SUZUKI ALL NEW ERTIGA 2019 เจเนอเรชั่น 2 ลงตัวขึ้นในแบบ Mini MPV

  • February 25, 2019

       ใครที่มองหารถ 7 ที่นั่ง ในตลาดบ้านเรานั้นคงมีให้เลือกอยู่อย่างหลากหลายยี่ห้อ แต่ถ้าจะหาแบบที่ราคาดีมีคุณภาพก็คงหาได้ยาก แต่ Suzuki Ertiga (ซูซูกิ เออร์ติก้า) ก็น่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดี เพราะนับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกสุดในไทยเมื่อปี 2013 ตามมากับการไมเนอร์เชนจ์เมื่อปี 2016 กับตัวท็อปอย่าง Ertiga Dreza ที่มีจุดประสงค์หลักคือเน้นในเรื่อง “การใช้งาน” ที่รอบด้านครบครันและราคาเอื้อมถึงได้ง่ายกว่า และล่าสุดก็ได้เปิดตัวไปแล้วที่ “แดนอิเหนา” ประเทศอินโดนีเซีย กับรูปลักษณ์แบบใหม่หมดจด

 

       ด้วยขนาดที่จัดอยู่ในกลุ่ม “มินิเอ็มพีวี” ถือว่าเป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะด้วยขนาดครอบครัวที่ขยายขึ้นทำให้กลุ่มลูกค้ามองหารถ 7 ที่นั่งมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้ต้องการรถแบบรถตู้รถแวนใหญ่ๆ ที่ใช้ในเมืองลำบาก แต่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่ลูกค้าต้องการรถที่โดยสารได้เยอะๆ พร้อมกับขนาดตัวรถที่มีความคล่องตัวสูงในการขับขี่ ราคาเป็นมิตรเอื้อมถึงได้ง่ายและฟีเจอร์ครบครันทันยุค ซึ่ง Suzuki Ertiga ก็ดูเหมือนว่าเกิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในจุดนี้

 

ปรับรูปลักษณ์ใหม่ในแพลทฟอร์ม HEARTECT เหมือน Suzuki  Swift

        บนพื้นฐานเดียวที่ใช้ร่วมกับ Suzuki Swift จึงทำให้การมาใหม่ในครั้งนี้ของ Ertiga ได้รับการพัฒนาบนแพลทฟอร์ม HEARTECT เช่นเดียวกับใน Swift ที่เด่นในเรื่องของน้ำหนักตัวถังที่เบากว่า เพิ่มเติมคือความแข็งแรงที่มากกว่าขึ้นจากโฉมก่อน พร้อมกับรูปลักษณ์ที่มาในมาดใหม่รอบคัน ทั้งเรื่องดีไซน์และขนาดตัวรถที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย เพื่อตอบโจทย์ในเรื่องพื้นที่ใช้สอยภายในห้องโดยสารได้อีกทาง ซึ่งในโฉมนี้ Suzuki Swift ใช้กระจังหน้าแบบโครเมี่ยม ไฟหน้าโปรเจกเตอร์มีเหลี่ยมคมมากขึ้นทำให้ดูทันสมัย เส้นสายโฉบเฉี่ยวโดดเด่นด้านข้างตัวรถให้ความรู้สึกหรู  สะดุดตาด้วยไฟท้ายเป็นเส้น LED และล้ออลูมิเนียมอัลลอยขนาด 15 นิ้ว  เพื่อการประหยัดน้ำมัน

 

ห้องโดยสารกว้างขึ้น 3 แถว 7 ที่นั่ง นั่งได้ไม่อึดอัด

         ประตูหลังที่เปิดได้กว้างขวางขึ้นลงสะดวกกับห้องโดยสารขนาด 3 แถว 7 ที่นั่ง ที่กว้างขวางและโปร่งสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้ดี เบาะนั่ง 3 แถวนั่งโดยสารได้จริง สำหรับรูปร่างแบบมาตรฐานชายไทยสูง 174 ซม. นั่งแล้วไม่อึดอัด และสามารถเลือกปรับการใช้งานได้หลายรูปแบบ เบาะแถวสองปรับพับได้ 60/40 และเบาะแถวสามปรับได้ 50/50 และพับราบเรียบลงไปได้

 

        พวงมาลัย D-shape แบบฐานตัดเพิ่มพื้นที่วางขามากขึ้น ดูดีด้วยมาตรวัดเรืองแสง Optitron มีช่องเชื่อมต่อ USB ช่องจ่ายไฟสำรอง 12V ถึง 2 ตำแหน่ง สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยระบบ Keyless Entry และ Keyless Push Start เย็นสบายตลอดการเดินทางด้วยระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถวหลัง พร้อมช่องวางเครื่องดื่มที่สามารถรักษาอุณหภูมิความเย็นของเครื่องดื่มได้นานยิ่งขึ้น การออกแบบภายในให้โทนดูเรียบหรู สะดุดตาด้วยลายไม้ ส่วนปุ่มควบคุมแอร์ ระบบความบันเทิงจากหน้าจอสัมผัสขนาด 6.8 นิ้ว

 

