เพราะการขี่มอเตอร์ไซค์นับเป็นความสุขอีกรูปแบบหนึ่ง โดยเฉพาะกับรถมอเตอร์ไซค์สักคันที่มีสไตล์ และเป็นรถมอเตอร์ไซด์แนวคลาสสิกที่ตลาดของรถแนวนี้ กลับมาคึกคักกันอีกครั้ง เมื่อแบรนด์รถจักรยานยนต์ Royal Enfield คลาสสิกไบค์สไตล์อังกฤษในตำนาน ได้ประกาศถึงการกลับมาในบ้านเราอีกครั้งนึงกับสัญชาติอินเดีย ภายใต้สโลแกน “Made Like A Gun” ตามปรัชญาของแบรนด์ ที่เปรียบความแข็งแกร่งและความทนทานเหมือนกับปืน
Cafe Racer ร่วมสมัย..เรียบง่ายสไตล์เปลือย
ด้วยลักษณะของดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ตัวตนของรถได้ชัดเจน และเป็นแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ที่ยังมีสายการผลิตยาวจนถึงปัจจุบัน ต้นกำเนิดจากเมือง Birmingham ในประเทศอังกฤษ ในรูปแบบของ Cafe Racer ที่ร่วมสมัย และผ่านร้อนหนาวกาลเวลามาจนถึงทุกวันนี้
Royal Enfield Continental GT ยังคงรูปทรงเปลือยที่ทำให้เห็นโครงสร้างทั้งภายนอกและภายในอย่างเด่นชัด รูปลักษณ์ทั่วไปหล่อๆ สมสัดส่วน ให้ความคลาสสิกเข้ากับความร่วมสมัยใหม่ เพื่อให้ได้สมดุลที่สมบูรณ์แบบ คลาสสิกด้วยชุดไฟกลม นั่งมองรูปทรงรถเหมือนพาเราย้อนไปเมื่อหลายสิบปีก่อน ในยุคที่มอเตอร์ไซค์จะมีแต่ส่วนควบและอุปกรณ์ที่จำเป็นแต่ทว่ายังแอบแฝงความโมเดิร์นเอาไว้
“หนทางนับหมื่นลี้..เริ่มต้นที่เอาขาตั้งขึ้น”
สัมผัสแรกของผม กับ Royal Enfield คันนี้ ผมลองเอาขาตั้งรถขึ้นกำคลัตช์ และ “สตาร์ทมือ” การขึ้นคร่อมขี่ กับเบาะนั่งแบบตอนเดียวยาวที่ได้รับการปรับให้สูงขึ้นกว่ารุ่นอื่นๆ ของ Royal Enfield เพื่อช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการบังคับรถ และให้ผู้ขับขี่สามารถขยับท่าทางการขับขี่ให้เข้ากับตัวเองได้โดยง่าย
บนเส้นทางหลักที่เราได้ใช้เดินทางระยะกลางๆ ในทริปทดสอบ ที่ผมพาเจ้า “คลาสสิก” คันนี้ไปใช้งานกันหลากหลายทุกการใช้งานในบ้านเราไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในชีวิตประจำวัน กับการขับขี่ระยะกลาง จากกรุงเทพฯ ตั้งต้นแถวๆ เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา มุ่งหน้าตรงไปยังจังหวัดนครนายก ก่อนจะเดินทางกลับ ด้วยระยะทางไป-กลับรวมๆ ประมาณ 250 กิโลเมตร
สำหรับผมเองความสูงตามมาตรฐานชายไทยที่ 175 เซนติเมตร เมื่อนั่งคร่อม Royal Enfield Continental GT สามารถลงปลายๆ เท้าทั้งสองข้างได้แบบเต็มเท้าครับ ไม่ต้องเขย่งให้เสียลุค ซึ่งก็สบายๆ ครับ ตัวรถในช่วงการขับขี่ผ่านการจราจรที่ติดขัดในเมืองที่ต้องซิกแซ็กก็ทำได้คล่องตัว ด้วยตัวรถที่ค่อนข้างเพรียวบาง
เรื่องของการขับขี่เนื่องจากตัวถังยาว ท่านั่งจึงต้องเป็นลักษณะการเอื้อมจับแฮนด์บาร์ก็เลยอยู่ในท่าสไตล์หมอบ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของการขับขี่รถสไตล์นี้ ด้วยท่านั่งที่ก้มนิดๆ และเบาะนั่งที่ยกสูงขึ้นเล็กน้อยกว่ารุ่นอื่นๆ ของ Royal Enfield ทำให้เจ้า Continental GT คันนี้มีการควบคุมรถที่คล่องแคล่ว และสามารถพลิกรถเข้าไปหาโค้งต่างๆ ได้อย่างง่ายดายสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวบนเส้นทางเขา
