สถิติของ Porsche Asia Pacific ในไตรมาสแรกที่เข้าใกล้เป้าหมายด้านยนตรกรรมสปอร์ตไฟฟ้า

  • April 27, 2021

      Porsche Asia Pacific สร้างสถิติผลการดำเนินงานที่ดีที่สุดในไตรมาสแรก ด้วยตัวเลขยอดส่งมอบรถสปอร์ตรวมถึง 827 คัน คิดเป็นอัตราการเติบโตสูงถึง 28% ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2021 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า

       ยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าคือศูนย์กลางในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เดินหน้า กว่า 47% ของจำนวนรถที่จำหน่าย ล้วนแล้วแต่เป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ (BEVs) หรือรถยนต์ไฟฟ้า plug-in hybrid (PHEVs) สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้บริษัทสามารถมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่ถูกต้องได้อย่างรวดเร็วสนองตอบนโยบายการดำเนินงานในระดับสากล ภายในปี 2025 ครึ่งหนึ่งของรถใหม่จากปอร์เช่ที่จำหน่ายในตลาดจะต้องเป็นยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า 100% หรือติดตั้งขุมพลัง hybrid ก็ตาม

      ปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) ยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า ถูกส่งมอบถึงมือลูกค้าในไตรมาสนี้เป็นจำนวนกว่า 150 คัน หรือคิดเป็นเกือบร้อยละ 5 ของยอดจำหน่ายทั่วโลก

       นิวซีแลนด์ และประเทศ 3 สหายในภูมิภาค ที่ประกอบด้วย ประเทศไทย สิงคโปร์ และมาเลเซีย สามารถสร้างผลงานได้ในระดับยอดเยี่ยม ถือเป็นดาวเด่นที่มีความสำคัญต่อแบรนด์ปอร์เช่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ยังคงเปี่ยมไปด้วยศักยภาพในการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ไม่อาจมองข้ามได้ ส่งผลให้บรรดาประเทศสมาชิกอาเซียน (ASEAN) ทั้งหลายดำรงสถานะเป็นกุญแจสำคัญสำหรับปอร์เช่ในการวาดฝันถึงอนาคตของรถสปอร์ตได้ในระยะยาว

      “แนวคิดของความเป็นหนึ่งเดียวและจิตวิญญาณแห่งนักบุกเบิก คือแรงผลักดันให้ทีมงานปอร์เช่รวมถึงพันธมิตรของเราสรรสร้างเครื่องมือในการพัฒนาต่างๆ ผ่านไอเดียด้านนวัตกรรมที่น่าตื่นเต้นจนทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยม การได้เห็นลูกค้าตกหลุมรักยนตรกรรมสปอร์ตของเราเปรียบเสมือนกำลังใจอันยิ่งใหญ่ ตามหลักปรัชญาที่ว่าปอร์เช่คือสายเลือดของรถสปอร์ตพันธุ์แท้ โดยไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ Hybrid หรือรถพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ทั้งหมดกำเนิดขึ้นจากความศรัทธา และความหลงใหล เกินกว่าที่ใครจะคาดคิด” Arthur Willmann  Chief Executive Officer ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของ Porsche Asia Pacific กล่าว

       มากกว่า 60% ของผู้ครอบครองปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) ซึ่งได้รับมอบรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบของพวกเขาในช่วงไตรมาสแรกนั้น ล้วนเป็นกลุ่มลูกค้ารายใหม่ของแบรนด์ปอร์เช่ทั้งสิ้น ร่องรอยอารยธรรมที่ปอร์เช่สืบสานมายาวนานกำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคสมัยแห่งความรุ่งโรจน์อีกครั้ง ด้วยความยอดเยี่ยมของยนตรกรรมสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าดังกล่าว