เครื่องยนต์ใหม่ K15B 105 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

       บนเส้นทางที่จังหวัดเชียงราย โดยใช้เส้นทางท่องเที่ยวที่มีทั้งวิ่งในเมืองนอกเมือง พร้อมทดลองพละกำลังในช่วงเส้นทางภูเขาแบบใช้งานจริง ด้วยขนาดตัวรถที่มีความสูงทำให้มุมมองในการขับขี่ดูโปร่งสบาย ทัศนวิสัยในการนั่งของผู้ขับขี่ค่อนข้างดี พวงมาลัยก็มีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ดี คุมง่าย ส่วนเครื่องยนต์ใหม่ รหัส K15B เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 1,462 CC ให้กำลังสูงสุดที่ 105/6,000 (แรงม้า/รอบต่อนาที) แรงบิดสูงสุด 138 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ นั่งทดสอบโดยสาร3 คน แต่ Suzuki Ertiga ก็สามารถพาตัวรถผ่านเส้นทางขึ้นลงเขาได้อย่างสบาย การเรียกความเร็วตามรอบ รวมถึงการเร่งแซงถือว่าทำได้ดีเรียกว่าลอยตัวใช้ได้ ด้านอัตราการกินน้ำมันนอกเมืองทีมงานทำได้อยู่ที่ 14 ลิตร ซึ่งถือว่าประหยัดใช้ได้ ในส่วนการเก็บเสียงภายในรถทำได้ดีขึ้นครับ ในความเร็วไม่เกิน 110 กิโลเมตร เรียกว่าเก็บเสียงได้เงียบ ถ้าเทียบกับรถในเซ็กเมนต์เดียวกัน

 

      ปิดท้ายในเรื่องส่วนระบบความปลอดภัย ในรถมีทั้งจุดยึดเบาะนั่งนิรภัย ISOFIX และ Top Tether  ระบบถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า ระบบเบรก ABS ช่วยป้องกันไม่ให้ล้อล็อกขณะเบรกกะทันหัน พร้อมระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรก ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน และระบบ ESP ที่ช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวให้เข้าโค้ง All New Suzuki Ertiga คันนี้ได้อย่างแม่นยำขึ้น

 

AFTER DRIVE BY KAN YENSABAI

       ทุกวันนี้เทรนด์การเลือกซื้อรถยนต์ของคนไทยในปัจจุบันเปลี่ยนไปครับ จากที่เคยจากที่นิยมเลือกซื้อรถยนต์ซีดาน กับกลายมานิยมรถอเนกประสงค์กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรถ SUV PPV หรือ Mini MPV ทำให้ค่ายรถยนต์หลายค่ายสนใจที่จะกระโดดเข้ามาเล่นในตลาดรถยนต์ประเภทนี้อยู่หลายราย และผมเชื่อว่ารถยนต์ที่กำลังจะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งน่าจะหนีไม่พ้นเจ้ารถยนต์ประเภท Mini MPV นี่ละครับ

     “ลงตัวขึ้นในแบบ Mini MPV” ดูจะเป็นนิยามใหม่ที่ดีที่สุดสำหรับ All New Suzuki Ertiga 2018 คันนี้ครับ เพราะดูรวมๆ ตัวรถให้ความรู้สึกภูมิฐานน่าขับขี่มากกว่าเดิม หาได้เป็นแค่รถ Mini MPV เบอร์รอง แต่รูปทรงภายนอกไม่น่าขับเสียเมื่อไร ด้วยการปรับปรุงใหม่ทั่งหมดตั้งแต่แพลทฟอร์มใหม่ HEARTECT ที่พร้อมเครื่องยนต์ใหม่ ที่ขับขี่ได้สนุกขึ้น และที่สำคัญต้องไม่ลืมว่าในเรื่องอรรถประโยชน์ในการใช้สอยกับรูปแบบของรถ 7 เบาะที่สามารถปรับได้หลายรูปแบบตามการใช้งาน แน่นอนว่าจะช่วยให้รถคันนี้เป็นที่ถูกใจของหลายๆ คนได้มากยิ่งขึ้นกว่ารุ่นก่อน ที่แค่เรื่องดีไซน์ของภายในก็น่าเบื่อเกินไปที่จะทำให้อยากขับแล้ว

      ในเรื่องพละกำลังของรถกับขนาดเครื่องยนต์ 1.4L ในโฉมเดิมของ Suzuki Ertiga ในบ้านเรา แต่ในสเปกใหม่เวอร์ชั่น Suzuki Ertiga 2018 ถูกปรับมาอยู่เป็นขนาด 1.5L ก็ดูจะสมตัว เหมาะสมดีเพราะกับขนาดตัวรถที่ใหญ่ขึ้น จะให้ใช้แค่เครื่องยนต์เดิมเล็กๆ ยิ่งโดยสารเยอะเต็มทุกที่นั่ง จะไปพออะไรกับเรื่องเรี่ยวแรงตอนที่สัมผัสกับคันเร่ง โดยรวมแม้อุปกรณ์บางอย่างในรถอาจดูยังไม่ตอบโจทย์ความทันสมัย แต่ถ้าใครมองหารถครอบครัวขนาดเล็กที่ราคาดี Suzuki Ertiga น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ในราคาเริ่มต้น 655,000 และรุ่นท็อป 695,000 บาท