“ฟ้าดินแยกเราเท่าไรไม่ขาด ภพชาติรักเราห่างกันไม่ได้ เมื่อบุพเพสันนิวาสมั่นหมายให้เจอ
ผู้ใดเข้ามาไม่เคยไหวหวั่น เหมือนใจฉันเกิดมาเพื่อเป็นของเธอ รอวันพบเธอเคียงข้างรักเธอนิรันดร์”
อีกหนึ่งครั้งกับการเดินทางแบบแรลลี่ท่องเที่ยวในแบบครอบครัวสุดมันส์…ในเกมส์กิจกรรมการแข่งขันแรลลี่ ไปสัมผัสบรรยากาศริมน้ำตลาดน้ำอัมพวา พร้อมชมการแสดงของศิลปินที่หลากหลายในสไตล์บุพเพสันนิวาสย้อนยุค
งานนี้แน่นอนครบรอบ 18 ปี Auto Jam Family Rally ของ บริษัท ทาร์เก็ตมีเดียแอนด์เทเลวิชั่น จำกัด ในฐานะผู้จัดและยังมีบรรดาสมาชิกที่ต่างมาพร้อมกันในคอนเซปต์การแต่งกายชุดไทยแบบสไตล์ย้อนยุคกว่า 50 คัน สำหรับสมาชิกที่นำรถเข้ามาร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ เรามีนัดหมายกันเพื่อรวมพลที่ตึกตรีเพชรอีซูซุเซลส์ ถนนวิภาวดีฯ ในช่วงเช้าตรู่ของวันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
หลังจากบรีฟเส้นทางกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณจิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธานกรรมการ บริษัท ทาร์เก็ตมีเดียแอนด์เทเลวิชั่น จำกัด ผู้จัดงานและผู้สนับสนุนร่วมตีธงออกสตาร์ทจากซุ้มที่เตรียมรถไว้ ก่อนออกเดินทางรถทุกคันต้องเซ็ต 0 พร้อมดูใบนำทางและเริ่มร่วมเล่นเกมส์หา RC ตามพิกัดต่างๆ เพื่อสะสมคะแนน หาแชมป์ในงานเลี้ยงประกาศผลรางวัลในค่ำคืนนี้ที่อัมพวา
ความสนุกสนานเริ่มจาก TC แรกที่ต้องเข้ามาลงเวลาที่ตลาดน้ำดอนหวาย เพื่อลงเวลาในจุดแรก และเล่นเกมส์ Walk Rally ใน TC ที่ 2 ในเกมส์จับคู่สัมพันธ์และสัมผัสบรรยากาศริมน้ำของตลาดน้ำดอนหวาย หลังจากนั้นสมาชิกแรลลี่ออกเดินทางต่อไปยัง TC ที่ 3 ที่ตลาดน้ำที่สองของวันนี้คือตลาดน้ำดำเนินสะดวก พร้อมรับประทานอาหารและช้อปปิ้งสินค้า ชื่นชมบรรยากาศภายในตลาดน้ำให้เพลิดเพลินเจริญใจ
ในช่วงบ่ายสมาชิกแรลลี่ยังคงร่วมสนุกกับการหา RC กันตลอดทาง แม้อากาศจะร้อนแต่กิจกรรมระหว่างการเดินทางก็สร้างความเพลิดเพลิน ก่อนเหล่าสมาชิกแรลลี่จะไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยว Unseen Thailand ในจุด TC ที่ 4 ที่ วัดบางกุ้ง โบสถ์ปรกโพธิ์ ที่ปกคลุมด้วยรากไม้ใหญ่จากภายนอก รากไม้เหล่านี้ช่วยให้โบสถ์คงรูปอยู่ได้ ทั้งยังให้ความขรึมขลังอีกด้วย ภายในโบสถ์ปรกโพธิ์จะประดิษฐานหลวงพ่อนิลมณี หรือหลวงพ่อดำ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ให้เราได้สักการะขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล
หลังเยี่ยมชมค่ายบางกุ้ง ค่ายทหารเรือไทยที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เพราะสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ยกกองทัพเรือมาตั้งค่ายที่ค่ายบางกุ้ง โดยสร้างกำแพงล้อมวัดบางกุ้งให้อยู่กลางค่าย เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและเป็นที่เคารพบูชาของทหาร
จุดแวะท่องเที่ยวถัดมาคือ อุทยานพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย หรือในชื่อย่อ อุทยาน ร.๒ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ต้องมาเมื่อมาเที่ยวอัมพวาครับ เพราะอุทยาน ร.๒ เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เพื่อเป็นการสนองพระมหากรุณาธิคุณที่ได้พระราชทานศิลปวัฒนธรรม และมรดกทางวัฒนธรรมอัมพวาอันงดงามไว้เป็นมรดกแก่ชาติ จนได้รับยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกจากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO)
ส่วนที่ตลาดน้ำอัมพวา เราได้เยี่ยมชมบ้านครูเอื้อ แห่งวงสุนทราภรณ์ ที่เป็นอาคารไม้โบราณริมคลองอัมพวา อันเป็นถิ่นกำเนิดของครูเอื้อ สุนทรสนาน เมื่อเกือบ 100 ปีที่แล้ว ปัจจุบันได้ปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อใช้เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการประวัติผลงาน เรื่องราวของเพลงสุนทราภรณ์ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ตลอดทั้งยังรวบรวมของใช้ส่วนตัวของครูเอื้อ อาทิ เครื่องดนตรี เสื้อผ้าที่ใช้แสดง โต๊ะทำงาน และภาพเก่าๆ ที่หาชมได้ยากสำหรับบุคคลทั่วไปที่สนใจค้นคว้า
ก่อนจะไปเยี่ยมชมโครงการอัมพวาชัยพัฒนานุรักษ์ของมูลนิธิชัยพัฒนา แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ชมวิถีชีวิตและวัฒนธรรมพื้นบ้านของชุมชนชาวอัมพวา จนถึงจุดหมายปลายทางที่ คฤหาสน์ชูชัยบุรี ศรีอัมพวา พร้อมกับเล่นเกมส์เพื่อรับคะแนนในช่วงสุดท้ายก่อนจะพักผ่อนเพื่อเตรียมความพร้อมสู่ปาร์ตี้ย้อนยุคสุดมันส์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในค่ำคืนอีกในไม่ช้านี้
เข้ามาสู่ช่วงปาร์ตี้ภาคกลางคืนเหล่าสมาชิกทุกคนต่างจัดหนักจัดเต็มในธีมการแต่งกาย สไตล์บุพเพสันนิวาสแต่งชุดไทยย้อนยุค ไม่ว่าจะเป็นชุดคุณหลวง หรือพี่หมื่น ออเจ้า หรือจะเอาแบบสายฮามาแบบอีปริกหรือพี่แย้ม ก็จัดมาอย่างเต็มเหนี่ยว พร้อมกับฟังเพลงเพราะๆ จากเงาเสียงของอ๊อฟ-ปองศักดิ์ ที่ขนเพลงฮิตมากมายมาร้องขับกล่อมให้แฟนๆ สมาชิกแรลลี่เพิ่มเติมเคล้าบรรยากาศริมน้ำ ก่อนที่จะรับรางวัลต่างๆ จากผู้สนับสนุน ปิดท้ายด้วยการแดนซ์กระจายตามสไตล์ Auto Jam Family Rally เรียกว่างานนี้สนุกสุดเหวี่ยงกันจริงๆ
เรื่องราวและภาพประทับใจและภาพความมันส์ในครั้งนี้ คุณผู้อ่านยังสามารถติดตามกันต่อได้ที่ www.autojamthailand.com รายการ Auto Jam Holiday ทางช่อง 9 MCOT HD และรายการ 1 ล้านไมล์ไปกับจิรายุห่วงทรัพย์ทาง Voice TV 21