       สิ่งที่มาพร้อมกับการเปิดตัว ไทคานน์ (Taycan) ในฐานะรถไฟฟ้า 100% คือการแถลงนโยบายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจากกระบวนการผลิตด้วยโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon - offsetting) ซึ่งปอร์เช่นำมาใช้ในปี 2020 การพัฒนาอย่างยั่งยืนยังคงเป็นหัวใจสำคัญสำหรับการดำเนินงานของ Porsche Asia Pacific เช่นเดิมในปีนี้

       การร่วมมือกับ Shell คือความสำเร็จครั้งแรกของเครือข่ายสถานีชาร์จพลังงานประสิทธิภาพสูง high performance charging network ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เชื่อมต่อการเดินทางสัญจรระหว่างประเทศสิงคโปร์ และมาเลเซีย ผลของการประสานงานดังกล่าวครอบคลุมการติดตั้งจุดชาร์จพลังงานไฟฟ้ากระแสตรง direct-current (DC) chargers ขนาด 180 kW ในสถานีบริการ Shell 6 แห่ง รองรับการชาร์จพลังงานประสิทธิภาพสูงสุดในเส้นทางหลักของทั้ง 2 ประเทศ เป็นการเน้นย้ำพันธสัญญาของทั้ง 2 องค์กร ในการก้าวไปข้างหน้าเพื่อผลักดันให้เกิดอัจฉริยภาพแห่งการเดินทางบนเส้นทางต่างๆ ในภูมิภาคนี้

       ปอร์เช่ยังคงพยายามในการส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ใหม่ๆ ที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและเร้าใจ การนำพาลูกค้า รวมทั้งผู้หลงใหลในรถยนต์ปอร์เช่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์คือภารกิจลำดับต้น สนับสนุนด้วยความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และการดึงพันธมิตรที่เปี่ยมไปด้วยศักยภาพเข้ามาร่วมปฏิบัติงาน

       เครือข่ายการจัดจำหน่ายเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่กำลังเติบโตเริ่มด้วยการเปิดตัวศูนย์บริการ Porsche Centre Ara Damansara และ Porsche Centre Johor Bahru ที่กำลังจะเปิดในประเทศมาเลเซีย

       Porsche Asia Pacific มีพันธกิจในการชักนำผู้คนเข้ามาสู่โลกของยนตรกรรมสปอร์ตระดับตำนาน ผ่านนิทรรศการ pop-up ที่มีชื่อว่า “Driving Tomorrow” จัดขึ้นที่ศูนย์จัดแสดง Jewel Changi Airport ประเทศสิงคโปร์ ต้อนรับผู้เข้าชมงานมากกว่า 20,000 คน เมื่อต้นปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ปอร์เช่ยังเปิด Porsche Studio Hanoi ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงที่คึกคักของประเทศเวียดนาม  รับหน้าที่เป็นประตูบานแรกในการเข้าสู่โลกแห่งยานยนต์สปอร์ต ด้วยโชว์รูมในรูปแบบ contemporary ให้ความรู้สึกเหมือนการไปพักผ่อน ณ บูติก โฮเต็ล ที่หรูหราและสง่างาม เช่นเดียวกับยนตรกรรมสปอร์ตอันทรงคุณค่าจากปอร์เช่

      นับจากนี้ลูกค้าและผู้หลงใหลในรถยนต์ปอร์เช่จะยังคงได้รับความตื่นตาตื่นใจแบบไม่รู้จบ จากบรรดายนตรกรรมสปอร์ตหลากหลายรูปแบบ เริ่มต้นด้วยตระกูลรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) ทั้ง 4 รุ่น  ตามมาด้วย ปอร์เช่ 911 จีที3 ใหม่ (The new Porsche 911 GT3) ที่กำลังจะเปิดตัวอีกในไม่นาน มั่นใจได้ว่าวิสัยทัศน์ของปอร์เช่ในปีนี้  คือการรังสรรค์ยนตรกรรมสปอร์ตในฝันของลูกค้าทุกคนให้กลายเป็นความจริง