มาสด้าเริ่มขยายโมเดลธุรกิจในรูปแบบใหม่ เตรียมเปิดศูนย์บริการเพื่อให้บริการเฉพาะด้านการตรวจเช็กรถตามระยะทางแบบเร่งด่วน และสามารถรอรับรถกลับได้ทันทีภายใน 30 นาที หรือ FAST SERVICE เพื่อรองรับกับปริมาณลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนศูนย์บริการหลักเริ่มมีจำนวนลูกค้าเข้าใช้บริการอย่างหนาแน่น จนเกิดการรอคิวเพื่อนำรถมาเข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อลดความแออัดดังกล่าวและอำนวยความสะดวกแบบรวดเร็วทันใจ มาสด้าจึงได้ทำการเปิดศูนย์บริการเฉพาะการบริการแบบเร่งด่วน เพื่อเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในสังคมยุคปัจจุบันที่ทุกคนต่างเร่งรีบ รวมทั้งเป็นการช่วยบรรเทาและลดความแออัดของศูนย์บริการหลักได้เป็นอย่างดี
นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันมาสด้ามีโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการมาตรฐานทั่วประเทศไทยทั้งหมด 140 แห่ง แม้ว่าปีนี้จะตั้งเป้าเพิ่มขึ้นอีก 10 แห่ง แต่ทั้งหมดที่กำลังจะเกิดขึ้นก็ยังไม่เพียงพอต่อการเข้ารับบริการของลูกค้า ดังนั้นการลงทุนเพื่อเปิดเฉพาะศูนย์บริการแบบเร่งด่วนขึ้น จะช่วยแบ่งเบาภาระและลดความแออัดของศูนย์ใหญ่และเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า ซึ่งศูนย์บริการแห่งนี้จะเป็นต้นแบบให้กับการขยายธุรกิจของดีลเลอร์ที่มีโชว์รูมหลักอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าจะเปิดช่องซ่อมแบบเร่งด่วนเพิ่มเติม หรือ FAST TRACK ไปแล้วก็ตาม แต่ยังคงไม่เพียงพอต่อความต้องการ ดังนั้นการเปิดเฉพาะงานซ่อมบำรุงรักษาตามระยะจึงเป็นทางออกที่เหมาะสม โดยเฉพาะลูกค้าที่อาศัยอยู่ในย่านชุมชนจะได้มีทางเลือกในการนำรถเข้ารับบริการที่สะดวกรวดเร็ว ลดการรอคิว และลดความแออัดของศูนย์บริการหลักที่มีลูกค้าเข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก โดยสาขาแรกที่เปิดให้บริการตั้งอยู่ในซอยวัชรพล เขตบางเขน จะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป ซึ่งบริหารงานโดย มาสด้า แอลบาทรอส ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของมาสด้าในประเทศไทยที่มีโชว์รูมหลักอยู่บนถนนรามอินทราและลำลูกกา
หากนับย้อนกลับไป 10 ปี ปริมาณรถยนต์มาสด้าที่กำลังวิ่งอยู่บนถนนในเมืองไทยมีมากกว่า 500,000 คัน และมีจำนวนลูกค้าที่นำรถเข้าเช็กระยะกับศูนย์บริการมาตรฐานมาสด้าเกินกว่า 80% และจากการขายที่เพิ่มสูงขึ้นในทุกๆ ปี ส่งผลให้โชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานไม่เพียงพอกับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การขยายศูนย์เซอร์วิสที่ให้บริการแบบเร่งด่วน หรือ FAST SERVICE จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของศูนย์ใหญ่และเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการเข้ารับการบริการของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุดและยกระดับคุณภาพบริการหลังการขายให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ
นายชาญชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า วัตถุประสงค์หลักของการเปิดศูนย์บริการ MAZDA FAST SERVICE เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ด้วยการใช้เวลาในการตรวจเช็กตามระยะน้อยลงจากปกติครึ่งหนึ่ง หรือใช้เวลาเพียงแค่ 30 นาที เท่านั้น ซึ่งลูกค้าสามารถรอรับรถกลับได้เลย โดยงานบริการลูกค้าแบบเร่งด่วนที่รองรับ ประกอบด้วย การบำรุงรักษาตามระยะที่กำหนด*, บริการเติมฟรีลมยางไนโตรเจน, งานโปรแกรมพิเศษหรืออัพเดทโปรแกรม Software, โช๊คอัพ, งานระบบเบรก และเปลี่ยนแบตเตอรี่ ซึ่งการให้บริการต่างๆ เหล่านี้ ดำเนินการโดยช่างเทคนิคผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมและการทดสอบจากศูนย์ฝึกอบรมมาสด้า รวมถึงใช้อุปกรณ์มาตรฐานและเครื่องมือที่คัดสรรอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้การตรวจเช็กมีความแม่นยำสูงที่สุด ที่สำคัญเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของเหลวที่มีประสิทธิภาพสูงเท่านั้น เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่ารถทุกคันที่เข้ารับบริการที่ MAZDA FAST SERVICE จะได้รับบริการที่เป็นมาตรฐานเฉกเช่นเดียวกับที่ศูนย์บริการหลัก
วันนี้ มาสด้าถือฤกษ์งามยามดีประเดิมเปิดศูนย์บริการแบบเร่งด่วน MAZDA FAST SERVICE แห่งแรกในประเทศไทย บนทำเลใจกลางชุมชนย่านวัชรพล ให้บริการตรวจเช็กตามระยะแบบเร่งด่วนภายในเวลา 30 นาที* เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว ทันใจ พร้อมตอบรับสังคมยุคใหม่แบบไร้เงินสดด้วยการรับชำระค่าบริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น โดยตั้งเป้าเปิดให้บริการเพิ่มในอีกหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อสานต่อปณิธานในการส่งมอบบริการที่เหนือระดับให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุด
สำหรับการเปิด MAZDA FAST SERVICE แห่งแรกนี้ ดำเนินงานโดย นางสาวอัญญาพร แซ่คู กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลบาทรอส ออโต้ จำกัด ซึ่งปัจจุบันมีโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการมาตรฐานอยู่บนถนนรามอินทรา กม. 2 และถนนลำลูกกา กม. 4 ซึ่งเป็น 2 โชว์รูมหลัก และขยายเพิ่มเติมเพื่อให้บริการเฉพาะการตรวจเช็กตามระยะแบบเร่งด่วน ตั้งอยู่ในซอยวัชรพล ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนและย่านเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่กำลังบูม สำหรับลูกค้าที่ต้องการนำรถเข้าตรวจเช็กตามระยะแบบเร่งด่วนกับ MAZDA FAST SERVICE สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการ มาสด้า แอลบาทรอส วัชรพล โทรศัพท์ 081-770-0909 โดยเปิดให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 08:00 – 17:00 น.