บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดเอสยูวีในไทย เผยความสำเร็จอีกขั้นของ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ เจเนอเรชันที่ 6 ยนตรกรรมรุ่นล่าสุดในไลน์อัปเอสยูวีของฮอนด้า ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จากการทดสอบการชนของ ASEAN NCAP ซึ่งเป็นการทดสอบเพื่อวัดสมรรถนะด้านความปลอดภัยของยานยนต์รุ่นใหม่ที่วางจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (New Car Assessment Program for Southeast Asia) โดยนับเป็นการคว้ามาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดต่อเนื่อง 3 เจเนอเรชัน สะท้อนการเป็นรถเอสยูวีคุณภาพที่เปี่ยมด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด อีกทั้งเป็นเครื่องยืนยันถึงการสร้างสรรค์และนำเสนอยนตรกรรมคุณภาพของฮอนด้า ที่มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย เพื่อส่งมอบความมั่นใจและความสุขสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนในทุกเส้นทาง สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของฮอนด้าในการมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำในการสร้างสังคมการขับขี่ปลอดอุบัติเหตุให้เกิดขึ้น ทั้งการใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ทั่วโลกภายในปี 2050
ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว ด้วยคะแนนรวม 87.16 เต็ม 100 คะแนน โดยได้รับคะแนนในแต่ละด้าน ทั้ง 4 ด้าน จากคะแนนเต็ม 120 คะแนน ซึ่งหลักเกณฑ์การประเมินประกอบด้วย การทดสอบการชนจากด้านหน้า การชนจากด้านข้าง และการประเมินเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย โดย ซีอาร์-วี ใหม่ ได้รับคะแนนในส่วนการปกป้องผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ (Adult Occupant Protection: AOP) 31.45/32 คะแนน การปกป้องผู้โดยสารที่เป็นเด็ก (Child Occupant Protection: COP) 45.81/51 คะแนน เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย (Safety Assist Technologies: SATs) 19.50/21 คะแนน และความปลอดภัยต่อผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ (Motorcyclist Safety: MS) 9.05/16 คะแนน ทั้งนี้ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ เปิดตัวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยเมื่อเดือนมีนาคม 2566 และได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้า นอกจากนี้ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ยังสามารถคงมาตรฐานความปลอดภัยยอดเยี่ยมระดับ 5 ดาวไว้ได้อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เจเนอเรชันที่ 4 ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาวเมื่อปี พ.ศ. 2556 จนถึงเจเนอเรชันปัจจุบัน โดยรุ่นที่นำมาใช้ในการทดสอบครั้งนี้ เป็นรุ่น EL 4WD* ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร Direct Injection DOHC VTEC TURBO
ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ทุกรุ่นย่อย ได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง* (Honda SENSING) ที่ผสานการทำงานของกล้องด้านหน้าและเรดาร์ ในการตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วยฟังก์ชันการทำงานหลัก ได้แก่
พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่อื่นๆ* อาทิ ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS) เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC) ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL) ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor) เป็นต้น
ฮอนด้า จะยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนายนตรกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบยนตรกรรมที่มีคุณภาพ ครบครันด้วยเทคโนโลยีทั้งด้านการขับขี่และความปลอดภัย เพื่อมอบความมั่นใจและความปลอดภัยในทุกการเดินทาง เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำในการสร้างสังคมการขับขี่ปลอดอุบัติเหตุให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน ทั้งการใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ทั่วโลกภายในปี 2050
สัมผัสกับ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ โดยสามารถสอบถามข้อมูลจากที่ปรึกษาการขายได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือแชตกับที่ปรึกษาการขายทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777 หรืออ่านรายละเอียดทาง www.honda.co.th/crv ลูกค้าสามารถทดลองขับเพื่อสัมผัสกับเทคโนโลยีความปลอดภัย และสมรรถนะการขับขี่ของฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ทั้งขุมพลังเครื่องยนต์เทอร์โบ VTEC TURBO ที่มอบอัตราเร่งเร้าใจ ขับสนุกสไตล์สปอร์ต และระบบฟูลไฮบริด e:HEV ที่มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมในชีวิตประจำวันได้อย่างไร้กังวล ได้ที่โชว์รูมฮอนด้า
