้อมรับสายโทรศัพท์ ส่งข้อความและฟังเพลง ไปพร้อมกับการตั้งสมาธิไปที่การขับขี่ Car Play ยังสามารถใช้งานผ่านหน้าจอสัมผัสและคำสั่งเสียงผ่านระบบ Siri 2 ได้อีกด้วย ทั้งยังมีระบบล็อกความเร็วบนพวงมาลัยในรุ่น GLS-LTD ของทั้ง ‘มิตซูบิชิ แอททราจ รุ่นใหม่’ และ ‘มิตซูบิชิ มิราจ รุ่นใหม่’ ถือเป็นรถยนต์ซิตี้คาร์ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมเพื่อความสะดวกสบายในการขับขี่

       ในมิตซูบิชิ แอททราจ และ มิราจ เฉพาะรุ่น GLS-LTD ยังถูกเพิ่มความสปอร์ตด้วยเบาะหนังเดินด้ายแดง พร้อมพวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนัง ทั้งยังเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ผ่านช่องต่ออุปกรณ์ USB ได้ง่ายขึ้น ด้วยการย้ายตำแหน่งมาติดตั้งที่คอนโซลเกียร์แทน นอกจากนี้ รถยนต์ซิตี้คาร์ทั้ง 2 รุ่น ยังให้ความสะดวกสบายแก่ผู้โดยสารที่มากกว่าด้วยพนักพิงศีรษะหลัง 3 ตำแหน่ง ซึ่งติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย

 

ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ MIVEC 1.2 ลิตร

         อัตราเร่งทันใจด้วยพละกำลัง 78 แรงม้า ทั้งใน ‘มิตซูบิชิ แอททราจ รุ่นใหม่’ และ ‘มิตซูบิชิ มิราจ รุ่นใหม่’ ที่ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมระบบ INC (Idle Neutral Control) ที่ตัดระบบส่งกำลังไปยังเพลาขับอัตโนมัติในขณะที่รถยนต์หยุดนิ่ง และเหยียบเบรกในตำแหน่งเกียร์ ‘D’ ช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์และประหยัดเชื้อเพลิง

        นอกจากนี้ ยังมีระบบ G-Sensor ที่ช่วยให้เปลี่ยนเกียร์บนทางลาดชันได้อย่างแม่นยำ ด้วยการผสมผสานนวัตกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงของเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังจึงตอบสนองได้ดังใจ พร้อมกับมีอัตราบริโภคเชื้อเพลิงต่ำเพียง 23.3 กิโลเมตร/ลิตร ใน ‘มิตซูบิชิ แอททราจ รุ่นใหม่’ และ 23.8 กิโลเมตร/ลิตร ใน ‘มิตซูบิชิ มิราจ รุ่นใหม่’ ซึ่งเป็นอัตราที่ดีที่สุดในรถยนต์ระดับเดียวกัน

 

       นอกจากนี้ ทั้งแอททราจและมิราจ ใหม่ มาพร้อมกับอุปกรณ์ความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดเหตุ ด้วยระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (ที่ความเร็วต่ำ) โดยระบบจะทำการเตือนและช่วยชะลอความเร็ว หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะชนรถยนต์คันหน้า

      ส่วนระบบเด่นอีกจุดคือ ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะที่จะทำงานเมื่อมีการเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็วเฉพาะด้านหน้า ซึ่งจะทำการเตือนและตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะโดยอัตโนมัติ เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการชน หากระบบตรวจพบวัตถุด้านหน้าในขณะที่มีการเหยียบคันเร่งผิดพลาดอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ส่วนเข็มขัดนิรภัยเบาะหลังแบบ ELR 3 จุด 3 ตำแหน่ง, จุดยึดเบาะเด็ก ISOFIX 2 ตำแหน่ง และระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยด้านคนขับติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

 