ปลายทางที่เขื่อนขุนด่านปราการชล ผมขี่ Continental GT ผ่านวิวธรรมชาติป่าเขารวมถึงทางโค้งต่างๆ ที่รถให้การตอบสนองได้เป็นอย่างดี ได้ลองใช้ย่านความเร็วที่ประมาณ 90-100 กิโลเมตร เพราะเป็นช่วงที่สามารถคุมคอนโทรลรถได้สบายๆ ไม่เครียด รอบเครื่องที่ 3500-4500 rpm ตามจังหวะการจราจร มืออาจช้าด้วยความแข็งของมือบิดคันเร่ง และความสั่นสะท้านของเครื่องยนต์
ส่วนช่วงล่างแม้จะออกแบบมาเป็นแนวสปอร์ต แต่ก็ให้การซับแรงค่อนข้างดี ยิ่งผสานกับล้อแบบซี่ลวด ยิ่งทำให้ผ่านหลุม บ่อ ลูกระนาดต่างๆ ได้แบบไม่สะเทือนมาก ไปได้แทบทุกสภาพถนน ไม่ค่อยมีอะไรให้กังวลนัก แม้ว่าจะมีอาการโยนๆ ในโค้งเวลาเจอคลื่นบนถนน หรือกระแทกต่างๆ อาการของรถที่โยนๆ ของโช้กหลัง ส่งมาถึงช่วงหน้าค่อนข้างน้อย
แต่สำหรับนักเดินทางแบบขับออกทริปอาจต้องออกแรงระมัดระวัง หันมุมมองด้านหลัง เวลาแซงสักหน่อยเพราะ แรงสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ ที่ทำให้กระจกมองหลังของตัวรถมองเห็นไม่ชัดเจน แต่หากได้ปรับเปลี่ยนกระจกเป็นแบบแต่งกระจกปลายแฮนด์น่าจะแก้อาการนี้ไปได้บ้าง ส่วนการเกาะถนนและการเข้าโค้งทำให้มั่นใจมากยิ่งขึ้นส่วนระบบเบรกที่ให้มาเป็นแบบดิสก์เบรกทั้งด้านหน้าและด้านหลังก็เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่และความปลอดภัย
เครื่องยนต์แบบสูบเดี่ยวหัวฉีด 535 CC 29.1 แรงม้า
สายแรงถอยไป อย่ามาเสี่ยว..เพราะอะไรครับ ถ้ารู้ไม่จริงอย่ามาพูด คอนเซปต์ของรถเขาเป็นรถสายชิลล์ แต่ก็มีพวกเสร่อที่เคลมว่ารถคันนี้ไม่แรงบ้างล่ะ เครื่องดังบ้างล่ะ ก็แหม..พ่อคู๊นนน รถคันนี้เค้ามีคอนเซปต์ให้วิ่งช้า ถ้าบ้าแรงก็กรุณาหันไปทาง Choice อื่น คนบ้างคนนี่แปลกนะครับ ได้รถอะไรมาพ่อจะลองแต่ความแรงตะพืดตะพือ เหมือนได้อีโคคาร์มาแต่พ่อจะลอง Top Speed อยากถามสักคำพี่จะแข่งกะใครครับ ถ้ารีบทำไมไม่มาตั้งแต่เมื่อวาน ลองรถแบบนี้มันผิดคอนเซปต์นะครับ
แม้ Royal Enfield Continental GT สีดำขลับคันงามคันนี้ นับได้ว่าเป็นรถมอเตอร์ไซค์จาก Royal Enfield ที่ “แรง” “เร็ว” และมีความจุของเครื่องยนต์มากที่สุด แต่อย่าเพิ่งหวังว่าด้วยเครื่องยนต์ 500 CC กับสไตล์ที่ดูสปอร์ตจะทำให้เจ้านี่ซิ่งซ่าได้แบบรถญี่ปุ่น 500 CC นั่นไม่ใช่จุดประสงค์ในการสร้างรถคันนี้ขึ้นมา แต่เราเชื่อว่าคุณจะปลอดภัยและมีความสุขหากคุณรู้ตัวว่านี่คือสไตล์ที่ตอบโจทย์คุณมากกว่าเล่นรถที่อยู่ในกระแสหลัก
เพราะคอนติเนนทัล จีที เขาใช้เครื่องยนต์แบบสูบเดี่ยวหัวฉีด 535 CC 29.1 แรงม้า แรงบิด 44 นิวตัน-เมตร เกียร์ 5 สปีด ที่มีอัตราเร่งที่ดี ที่มีการทำงานของเครื่องยนต์สุดสะท้านและเป็นรุ่นที่มีแรงสะท้านสะเทือนมากที่สุดในรถทั้ง 3 รุ่นที่มีขายในไทย
สำหรับผม Royal Enfield Continental GT คันนี้ มันไม่ใช่แค่มอเตอร์ไซค์ มันไม่ใช่แค่ยานพาหนะ มันคือตำนาน มันคือของประดับโรงรถ มันคือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นโปรด มันคือ Collection ที่ทำให้คุณนั่งมองรถตัวเองได้อย่างภาคภูมิใจ มันคือเครื่องประดับราคาแพงที่เป็นรางวัลชีวิตของคุณได้อย่างดี
