Porsche Penske Motorsport ปิดท้ายการแข่งขัน FIA World Endurance Championship WEC รอบที่ 2 โดยมีนักแข่ง Porsche 963 ขึ้นโพเดียมอีกครั้ง ที่สนาม Autodromo di Imola นักแข่งลอเรนส์ แวนธูร์ (Laurens Vanthoor), อังเดร ลอตเตอเรอร์ (André Lotterer) และ เควิน เอสเตร (Kévin Estre) ข้ามเส้นชัยเป็นอันดับ 2 ท่ามกลางสภาพอากาศอันเลวร้ายช่วงท้ายการแข่งขันอันยาวนาน 6 ชั่วโมง หลังจากการแข่งขันผ่านไปอย่างดุเดือด เฟรเดริก มาโคเวียคกี (Frédéric Makowiecki), ไมเคิล คริสเตนเซ่น (Michael Christensen) และ แมตต์ แคมป์เบลล์ (Matt Campbell) คว้าโพเดียมอันดับที่ 3 ไปครอง ส่วน Porsche รุ่น 963 ของทีมลูกค้า คว้าธงเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 11 และสำหรับในประเภท LMGT3 นั้น Manthey PureRxcing คว้าชัยชนะในรุ่นไปได้อีกครั้ง ถือเป็นการเก็บชัยชนะตั้งแต่เริ่มเปิดฤดูกาล
สตุ๊ทการ์ท. การแข่งขันระยะเวลา 6 ชั่วโมง เริ่มต้นขึ้นในเวลา 13:00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศเยอรมนี ท่ามกลางสภาพอากาศแจ่มใส ในช่วงแรกของการแข่งขันเกิดอุบัติเหตุชนกันของรถไฮเปอร์คาร์หลายคัน บริเวณทางโค้ง Tamburello ส่งผลให้ต้องมีการใช้รถ Safety car สำหรับรถ Porsche 963 มีอังเดร ลอตเตอเรอร์ (André Lotterer) นักขับชาวเยอรมัน ขับรถหมายเลข 6 และไมเคิล คริสเตนเซ่น (Michael Christensen) นักขับชาวเดนมาร์ก ขับรถหมายเลข 5 ลงสนามแข่งขันกับทีมรถ Ferrari (เฟอร์รารี) เจ้าถิ่นไปอย่างสูสี สำหรับ ลอเรนส์ แวนธูร์ (Laurens Vanthoor) นักขับชาวเบลเยียมสามารถทำผลงานได้ดีด้วยรถหมายเลข 6 จากอันดับ 4 บนกริดสตาร์ท เร่งขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ได้อย่างรวดเร็ว ส่วน เฟรเดริก มาโคเวียคกี (Frédéric Makowiecki) นักขับชาวฝรั่งเศส ในรถหมายเลข 5 สามารถรักษาอันดับอยู่ในกลุ่ม Top 5 ได้สำเร็จ การแข่งขันดำเนินมาถึงช่วงกลางฤดูกาล รถแข่งทั้ง 2 คันของทีม Porsche Penske Motorsport ยังคงอยู่ในกลุ่มผู้นำและรักษาการตำแหน่งผู้นำได้สำเร็จ
เวลาประมาณ 17.00 น. หลังจากการแข่งขันดำเนินมากว่า 4 ชั่วโมง สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนแปลง ไม่นานหลังจาก ที่ เควิน เอสเตร (Kévin Estre) นักขับชาวฝรั่งเศส และ แมตต์ แคมป์เบลล์ (Matt Campbell) นั่งหลังพวงมาลัยในปอร์เช่ 963 ทั้ง 2 คัน ฝนก็เริ่มตกหนักมากขึ้น เอสเตร (Estre) เป็นคนแรกที่ตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้ Wet Tyres ยางสำหรับพื้นเปียก และ แคมป์เบลล์ (Campbell) นักขับชาวออสเตรเลีย ก็เปลี่ยนยางในเวลาไล่เลี่ยกัน รถเฟอร์รารี่ 2 คันที่นำอยู่ ใช้เวลานานสำหรับการเปลี่ยนยางสำหรับพื้นเปียก Wet Tyres ซึ่งส่งผลให้เสียเวลาไปกับการขับบนแทร็กที่ลื่น จึงทำให้พวกเขาตกลงไปอยู่อันดับที่ 6 และ 7 ตามหลัง แคมป์เบลล์ (Campbell) โดยที่ แคมป์เบลล์ (Campbell) มุ่งเน้นไปที่การไล่จี้รถหมายเลข 20 ของ BMW และหมายเลข 8 จากโตโยต้า (Toyota) ขณะที่ เอสเตร (Estre) กลับขึ้นมาอยู่อันดับสองอีกครั้ง ตามหลังหมายเลข 7 ของโตโยต้า (Toyata)
เมื่อเหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งชั่วโมง การหยุดเข้าพิทครั้งสุดท้ายจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง แม้ว่าพื้นบางส่วนของสนามแข่งจะยังเปียกอยู่ แต่ทีมไฮเปอร์คาร์เกือบทั้งหมดก็เปลี่ยนกลับไปใช้ยางสลิคสำหรับสภาพพื้นสนามแห้ง ส่งผลให้มีรถไถลออกนอกสนามบ่อยครั้ง ในช่วงเวลาที่สำคัญนี้ รถทั้ง 2 คัน ของปอร์เช่ (Porsche) กลับวิ่งได้อย่างราบรื่น แคมเบลล์ (Campbell) ชะลอการหยุดเติมเชื้อเพลิง และขับต่อไป ส่งผลให้เขาขยับขึ้นสู่อันดับที่ 3 และสามารถรักษาตำแหน่งนี้ไว้ได้จนจบการแข่งขัน เอสเตร (Estre) ยังคงอยู่อันดับ 2 ไล่ล่าตามหลังรถโตโยต้า (Toyata) ที่เป็นผู้นำอยู่ และนักแข่งชาวฝรั่งเศสก็สามารถแซงรถของ คามูอิ โคบายาชิ (Kamui Kobayashi) ไปได้ในช่วง 16 นาทีก่อนจบการแข่งขัน แต่เนื่องจากระหว่างการแข่งขันมีการแซงเกิดขึ้นในขณะที่มีรถ Safety Car ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในสนาม เขาจึงถูกลงโทษด้วยการเพิ่มเวลา 5 วินาที ทำให้การต่อสู้ครั้งสุดท้ายไม่ประสบความสำเร็จ แม้จะไม่ได้ชัยชนะ แต่พวกเขาก็ได้รับชัยชนะในการแข่งเปิดฤดูกาลที่กาตาร์ Estre, Vanthoor และ Lotterer ซึ่งได้ขึ้นเป็นนักแข่งผู้นำในอันดับที่ 2
โธมัส เลาเดนบาค (Thomas Laudenbach) รองประธานปอร์เช่ มอเตอร์สปอร์ต กล่าวว่า “แม้จะไม่ได้คว้าชัยชนะในสนามที่สองของฤดูกาล WEC ที่เมืองอิโมลา แต่ผลงานก็สูสีและเป็นการแข่งขันที่ยอดเยี่ยม เราพลาดไปเล็กน้อยในช่วงที่สนามแห้ง แต่เมื่อฝนตกลงมา กลยุทธ์ของเราก็ตอบสนองได้อย่างยอดเยี่ยม นักแข่งของเราทำงานได้อย่างไร้ที่ติ ในขณะที่นักแข่งหลายคนลื่นไถลออกนอกเส้นทาง สุดท้ายนี้ เราพอใจกับคะแนนที่ได้มาอย่างมากมายมหาศาล ขอขอบคุณทุกคนที่เกี่ยวข้องสำหรับการหยุดเข้าพิตที่รวดเร็วและกลยุทธ์อันยอดเยี่ยม และขอแสดงความยินดีกับทีมลูกค้าของเรา Manthey PureRxcing ด้วย หลังจากที่พวกเขาชนะในกาตาร์ พวกเขายังคว้าอันดับ 3 ในประเภท LMGT3"
เออร์ส คูราเทิล (Urs Kuratle) ผู้อำนวยการโรงงานมอเตอร์สปอร์ต LMDh (Director Factory Motorsport LMDh) กล่าวเสริมว่า “การขึ้นโพเดี้ยม 2 ครั้ง ท่ามกลางการแข่งขันที่ยากลำบากเช่นนี้ มันยอดเยี่ยมมากๆ แล้ว ขอแสดงความยินดีกับทั้งทีม ไม่ว่าจะเป็นที่นี่ ไวส์ซาค (Weissach) หรือแม้แต่ที่มันไฮม์ (Mannheim) ด้วย เมื่อวานนี้เราพอจะเห็นว่าสภาพอากาศที่เลวร้ายกำลังรอเราอยู่ แต่วันนี้เราได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเราแข็งแกร่งมากๆ ในสภาวะอันทรหดเช่นนี้ นอกจากผลงานที่ดีในซีรีส์ IMSA แล้ว เรายังยินดีกับผลงานอันยอดเยี่ยมของ Porsche Penske Motorsport อีกด้วย เส้นทางแห่งความสำเร็จของเราพิสูจน์ให้เห็นว่าเรากำลังทำงานร่วมกันได้อย่างยอดเยี่ยมและเข้ากันได้ดีขึ้นเรื่อยๆ”
Porsche 963 ของทีมลูกค้าทำผลงานดีที่สุด สามารถเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 11 ด้วยรถหมายเลข 38 ของทีม Hertz Team Jota ซึ่งขับโดย อดีตแชมป์โลก Formula 1 อย่าง เจนสัน บัตตัน (Jenson Button) จากสหราชอาณาจักร, ฟิล แฮนสัน (Phil Hanson) เพื่อนร่วมชาติของเขา และ เดน โอลิเวอร์ ราสมุสเซ่น (Dane Oliver Rasmussen) เข้ายึดตำแหน่ง P11 บนกริด ขณะที่รถร่วมทีมที่ขับโดยนักขับชาวฝรั่งเศส นอร์แมน นาโต้ (Norman Nato) และ บริทส์ คัลลัม อิลอตต์ (Brits Callum Ilott) และ วิล สตีเวนส์ (Will Stevens) นักขับชาวอังกฤษทั้ง 2 คน เข้าเส้นชัยในอันดับที่ 14 ส่วนรถหมายเลข 99 ของทีม Proton Racing ต้องยุติการแข่งขันล่วงหน้า ประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนหมดเวลาการแข่งขัน
LMGT3: ปอร์เช่ 911 จีที 3 อาร์ จาก มานทาย (Porsche 911 GT3 R from Manthey)