จากกรุงเทพฯ ที่ศูนย์ Toyota Driving Experience Park ของโตโยต้าย่านบางนาตราด จนไปถึงพนมสารคามที่เป็นเส้นทางจากเมืองกรุงมุ่งสู่ต่างจังหวัด เจอะเจอทั้งสภาพรถติดในตอนเช้าและเส้นทางแบบ ON Road ยาวๆ ที่ผมได้ลองขับควบคุมกำลัง 177 แรงม้า New Toyota Fortuner ในตัว 2.8V 4X4
หากจะให้พูดถึงการขับขี่โดยรวมๆ ต้องบอกว่า Toyota Fortuner ยังคงเป็นรถยนต์ PPV หรือรถยนต์อเนกประสงค์ที่ยังคงเอกลักษณ์ความนุ่มนวลในการขับขี่กว่ารุ่นอื่นๆ ในเซ็กเมนต์เดียวกันในตลาด ด้วยการเซ็ตระบบช่วงล่างต่างๆ เพื่อเน้นการนั่งโดยสาร
ส่วนความพิเศษสำหรับการขับขี่ทริปทดสอบในครั้งนี้ คือ เป็นครั้งแรกสำหรับการทดสอบขับขี่รุ่นย่อย ที่ Toyota เพิ่มขึ้นมาใหม่ คือ Toyota Fortuner ในรุ่น 2.4V 4WD เครื่องยนต์แบบดีเซล ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 1,499,000 บาท จากเดิมที่เคยมีรุ่นย่อย 2.4V เครื่องยนต์ดีเซลเฉพาะรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ให้เลือกเท่านั้น
ดีไซน์ภายนอกเน้นความสปอร์ต พร้อมกับ 2 สีตัวถังใหม่
รูปโฉมภายนอกของ Toyota Fortuner 2017 รุ่นปรับปรุงใหม่นี้เปิดตัวมาพร้อมกับ 2 สีตัวถังใหม่ คือ สีน้ำตาล Phantom Brown และสีน้ำเงิน Nebula Blue ส่วนรูปโฉมภายนอกมีการปรับเปลี่ยนช่องไฟตัดหมอกให้มีเส้นสายกรอบโครเมี่ยม รวมไปถึงเปลี่ยน ใช้ไฟหน้าแบบ Bi-Beam LED พร้อมเดย์ไทม์รันนิ่งไลท์ ซึ่งให้ทั้งความหรูหราสง่างาม และความปลอดภัยในการขับขี่ในเวลากลางคืน และปรับเปลี่ยนบันไดข้าง กระจกไฟเลี้ยว ไฟเบรกใหม่ และประตูท้าย เปิด-ปิด อัตโนมัติ ด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมระบบป้องกันการหนีบ ซึ่งให้ความสะดวกสบายในการใช้งานยิ่งขึ้น โดยสามารถสั่งงานได้จากรีโมทสวิตช์บริเวณบริเวณที่นั่งคนขับ
ภายในสไตล์ใหม่ ให้อารมณ์หรูหรา
ฝนตกพร่ำๆ จากจุดทดสอบบนอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง ไปจนถึง เขาใหญ่ที่โรงแรมมายโอโซน ที่มีโอกาสได้ขับในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ลองสำรวจส่วนภายในของรถถือว่ามีการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นครับ
โดยรวมห้องโดยสารมีความหรูหราและน่าใช้งาน ออพชั่นและการใช้งานต่างๆ ยังคงครบครัน การออกแบบตกแต่งด้วยหนังในส่วนของคอนโซลหน้าเกือบจะทั้งหมด บริเวณแผงคอนโซล บริเวณแผงประตู ที่พักแขน ที่ใช้สีโทนน้ำตาลเข้ม ดูหรูหราพร้อมหน้าจอระบบทัชสกีนขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อบลูทูธ รวมถึงส่วนเบาะนั่งหุ้มหนังสีน้ำตาลที่เพิ่มเบาะผู้โดยสารแบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนเบาะนั่งตอน 2 มีองศาการเอนที่ช่วยให้นั่งสบาย และเบาะนั่งในแถวที่ 3 ที่นั่งโดยสารได้สะดวกประมาณหนึ่ง
เรี่ยวแรงดี ขับสนุก ทั้งเครื่องยนต์ดีเซล GD Efficient Boost 2.4 และ 2.8 ลิตร
ทางเลือกในส่วนของขุมพลัง ทาง Toyota ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยน ยังคงมีทางเลือกทั้งขุมพลังดีเซล GD Efficient Boost ในแบบ 2.4 ลิตร และ 2.8 ลิตร และระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด
ในโหมดการขับขี่ผมกลับประทับใจในขุมพลังดีเซล GD Efficient Boost ในแบบ 2.4 ลิตร กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 150 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,000 รอบ/นาที เพราะช่วงการขับขี่ด้วยความเร็วสูง อาจไม่แรงแบบหลังติดเบาะ แต่พละกำลังของรถก็มาแบบค่อยเป็นค่อยไป ขับได้สบายๆ การเก็บเสียงต่างๆ ที่เข้ามาในห้องโดยสารทำได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะการเก็บเสียงการทำงานของเครื่องยนต์ดีเซลด้านหน้ารถ
ส่วนในอีกรุ่นเครื่องยนต์ 2.8 ลิตร ที่ให้กำลังแรงม้า 177 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,400 รอบ/นาที ไม่มีการปรับเปลี่ยนหรือปรับปรุงเพิ่มเติมแต่อย่างใด แต่เครื่องยนต์ยังคงมีเรี่ยวแรงไว้ใจได้ การขับทางไกลหรือการเร่งแซงสามารถทำได้ดี นอกจากนี้ ทางโตโยต้ายังมีการเพิ่มเติมระบบเบรกแบบดิสก์เบรก 4 ล้อทุกรุ่น (ยกเว้นรุ่น 2.4G MT) มาให้
ในการขับขี่ทดสอบแบบออฟโรดที่ไร่ทองสมบูรณ์ อำเภอปากช่อง ที่ทีมงานเซ็ตเส้นทางและอุปสรรคในแต่ละสถานีไว้ให้ทดสอบกันแบบค่อนข้างโหด เพื่อทดสอบระบบขับเคลื่อนซิกม่าโฟร์ที่เป็นลิขสิทธิ์การขับเคลื่อนในรูปแบบของโตโยต้า จุดดีจุดเด่นของรถอยู่ที่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ ทั้งในโหมด H2 ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อบนถนนปกติ และ H4 ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อบนถนนเปียกลื่น และ L4 บนเส้นทางวิบาก ต้องการกำลังขับเคลื่อนสูงที่ทำงานร่วมกับระบบ DAC ระบบช่วยควบคุมความเร็ว ขณะลงทางลาดชัน และระบบ A-TRC ที่ช่วยในเรื่องถ่ายกำลังเมื่อรถเกิดอาการล้อหมุนฟรี
ตลอดการทดสอบการขับขี่ในสถานีออฟโรด New Toyota Fortuner 2.4V 4×4 และ2.8 ทั้ง 2 เครื่องยนต์ก็มีกำลังขับแรงบิดช่วยให้รถยนต์ผ่านอุปสรรค์ในทุกๆ รูปแบบได้ดี ระบบช่วยเหลือต่างๆ ช่วยผู้ขับมือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์การขับขี่ในทางแบบออฟโรด สามารถถือพวงมาลัยคุมรถผ่านอุปสรรค์ไปได้ง่ายๆ ทำให้ภาพรวมของ New Toyota Fortuner 2.4V 4×4 และ2.8 ดูคุ้มค่าและน่าใช้งานมากยิ่งขึ้น ทั้งการขับขี่แบบออนโรดและออฟโรด
AFTER DRIVE BY KAN YENSABAI
สำหรับ Fortuner รุ่นปรับปรุงใหม่ ถือว่าเป็นรถที่ได้รับการตอบรับจากคนไทยเป็นอย่างดี ตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2015 เป็นรถที่มียอดจำหน่าย 40 เปอร์เซ็นต์ของตลาดในรถแบบ PTV
ในโฉมใหม่ของ New Toyota Fortuner 2.4V 4×4 รุ่นปรับใหม่ที่โตโยต้านำเสนอออกมาในครั้งนี้ มีการเพิ่มความสะดวกสบายและความหรูหรา จากบอดี้ภายนอกที่เป็นรูปลักษณ์ของรถ และภายในที่มีการปรับอะไรต่อมิอะไรเพิ่มเติมหลากหลายจุด รวมทั้งยังถือเป็นครั้งแรกที่มีการเพิ่มระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้กับเครื่องยนต์ ทั้งในแบบ 2.8 และ 2.4 ทำให้ โตโยต้าเป็นค่ายเดียวที่มีรถยนต์แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้เลือกทั้งในแบบรุ่นเครื่องยนต์เล็กและเครื่องยนต์ใหญ่
เรื่องกำลังเครื่องยนต์ทั้ง 2 ตัวก็สอบผ่าน มีการตอบสนองที่ดีเพียงพอต่อการใช้งาน และถือว่าเครื่องยนต์แรงใช้ได้ เมื่อเทียบกับรถในเซ็กเมนต์นี้ ทั้งในขณะออกตัวและขณะเร่งแซง ส่วนความนุ่มนวลของช่วงล่างก็ถือว่าเป็นจุดที่ทำได้น่าประทับใจ เห็นรถสูงแบบนี้แต่ก็ให้ความมั่นใจได้เมื่อต้องขับเข้าโค้ง
ส่วนระบบช่วยเหลือผู้ขับต่างๆ ที่ติดตั้งให้มาก็สมราคา และก็เป็นตัวช่วยในการขับแบบออฟโรดที่ต้องใช้จังหวะการเดินคันเร่ง เรื่องของการวางเท้าแตะคันเร่งและเบรกให้เท้านิ่ง รอบอยู่ที่ 1,000 รอบ แบบที่เรียกว่า Warking Speed สำหรับความสมูธในโหมดนี้ ซึ่งอาจทำได้ยากสำหรับมือใหม่ แต่ฟอร์จูนเนอร์ก็ติดตั้งมาให้เพื่อช่วยเหลือผู้ขับในจุดนี้ได้ดีครับ
***ขอขอบคุณบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด สำหรับการเชิญร่วมทริปทดสอบ New Toyota Fortuner ในครั้งนี้ครับ
ราคา New Toyota Fortuner รุ่นปรับปรุงใหม่