AFTER DRIVE BY KAN YENSABAI
Royal Enfield ถือว่าเป็นรถที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี เป็นรถอังกฤษที่ผลิตที่ประเทศอินเดีย ตั้งแต่ปี 1949 จนปัจจุบันใช้สายการผลิตที่อินเดียเต็มรูปแบบ ในบ้านเรามีผู้นำเข้าและเป็นตัวแทนจำหน่าย รอยัล เอนฟิลด์อย่างเป็นทางการคือ บริษัท General Auto Supply ที่มีโชว์รูมเป็นการาจ มอเตอร์ไซค์เรโทรเท่ๆ อยู่ที่ทองหล่อ
จุดเด่นของรถคันนี้แน่นอนครับ เป็นมอเตอร์ไซค์ที่มีสไตล์และมีคาแร็คเตอร์เป็นของตัวเองอย่างเด่นชัด เป็นลักษณะมอเตอร์ไซค์ยุคสงครามโลก แต่มีเครื่องยนต์กลไกที่เป็นแบบเครื่องใหม่ ดังนั้น จึงสบายใจได้สำหรับคนที่ชอบรถในสไตล์คลาสสิก Concept ของรถเรียกว่า Cafe Racer ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอังกฤษ Concept ของรถแนวคาเฟ่เรเซอร์ก็คือ เป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ไม่เน้นแรง ไม่เน้นซิ่ง เน้นขี่ชมโฉมสวยๆ แนวๆ มีสไตล์
จุดที่สังเกตได้ของรถสไตล์นี้คือเป็นแฮนด์หมอบ หรือเรียกว่าแฮนด์จับโช้กแล้วแต่ถนัด ตัวถังที่เป็นเฟรมบอดี้ออกแบบให้หลบเข่า ชุดเกียร์ 5 สปีด ในรถจะเป็นชุดเกียร์ที่เรียกว่าเกียร์โยง ถ้าสังเกตดูจะเห็นว่ารถเป็นแนวเปลือย Body เพราะว่า Concept ของรถแนวนี้ต้องลดน้ำหนักและชิ้นส่วนของรถที่ต้านลมและไม่จำเป็นออกใช้และมีเท่าที่จะเป็นเท่านั้น แต่วงเล็บว่าต้องเท่ด้วย
เบาะนั่งโดยสารขับขี่ที่เน้นในการนั่งขับขี่คนเดียว ที่คนไทยเรียกกันว่าเบาะแบบตูดมด สิ่งที่สำคัญสำหรับการขับขี่รถแนวนี้ นอกจากตัวรถแล้ว ผู้ขับขี่ก็ต้องพร้อมด้วยครับ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการแต่งองค์ทรงเครื่องเสื้อหนัง หมวกกันน็อกแบบ Vintage ก็คือหมวกแบบเปิดหน้าและใช้แว่นคาดหน้าแบบนักบินผ้าโพกหน้า
บนเส้นทางการทดสอบจากโชว์รูมย่านทองหล่อ ไปจนถึงจังหวัดนครนายกที่ผ่านสภาพการขับขี่ทั้งในเมืองและการขับขี่รถบนถนนหลวง โดยรวมรถคันนี้ก็ยังถ่ายทอดความขลังจากเครื่องยนต์ระบบหัวฉีด EFI 535 CC เครื่องยนต์แบบสูบเดียว ลูกโตที่ให้เสียงแตกๆ เป็นเอกลักษณ์ในสไตล์คลาสสิกเรโทร เป็นตำนานมอเตอร์ไซค์ยุคสงครามโลก ที่ยังโลดแล่นในยุคปัจจุบันได้อย่างดี การขับขี่ทำให้น่าประทับใจ ใครที่ชื่นชอบรถที่มีคาแร็คเตอร์ดีไซน์ 100 อย่าง Royal Enfield Continental GT ครั้งนี้ถือว่าเป็นทางเลือกที่มองข้ามไปไม่ได้จริงๆ ครับ
รายละเอียดทางเทคนิค 2016 Royal Enfield Continental GT
ราคาจำหน่าย 2.198 แสนบาท
เครื่องยนต์ สูบเดี่ยว 535 CC
ขนาดกระบอกสูบ 87x90 มม.
กำลังสูงสุด 29.1 แรงม้า ที่ 5,100 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 44 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที
ขอขอบคุณ: บริษัท เจเนอรัล ออโต้ ซัพพลาย จำกัด ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของรถจักรยานยนต์แบรนด์ "รอยัล เอนฟิลด์" ในประเทศไทยที่เอื้อเฟื้อ รถ Royal Enfield Continental GT ในทริปทดสอบครั้งนี้