โดย ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ มาพร้อมข้อเสนอพิเศษ** ดอกเบี้ย 2.29% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี พร้อมฟรีโปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care) ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร สำหรับรุ่น e:HEV รับเพิ่มประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปีและรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง โดยลูกค้าที่ลงทะเบียนและร่วมกิจกรรมทดลองขับผ่าน www.honda.co.th/testdrive ตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2566 – 30 กันยายน 2566 จะได้รับฟรีขวดน้ำพับได้ มูลค่า 250 บาท**
*อุปกรณ์มาตรฐานความปลอดภัยแตกต่างกันในแต่ละรุ่นและแต่ละประเทศ
**เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
####
ยนตรกรรมรุ่นต่างๆ ของฮอนด้าที่ผ่านการทดสอบการชนของ ASEAN NCAP
รุ่น |
รุ่นปี |
ผลการทดสอบ |
ซีอาร์-วี |
2023 |
ระดับ 5 ดาว |
2017 |
ระดับ 5 ดาว |
|
2013 |
ระดับ 5 ดาว* |
|
ดับเบิลยูอาร์-วี |
2023 |
ระดับ 5 ดาว |
เอชอาร์-วี |
2022 |
ระดับ 5 ดาว |
2015 |
ระดับ 5 ดาว** |
|
บีอาร์-วี |
2022 |
ระดับ 5 ดาว |
2015 |
ระดับ 5 ดาว* |
|
ซีวิค |
2021 |
ระดับ 5 ดาว |
2016 |
ระดับ 5 ดาว** |
|
2013 |
ระดับ 5 ดาว* |
|
ซิตี้ |
2020 (ซีดานและแฮทช์แบ็ก) |
ระดับ 5 ดาว |
2014 |
ระดับ 5 ดาว* |
|
2012 |
ระดับ 5 ดาว* |
|
แอคคอร์ด |
2019 |
ระดับ 5 ดาว |
บริโอ้ และ บริโอ้ อเมซ |
2016 |
ระดับ 4 ดาว |
แจ๊ซ |
2014 |
ระดับ 5 ดาว* |
* ในรุ่นที่ไม่ได้ติดตั้งระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist: VSA) และระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า (Seatbelt Reminder: SBR) ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 4 ดาว
** สำหรับฮอนด้า ซีวิค (รุ่นปี 2016) และเอชอาร์-วี (รุ่นปี 2015) ในรุ่นที่ไม่ได้ติดตั้งระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า (Seatbelt Reminder: SBR) ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 4 ดาว
เกี่ยวกับ ASEAN NCAP
การทดสอบการชนเพื่อทดสอบสมรรถนะด้านความปลอดภัยของรถยนต์ของ ASEAN NCAP (ASEAN New Car Assessment Program) เป็นส่วนหนึ่งของโครงการประเมินสมรรถภาพรถยนต์ใหม่ หรือ NCAP (New Car Assessment Program) มีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งส่งเสริมมาตรฐานความปลอดภัยบนท้องถนน กระตุ้นให้เกิดการรับรู้และเห็นถึงความสำคัญของการขับขี่ปลอดภัย รวมถึงสนับสนุนการผลิตรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีความปลอดภัยเพิ่มสูงขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ประชาคมอาเซียน) ทั้งนี้ การทดสอบมาตรฐานความปลอดภัยจากการทดสอบการชนของ ASEAN NCAP เป็นการดำเนินงานร่วมกันระหว่าง ASEAN NCAP และสถาบันวิจัยยานยนต์ประเทศญี่ปุ่น (JARI)
ข้อมูลผลิตภัณฑ์ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่
ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ สปอร์ตพรีเมียมเอสยูวีที่ผสานคุณค่าใหม่เพื่อยกระดับเอสยูวีไปอีกขั้น ทั้งดีไซน์ภายนอกที่สปอร์ตพรีเมียม แข็งแกร่งในทุกมิติ ครั้งแรกกับรุ่น RS ที่เสริมความสปอร์ตอีกขั้นในดีไซน์สไตล์เอกซ์คลูซีฟรอบคัน ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย มาพร้อมพื้นที่สัมภาระท้ายขนาดใหญ่ รองรับทุกไลฟ์สไตล์กับเบาะโดยสารทั้งแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง สามารถปรับพับเพื่อเพิ่มพื้นที่การใช้งานได้ดั่งใจ มาพร้อม 2 ขุมพลังการขับเคลื่อน กับระบบฟูลไฮบริด e:HEV และขุมพลังเครื่องยนต์เทอร์โบ VTEC TURBO มอบสมรรถนะการขับขี่ขับสนุก ทรงพลัง แต่ยังมีอัตราประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมโดยมีให้เลือกทั้งแบบระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ (Real Time(TM) AWD with E-DPS) มั่นใจทุกเส้นทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ในทุกรุ่นย่อย อีกทั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่ระดับพรีเมียม อาทิ ใหม่ ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS) เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC) ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL) พร้อมเติมเต็มประสบการณ์ที่ดีตลอดเส้นทางด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายที่ครบครัน อาทิ ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-Free Power Tailgate with Walk Away Close) ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ พร้อม Honda Smart Key Card ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ (Driver Memory Seat) ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร (Ambient Light) อีกทั้งหลากหลายเทคโนโลยีเพื่อการเชื่อมต่อสมาร์ตไลฟ์สไตล์ อาทิ ใหม่ ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) ระบบเครื่องเสียง BOSE พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) พร้อมมอบประสบการณ์เดินทางที่เหนือระดับไปอีกขั้น เสริมความมั่นใจยิ่งขึ้นสำหรับรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยระบบฟูลไฮบริด e:HEV ด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง