MINI John Cooper Works Track Days and Nights 2019 เกาะจิกโค้ง ลองขับเต็มเหนี่ยว!! ในสนามแข่งแบบจุใจในยามค่ำคืน

  • August 05, 2019

      เรียกได้ว่าเป็นการสร้างความเร้าใจให้อะดรีนาลีนสูบฉีดกันอีกครั้ง ของ มินิ ประเทศไทย กับกิจกรรม MINI John Cooper Works Track Days and Nights 2019 ที่รวบรวมเอาขุมพลังของรถยนต์ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ครบทั้งตระกูล มาโลดแล่นบนสนามแข่งในยามค่ำคืน ให้ทั้งลูกค้าและสื่อมวลชนได้สัมผัสขีดสุดแห่งความแรงเทียบชั้นรถแข่งที่เร้าใจขึ้นไปอีกขั้น ไม่ว่าจะเป็น มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คอนเวิร์ตทิเบิล, มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ แฮทช์, มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คันทรีแมน และมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คลับแมน ที่ได้มาปลดปล่อยสมรรถนะทรงพลังกันอย่างพร้อมหน้า ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์

 

       สำหรับงานนี้ MINI John Cooper Works Track Days and Nights 2019 ก็ยังเป็นกิจกรรม ที่จัดขึ้น ในช่วงวาระที่ทาง มินิ ประเทศไทย เฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี แห่งตำนานของยนตกรรมสไตล์บริติชสุดคลาสสิกผ่านกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ให้สื่อมวลชนได้ปลดปล่อยความสนุกสนานด้วยความเร็วสุดเร้าใจในยามค่ำคืน พร้อมทั้งทดสอบสมรรถนะเครื่องยนต์และช่วงล่างกันอย่างเต็มที่ในด่านทดสอบต่างๆ เช่น การเลี้ยวรถแบบ J-Turn การประชันความเร็วในด่าน Time Attack รวมถึงการขับขี่ Full Lap ให้ได้ทดสอบสมรรถนะเต็มรอบสนามแข่งกันอย่างจุใจ

 

เร้าใจในการขับแบบเปิดประทุน มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คอนเวิร์ตทิเบิล

       แน่นอนว่าเมื่อได้ลองขับ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คอนเวิร์ตทิเบิล ก็คือการเปิดหลังคาผ้าแบบอัตโนมัติ ที่สามารถเปิด-ปิดได้อย่างไร้เสียงด้วยระบบไฟฟ้า และยังได้รับการปรับปรุงให้สามารถลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้มากขึ้นอีกด้วย โดยการเปิด-ปิดหลังคาสามารถทำงานด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว และใช้เวลาในการเปิด-ปิดเพียงแค่ 18 วินาที ขณะขับขี่ที่ความเร็วสูงสุด 30 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทั้งยังมาพร้อมฟังก์ชั่นสำหรับเลื่อนเปิดหลังคาเฉพาะส่วนหน้าได้มากสุดถึง 40 เซนติเมตร โดยไม่จำกัดความเร็วขณะขับขี่

       จุดเด่นของความคล่องตัวและความแม่นยำในการเข้าโค้ง คือ การติดตั้งระบบช่วงล่างที่สามารถปรับสภาพตามรูปแบบการขับขี่ (Adaptive Suspension) และชุดเบรกแบบสปอร์ตมาเป็นอุปกรณ์พื้นฐาน รวมทั้งโครงสร้างตัวถังที่เสริมความแข็งแกร่งเป็นพิเศษเฉพาะสำหรับรุ่นคอนเวิร์ตทิเบิล พร้อมชุดแต่ง Aerodynamics จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ เต็มรูปแบบ และล้ออัลลอยลาย John Cooper Works Cup Spoke 2-tone ขนาด 18 นิ้ว ที่เสริมลุคสปอร์ตอันทรงพลังให้แก่มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คอนเวิร์ตทิเบิล ในเจเนอเรชั่นใหม่นี้

      ด้วยเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดของมินิอย่างเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo ที่ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะแบบสปอร์ต มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คอนเวิร์ตทิเบิล สามารถขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบขนาด 2.0 ลิตร ให้พละกำลังที่ 170 กิโลวัตต์ / 231 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน-เมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 6.5 วินาที ที่ความเร็วสูงสุด 240 กิโลเมตร/ชั่วโมง เสริมสมรรถนะการขับเคลื่อนด้วยระบบท่อไอเสียแบบสปอร์ต ที่มอบพลังเสียงเร้าใจยิ่งขึ้นเมื่อขับขี่แบบเปิดประทุน

      นอกจากนี้ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คอนเวิร์ตทิเบิล ยังมาในพร้อมเส้นไฟ LED ลายธงยูเนียนแจ็คแห่งสหราชอาณาจักร โดยไฟเบรกจะใช้เส้นแนวตั้ง ส่วนไฟเลี้ยวจะเป็นเส้นแนวนอนกึ่งกลาง และไฟท้ายจะเปิดเป็นเส้นแนวทแยง ส่วนไฟหน้าล่าสุดมาพร้อมกับเทคโนโลยี Adaptive LED ที่ทำงานร่วมกับ Matrix Light ยกระดับทัศนวิสัยในการขับขี่ด้วยการใช้ระบบกล้องหน้ารถตรวจจับหารถยนต์คันอื่นที่ขับสวนมา เพื่อหลีกเลี่ยงการยิงไฟสูงใส่ผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ในขณะที่ยังคงส่องสว่างส่วนอื่นๆ ของท้องถนน เพิ่มความปลอดภัยสำหรับทั้งผู้ขับขี่และเพื่อนร่วมทาง และอีกหนึ่งตัวช่วยที่อำนวยความสะดวกและทำให้การจอดรถของคุณง่ายขึ้นด้วยกล้องมองหลังผ่านจอแสดงผลด้านหน้า