AFTER DRIVE BY KAN YENSABAI

        ถ้าจะพูดกันจริงๆ ทางมิตซูบิชิ ถือเป็นค่ายรถยนต์ที่บุกเบิกตลาดรถอีโคคาร์ในตลาดรถยนต์บ้านเรา และในส่วนรถทั้ง 2รุ่น ที่ได้มีโอกาสทดสอบก็เป็นอีกหนึ่งเวอร์ชั่นในแบบไมเนอร์เชนจ์ของอีโคคาร์ตัวขายของ Mitsubisht ทั้ง Attrage และ Mirage ที่มีจุดขายอยู่ที่ความคุ้มค่า เน้นการขับขี่ที่ง่ายและความประหยัด

         บนเส้นทางการทดสอบในรูปแบบการขับรถอีโคคาร์คันนี้ในแบบขับท่องเที่ยว ผมกับสมาชิกสื่อมวลชนอีก 4 ชีวิต อยู่ใน มิตซูบิชิ มิราจ อีโคคาร์ที่มาในแนวหรูหรา ทั้งบอดี้ภายนอกแตกต่างจากแอททราจที่จะดูมีลุคความสปอร์ต

        ต้องยอมรับว่าในโฉมนี้ รถทั้ง 2 รุ่นยังเป็นอีโคคาร์ที่มีความโดดเด่นที่ระบบความปลอดภัย ทั้งระบบเตือนกันชนด้านหน้า พร้อมชะลอความเร็วที่มีเซ็นเซอร์คอยตรวจจับวัตถุที่อยู่ด้านหน้า และระบบจะเบรกรถให้อัตโนมัติที่ความเร็วไม่เกิน 15 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่แม้เป็นความเร็วไม่มากแต่ก็ช่วยป้องกันในเมื่อพลั้งเผลอได้เวลาเผลอปล่อยเบรกตอนใสเกียร์ P

       รวมทั้งในระบบตัดกำลังของรถชั่วคราว กรณีเผลอเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงขณะมีสิ่งกีดขวางด้านหน้าอยู่ รวมถึงระบบ ความปลอดภัยที่มีมากกว่าคู่แข่งในพิกัดเดียวกัน

        ส่วนเรื่องกำลังเครื่องยนต์ที่มีกำลัง 78 แรงม้า ในทั้ง 2 รุ่น ที่ยังเป็นเครื่องยนต์ความจุ 1.2 ลิตร แบบเบนซิน ทำงานคู่กับเกียร์แบบ CVT ที่เป็นเครื่องยนต์แบบไซซ์เล็กเน้นประหยัดผ่านมาตรฐานอีโคคาร์ เฟส 2

        แน่นอนว่าในอารมณ์การขับทั้งอัตราเร่งและกำลังของเครื่องยนต์ก็เพียงพอในแบบฉบับอีโคคาร์ ที่สามารถทำความเร็วสูงได้เมื่อมีโอกาส แต่การใช้งานทั่วไปเป็นแนวอารมณ์แบบเดินทางเรื่อยๆ ไม่เค้นกำลังเครื่องไม่รีบร้อน

         ส่วนในโมเดลล่าสุดทางมิตซูบิชิเขายังมีการเพิ่มเติมตกแต่ง ทั้งภายนอกทั้งไฟหน้า ไฟท้าย กันชน เบาะและพนักพิงศีรษะแบบใหม่ รวมไปถึงระบบล็อกความเร็วที่พวงมาลัย และ Apple CarPlay ก็ช่วยยกระดับให้อีโคคาร์ทั้ง 2 รุ่นนี้ของมิตซูบิชิมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นครับ

 

 ราคา Mitsubishi Attrage  

 - GLX เกียร์ธรรมดา ราคา 472,000 บาท

 - GLX เกียร์อัตโนมัติ CVT ราคา 506,000 บาท

- GLS เกียร์อัตโนมัติ CVT ราคา 561,000 บาท

- GLS LTD เกียร์อัตโนมัติ CVT ราคา 599,000 บาท

 ราคา Mitsubishi Mirage

- GLX เกียร์ธรรมดา ราคา 457,000 บาท

- GLX เกียร์อัตโนมัติ CVT ราคา 491,000 บาท

 - GLS เกียร์อัตโนมัติ CVT ราคา 557,000 บาท

 - GLS LTD เกียร์อัตโนมัติ CVT ราคา 596,000 บาท