อีซูซุรุกตลาดอย่างต่อเนื่องทั้งด้านผลิตภัณฑ์และบริการหลังการขาย ด้วยการจัดแข่งขันทักษะด้านการขายและบริการหลังการขายอีซูซุ ประจำปี 2562 รอบชิงชนะเลิศ มุ่งเป้าเพื่อเพิ่มศักยภาพพร้อมกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาทักษะการบริการให้กับเจ้าหน้าที่ของผู้จำหน่าย รถอีซูซุทั่วประเทศ เพื่อให้พร้อมมอบการบริการที่มีคุณภาพได้มาตรฐานและสร้างความพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี
มร.โทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า“ปี พ.ศ. 2562 นับเป็นปีที่มีความสำคัญอย่างยิ่งปีหนึ่งของธุรกิจอีซูซุในประเทศไทย เราประสบความสำเร็จในการแนะนำรถปิกอัพรุ่นเปลี่ยนโฉมใหม่หมดครั้งแรกในรอบ 8 ปี “ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์..พลานุภาพ พลิกโลก!” เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว อีกทั้งยังได้เริ่มต้นการปรับปรุงโชว์รูมและศูนย์บริการตามอัตลักษณ์องค์กรใหม่ภายใต้แนวคิด “The TOUCH” เพื่อยกระดับการให้บริการเพื่อประสบการณ์ที่ดีของลูกค้าอีกด้วย ซึ่งหนึ่งในนโยบายหลักสำคัญที่ก่อให้เกิดความสำเร็จ อันยิ่งใหญ่นี้ คือ การพัฒนาความรู้ความสามารถ ทักษะด้านการขายและการบริการหลังการขายของเจ้าหน้าที่อีซูซุ โดยในทุกปีเราจัดให้มีการอบรมในหลักสูตรต่าง ๆ รวมทั้งพัฒนาการเรียนการสอนผ่านระบบ Tri Petch e-Learning เพื่อเตรียมความรู้ด้านผลิตภัณฑ์และทักษะที่จำเป็นในการทำงาน รวมถึงการจัดการแข่งขัน “ทักษะด้านการขายและบริการ หลังการขายอีซูซุ” เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง สามารถมอบการบริการที่มีคุณภาพเพื่อสร้างความพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าได้อีกด้วย ทั้งนี้ผู้ชนะเลิศในการแข่งขันครั้งนี้ จะได้ไปร่วมแข่งขันทักษะบริการด้านเทคนิคของอีซูซุ ระดับนานาชาติ (Isuzu World Technical Competition I-1 Grand-Prix) ซึ่งทางเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ชนะเลิศการแข่งขันครั้งนี้จะ ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติอีกด้วย”
การแข่งขันทักษะด้านการขายและบริการหลังการขายอีซูซุ ประจำปี 2562 รอบชิงชนะเลิศนี้ ผู้เข้าแข่งขันต้องผ่านการทดสอบอย่างเข้มข้นตามมาตรฐานการปฏิบัติงานแต่ละด้าน และเนื่องด้วยรถในปัจจุบันมีระบบไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้องในหลายส่วน จึงได้เพิ่มการทดสอบการตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าและต่อวงจรไฟฟ้า และอีกการทดสอบคือการดำเนินงานอะไหล่ต่อเชื่อมกับระบบ MiRai ซึ่งเป็นระบบไอทีของผู้จำหน่ายรถอีซูซุทั่วประเทศ ทำให้การแข่งขันเข้มข้นขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมา สำหรับรอบชิงชนะเลิศมีเจ้าหน้าที่ผ่านเข้ารอบทั้งสิ้น 216 คน จากผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 1,807 คน โดยมีเงินรางวัลรวมมูลค่ามากกว่า 2.7 ล้านบาท ซึ่งผลการแข่งขันมีดังนี้
“การได้เข้าร่วมแข่งขันในครั้งนี้รู้สึกภูมิใจกับรางวัลที่ได้รับมากครับ ด้วยรถปิกอัพที่ใช้ในการแข่งด้านงานช่างเป็นรถใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ทำให้มีเวลาฝึกซ้อมกันแค่ประมาณ 3 เดือน แต่ทางทีมก็ได้ฝึกซ้อมกันอย่างเต็มที่เพื่อเป้าหมายความพอใจสูงสุดของลูกค้า โดยมุ่งเน้นด้านความซื่อสัตย์และความรับผิดชอบต่องานเพื่อให้ลูกค้าพอใจในงานบริการของเรามากที่สุดครับ” คุณอัครชัย จินดาทา หนึ่งในผู้ชนะเลิศทักษะด้านบริการหลังการขายประเภททีม กล่าวทิ้งท้าย