บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดตัวรถยนต์ Lexus UX 300e ซึ่งเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่รุ่นแรกในประเทศไทย เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้าที่มองหายานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า พร้อมตอกย้ำความมุ่งมั่นขององค์กรในการวางรากฐานรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างจริงจัง เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมทั้งในระดับสังคม ระดับประเทศ และระดับโลก โดยเชื่อมั่นว่าจะมีส่วนช่วยยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ประเทศไทย ตลอดจนผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์พลังงานทางเลือกในอนาคตต่อไป
บริษัท โตโยต้า มีความพยายามในการเดินหน้าผลักดันนวัตกรรมยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้ามาต่อเนื่องยาวนานนับทศวรรษ โดย บริษัทฯ ได้มีการจำหน่ายรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าหลากหลายประเภทในระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด (HEV) รถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid หรือ PHEV) รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ (BEV) และรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากเซลล์เชื้อเพลิง (FCEV) ด้วยความมุ่งมั่นที่จะผลักดันผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย รองรับความต้องการใช้งานรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น ตลอดจนเป็นการสนับสนุนการขยายตัวของรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าให้เป็นที่นิยมในวงกว้าง
ทั้งนี้ รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าของโตโยต้าได้ถูกออกแบบและนำเสนอ เพื่อตอบสนองการใช้งานในคุณลักษณะและอรรถประโยชน์ที่แตกต่างกัน อาทิ
รถยนต์ Lexus UX 300e เป็นรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่รุ่นแรกที่ทาง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าในตลาดรถยนต์หรูที่กำลังมองหาและต้องการเป็นเจ้าของรถยนต์ที่ขับเคลื่อนไฟฟ้าเป็นรายแรกๆ ของประเทศ อันจะเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นและสร้างความมั่นใจในการใช้รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าแก่สาธารณชนในวงกว้าง
ทั้งนี้ การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า Lexus UX 300e ถือเป็นอีกก้าวสำคัญ นับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2552 ที่ทางบริษัทฯ ได้ทำการเปิดตัวรถยนต์ คัมรี่ ไฮบริด ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด (HEV) รุ่นแรกของโตโยต้าในประเทศไทย และถือเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยมาโดยตลอด โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด ภายใต้แบรนด์โตโยต้า จำนวน 5 รุ่น และ รถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ภายใต้แบรนด์เลกซัสอีก 7 รุ่น ส่งผลให้โตโยต้าถือเป็นบริษัทรถยนต์ที่จำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหลากหลายรุ่นที่สุดในกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศไทย
ทั้งนี้ โตโยต้าต้องการมีส่วนในการร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยให้เข้าสู่ยุคแห่งการใช้งานรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า เช่น การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริดในประเทศตั้งแต่ปี 2552 การประกอบแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริดในประเทศตั้งแต่ปี 2562 หรือการวางรากฐานในการบริหารจัดการแบตเตอรี่รถยนต์ไฮบริดใช้แล้วแบบครบวงจร หรือ 3R (ประกอบด้วย การใช้ซ้ำ: Re-use , การผลิตแบตเตอรี่เกรดใช้งานแล้วลูกใหม่ : Rebuilt และการหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ : Recycle) อีกด้วย โดยในปัจจุบัน โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้มีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริดไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 96,000 คัน
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการเพิ่มปริมาณการใช้งานรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าในประเทศไทย โดยร่วมกับมหาวิทยาลัยชื่อดังในการทำโครงการแบ่งปันรถกันใช้ด้วยยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก “CU Toyota Hamo” รวมถึงการสนับสนุนองค์กรส่วนท้องถิ่นและภาคส่วนต่างๆ ในการลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซต์ด้วยการนำเสนอรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า รวมถึงบริการต่างๆ ที่บริษัทฯได้พัฒนาขึ้น อาทิ การสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ผ่านระบบ Car Sharing โดยยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก Toyota Hamo ที่ โตโยต้าเมืองสีเขียว จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นต้น โดยบริษัทฯ จะนำเสนอความคืบหน้าของกิจกรรมอื่น ๆ ในการผลักดันนวัตกรรมยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าสู่สังคมไทยให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป
ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอขอบคุณรัฐบาลที่ให้การส่งเสริมนวัตกรรมยานยนต์ที่ขับคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างเพิ่มมากขึ้นมาโดยตลอด โดยบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะร่วมกับองค์กรที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ในการผลักดันให้ผู้บริโภคชาวไทยได้มีตัวเลือกเทคโนโลยียานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่จะสามารถตอบสนองต่อความต้องการทั้งในด้านการใช้งานทั่วไปและในด้านเศรษฐกิจ โดยในอนาคตอันใกล้นี้ บริษัทฯ มีความมุ่งหวังที่จะผลิตยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่มการใช้งาน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดและลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น โดยพนักงานจำนวนกว่า 19,400 คนที่ทำงานอยู่ในเครือบริษัทโตโยต้าในประเทศไทย (บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด , บริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด และ บริษัท สยามโตโยต้าอุตสาหกรรม จำกัด) พร้อมที่จะทุ่มเทพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยได้กลายเป็นฐานการผลิตและการส่งออกหลักที่สำคัญทั้งสำหรับภูมิภาคเอเชียและภูมิภาคอื่นๆ ต่อไป