NISSAN TERRA 190 แรงม้า เทอร์โบคู่ ช่วงล่างดี ขับ 4 ได้ในราคา 1,427,000.-

  • November 02, 2018

       ละอองฝนที่เกาะบนกระจก  สายหมอกและลมหนาวพัดผ่านมาให้ได้สัมผัส ในวันที่ผมและเพื่อนสมาชิกสื่อมวลชนได้ไปลองขับ นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ รถอเนกประสงค์อัจฉริยะแบบตัวถังบนแชสซีส์รุ่นใหม่จากทางนิสสันคันนี้  กับระยะทางในการทดสอบ ผ่านความงดงาม ของธรรมชาติและป่าเขากว่า 200 กิโลเมตร ที่เริ่มต้นจากเมืองเชียงรายมุ่งสู่พระตำหนักดอยตุง

 

รูปลักษณ์บึกบึน พร้อมความสะดวกสบายในห้องโดยสาร

        แม้จะเปิดตัวมาหลังใครๆ ในตลาดรถแบบ PPV แต่ในเรื่องการออกแบบนิสสันก็ยังมีสไตล์และเอกลักษณ์แบบเฉพาะตัว ด้วยกระจังหน้าแบบ V-Motion พร้อมไฟหน้า LED ทรงบูมเมอแรง และไฟส่องสว่างเวลากลางวัน ไฟท้าย LED แบบ Light Guide ส่วนล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ก็ให้การขับขี่ที่ตื่นเต้นทั้งการขับขี่สภาพถนนแบบออนโรดและออฟโรด

 

        มาตรวัดในรถแสดงข้อมูลการขับขี่อัจฉริยะได้แบบ 3 มิติ แสดงผลข้อมูลการขับขี่ ครบครัน ส่วนหน้าจอแบบทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบนำทางที่สามารถเชื่อมต่อกับ USB / HDMI ควบคุมระบบเสียงและโทรศัพท์ได้โดยตรงจากพวงมาลัยคนขับ

        ที่เบาะนั่งคู่หน้าแบบ Zero Gravity สำหรับรุ่น 2.3VL 4WD 7AT จะเป็นเบาะสีน้ำตาล นั่งได้นุ่มสบาย ในตำแหน่งผู้ขับให้ทัศนวิสัยที่ชัดเจน ส่วนในเบาะนั่งแถวที่ 2 นั้นนอกจากจะเข้า-ออกได้อย่างง่ายดายแล้ว ยังมาพร้อมระบบพับเบาะอัตโนมัติ ที่สามารถสั่งการได้จากตำแหน่งผู้ขับ แค่เพียงการกดที่ปุ่มเดียว ระบบปรับอากาศกระจายความเย็นรอบทิศทางแบบ 360 องศา มอบความเย็นสบายให้ทุกที่นั่งทั่วทั้งห้องโดยสาร ที่สามารถควบคุมความเร็วของพัดลมจากที่นั่งตอนหลังได้

 

ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล ทวินเทอร์โบ 190 แรงม้าเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด

       ลองกดปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ นิสสัน เทอร์ร่า สีน้ำตาล เอิร์ธ บราวน์ บนเส้นทางขึ้น-ลงเขาสูงชันและคดเคี้ยวตลอดเวลา ตั้งแต่ช่วงขึ้นพระตำหนักดอยตุงไปดอยช้างมูบ ดอยผาฮี้ ตลอดจนถึงดอยผาหมี เหมาะมากในการที่จะทดลองกำลังของเครื่องยนต์ดีเซล รหัส YS23DDTT แบบทวินเทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ DOHC ขนาด 2,298 CC ที่มาพร้อมหัวฉีดเชื้อเพลิงระบบไดเรกต์อินเจกชั่น ให้พละกำลังสูงสุด 190 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ซึ่งนับว่าให้อัตราเร่งที่ดีและทำให้ขับเคลื่อนได้อย่างราบรื่นแม้บนเส้นทางขึ้น-ลงเขาสูงชัน ด้านระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 7 สปีด ก็มาพร้อมโหมดขับขี่แบบแมนนวลช่วยเพิ่มอรรถรสในการขับ

 

ระบบช่วงล่างหลังคอยล์สปริง 5-link สอบผ่านบนเส้นทางออนโรดและออฟโรด

      สิ่งที่เซอร์ไพรส์อีกเรื่องของรถคันนี้ คือ บนเส้นทางออนโรดระบบช่วงล่างหลังคอยล์สปริงแบบ 5-link ในนิสสัน เทอร์ร่า เก็บและช่วยลดอาการโคลงของตัวรถได้ดี ทำให้การคุมรถได้อย่างมั่นใจไม่เหนื่อยล้า ผู้โดยสารรู้สึกสะดวกสบาย แม้บนถนนที่คดเคี้ยว

       ส่วนในโหมดลุยแบบออฟโรดได้ทดลองขับทั้งในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ บนเส้นทางหลากหลายรูปแบบ ทั้งสถานีผ่านเนินเพื่อทดสอบมุมเอียง เนินสลับ เนินเขาสูง และระบบแสดงผลของมุมเอียงต่างๆ ในขณะขับขี่และทางลุยน้ำ ซึ่งระยะความสูงจากพื้นถนนถึงใต้ท้องรถ 225 มิลลิเมตร ลดความเสี่ยงในการเกิดความเสียหายอันเนื่องมาจากพื้นถนนที่ขรุขระมีหลุมบ่อไม่ราบเรียบได้ดี

 

       ในเรื่องเทคโนโลยี นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้ในรถ ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA) เทคโนโลยีควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) เทคโนโลยีป้องกันการลื่นไถล (B-LSD) มาตรแสดงข้อมูลของระบบขับเคลื่อน (Off-road Meter) รวมถึงมุมเอียงต่างๆ ในขณะขับขี่ทางออฟโรดและฟังก์ชั่น Shift-on-the-fly ก็ช่วยให้สามารถเปลี่ยนจากการขับขี่แบบสองล้อ เป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เพื่อเพิ่มความสามารถในการลุย ได้อย่างมั่นใจ

 

โดดเด่นด้วยกระจกมองหลังอัจฉริยะ (Intelligent Rear View Mirror – IRVM)

       ระหว่างเส้นทางได้มีการทดลองเทคโนโลยีอัจฉริยะในรถ อย่างกระจกมองหลังอัจฉริยะ (Intelligent Rear View Mirror – IRVM) ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารปลอดภัยยิ่งขึ้น แม้มีสัมภาระขนาดใหญ่ในท้ายรถ หรือขณะมีผู้โดยสารเต็ม 7 ที่นั่ง รวมไปถึงกล้องมองภาพรอบทิศทาง (IAVM) เทคโนโลยีตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุ และบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน (MOD) และเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทางอัจฉริยะ (ILDW) ซึ่งนับเป็นระบบทันสมัยที่จำเป็นสำหรับการใช้งานจริงบนท้องถนน และรถอเนกประสงค์อย่าง นิสสัน เทอร์ร่า คันนี้มีมาให้ครบจบในราคา1,427,000 สำหรับรุ่นท็อป 2.3 VL 4WD 7AT ครับ

 

AFTER DRIVE BY KAN YENSABAI

      ในทริปทดสอบแอ่วเหนือที่จังหวัดเชียงรายครั้งนี้ นับเป็นอีกกิจกรรมผจญภัยให้สื่อมวลชนได้ทดสอบความใหม่และน่าสนใจในรถอเนกประสงค์บนพื้นฐานของรถปิกอัพแบบ PPV รุ่นนี้

       ซึ่งแน่นอนครับ บอกกันให้รู้ นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ แม้จะออกตัวช้าเปิดตัวหลังกว่าใครในตลาดนี้ แต่ก็พัฒนาจากประสบการณ์ที่มีในรถยนต์อเนกประสงค์ หรือเอสยูวีกว่า 60 ปีของนิสสัน ที่เคยผลิตรถรุ่นที่มีชื่อเสียงมากมายต่างๆ อย่างเช่น นิสสัน พาโทรล

         ตามสเปกข้อมูล นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ รถอเนกประสงค์อัจฉริยะแบบตัวถังบนแชสซีส์ ที่มีความทนทาน แข็งแกร่ง เพื่อการขับขี่แบบสมบุกสมบัน เป็นจุดขายและถูกออกแบบและพัฒนาให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 7 คน และมีเทคโนโลยีทันสมัยที่ช่วยเสริมความปลอดภัยและสมรรถนะมากมายหลายรายการ

        ว่ากันในเรื่องการขับ ผมโอเค.ถูกใจครับ กับกำลังของเครื่องยนต์ ดีเซล 190 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ซึ่งเป็นเครื่องคนละบล็อกกับ นิสสัน นาวาร่า และเกียร์แบบ 7 สปีด จัดว่าเป็นรถอเนกประสงค์ที่ขับได้สนุกไม่เหนื่อย รถมีกำลังดี แรงทั้งในช่วงออกตัว เร่งแซง หรือการขับไต่ระดับความเร็วเพื่อการเดินทางก็ทำได้ดี แม้ไม่มีแพดเดิ้ลชิฟท์ ที่พวงมาลัยติดตั้งมาให้ เห็นร่างใหญ่แบบนี้ แต่ขับขึ้นเขาเรียกกำลังได้ดี ไม่มีปัญหาให้ผู้ขับต้องกังวลใจเรื่องกำลังของรถทั้งในรอบต่ำและรอบสูง

         ในเรื่องระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4x4 ก็มีฟังก์ชั่น Shift-on-the-fly และโหมดการขับขี่แบบความเร็วต่ำ (4LO) สำหรับการขับขี่บนพื้นทราย โคลน ลุยน้ำ ปีนขึ้นที่สูง หรือลงในเส้นทางลาดชัน ระบบช่วงล่างหลังคอยล์สปริงแบบ และเพลาล้อหลังที่แข็งแรง  

         ส่วนกระจกมองหลังอัจฉริยะที่แสดงภาพมาจากกล้องด้านหลังตัวรถก็เสริมความปลอดภัย แม้ในกรณีที่มีการบรรทุกสัมภาระ หรือมีผู้โดยสารนั่งด้านหลัง รวมถึงกระจกหน้าแบบลดเสียงรบกวนจากภายนอก ช่วยเพิ่มความเงียบในห้องโดยสารได้ดีตลอดการเดินทาง

            แม้จะติดใจอยู่ไม่กี่เรื่อง ทั้งเบรกหน้าเป็นดิสก์เบรก แต่เบรกหลังยังเป็นดรัมเบรก ประตูเปิดฝาท้ายไม่ใช่ไฟฟ้า และชุดเครื่องเสียงในรถจะยังดูไม่ทันสมัย แต่ นิสสัน เทอร์ร่า คันนี้ก็ยังน่าสนใจในแบบรถอเนกประสงค์บนพื้นฐานของรถปิกอัพแบบ PPV เมื่อเทียบกับราคาค่าตัว สำหรับใครๆ ที่ชอบรถแนว อึด ทนทาน มีค่าดูแล บำรุงรักษาต่ำครับ

นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่    มีให้เลือก 5 สี ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1,316,000 บาท สำหรับรุ่น 2.3 V 2WD 7AT รุ่น 1,349,000 บาท สำหรับรุ่น 2.3 VL 2WD 7AT และ THB 1,427,000 สำหรับรุ่น 2.3 VL 4WD 7AT