        ส่วนพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหนังแท้ แป้นเบรก คันเร่ง และที่พักเท้าสแตนเลสสตีล มือจับประตูและที่หุ้มเกียร์ รวมทั้งเพดานห้องโดยสารสีดำ Anthracite ในสไตล์จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ยังคงมอบความรู้สึกสปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร และยังให้ความสนุกสนานในทุกการขับขี่ด้วยพลังเสียงจากลำโพง Harman Kardon HiFi ถึง 12 ตัว พร้อมจอระบบสัมผัสขนาด 8.8 นิ้ว และเทคโนโลยีเชื่อมต่อ MINI Connected เพื่อการเชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัดกับสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ ยังนำเทคโนโลยีอย่างแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charging) มาติดตั้งไว้ยังบริเวณช่องในที่วางแขนกึ่งกลางตัวรถ โดยสามารถวางโทรศัพท์รุ่นที่รองรับระบบการชาร์จไร้สายบนแท่นเพื่อชาร์จได้เลย นอกจากนี้ ยังมีพอร์ต USB เพิ่มเติมอีก 2 ช่องที่คอนโซลหน้ารถอีกด้วย

 

สัมผัสความสปอร์ตใน มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ แฮทช์ 3 ประตู รุ่นปรับโฉมใหม่

      ด้วยความสปอร์ตของ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ แฮทช์ ที่โดดเด่นด้วยล้ออัลลอย John Cooper Works Cup Spoke two-tone ขนาด 18 นิ้ว ตัดกับจานเบรกสีแดง เสริมลุคด้วยท่อไอเสียจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ แบบคู่ที่อยู่กึ่งกลางของท้ายรถ พร้อมให้ความรู้สึกเร้าใจด้วยเบาะหนังหรือผ้า Dinamica สีดำตัดกับแดง มอบความรู้สึกทรงพลังด้วยความคลาสสิกสไตล์มินิอย่างแท้จริง

        ส่วนในเรื่องสมรรถนะ ก็เร้าใจในสไตล์รถแข่งโกคาร์ทแบบฉบับของมินิ กับมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ แฮทช์ ที่สืบทอดประสิทธิภาพจากสนามแข่งของจอห์น คูเปอร์มาได้อย่างสมบูรณ์แบบครับ  โลดแล่นด้วยเครื่องยนต์ทรงพลัง ระบบช่วงล่าง ชุดแต่ง จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ แฮทช์ 3 ประตู ยังคงขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเบนซินขนาด 2.0 ลิตร ส่งพละกำลังสูงสุดที่ 170 กิโลวัตต์ / 231 แรงม้า จากเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะแบบสปอร์ต ส่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร ภายใน 6.1 วินาที

 

คล่องตัวในแบบมินิ ไซซ์ใหญ่ที่สุดและอเนกประสงค์ที่สุด มินิ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คันทรีแมน และมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คลับแมน

      อีกหนึ่งรุ่นที่ให้ความคลาสสิกของ ‘go-kart-feeling’ ตามแบบฉบับมินิ ในฐานะสมาชิกในตระกูลจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ที่ใหญ่ที่สุดมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คันทรีแมน ที่พร้อมโชว์ความปราดเปรียวบนทุกสภาพเส้นทาง และ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คลับแมน ที่ผสานการใช้งานอเนกประสงค์ในชีวิตประจำวันเข้ากับความสะดวกสบายเหนือระดับในสมรรถนะแบบสปอร์ต โดยทั้งสองรุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจากเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo ในเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ให้พละกำลังเช่นเดียวกับมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ แฮทช์ และมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คอนเวิร์ตทิเบิล ที่ 170 กิโลวัตต์ / 231 แรงม้า แต่เพิ่มแรงบิดสูงสุดที่ 350 นิวตัน-เมตร เพื่อมิติแห่งการขับขี่บนท้องถนนที่ตอบรับทุกความต้องการมากยิ่งขึ้น

       มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คันทรีแมน ยังนับเป็นมินิรุ่นที่มีความจุสัมภาระสูงสุด เทียบเท่ากับมินิ คันทรีแมน รุ่นปกติ โดยมีความจุได้สูงสุดถึง 1,390 ลิตร พร้อมลุยทุกการผจญภัยด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ALL4 ที่มอบความแม่นยำและการตอบสนองที่ฉับไวในทุกสภาวะการขับขี่และทุกสภาพอากาศ ไม่ว่าจะเป็น การลัดเลาะตามทางคดเคี้ยวท่ามกลางสายฝน หรือการผจญภัยในป่า โดยสามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรได้ภายใน 6.5 วินาทีบนท้องถนน

       ส่วน มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คลับแมน พกพาทั้งความสนุกสนานและความอเนกประสงค์ มาพร้อม ช่องเก็บสัมภาระขนาด 1,250 ลิตร ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ALL4 และส่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรภายใน 6.3 วินาที นอกจากนี้ ห้องโดยสารยังปลอดโปร่งด้วยหลังคากระจกแบบ Panorama และเติมเต็มลุคสปอร์ตสุดขั้วด้วยชุดแต่งภายในสไตล์จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ โดยทั้งมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คันทรีแมน และมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คลับแมน ใช้ล้ออัลลอย John Cooper Works Course Spoke 2-tone ขนาด 19 นิ้ว และจอระบบสัมผัสขนาด 8.8 นิ้ว รวมทั้งเทคโนโลยีล้ำสมัยให้ผู้ขับขี่ได้เชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัดด้วยบริการจาก MINI Connected

AETER DRIVE BY KAN YENSABAI

เกาะจิกโค้ง ลองขับเต็มเหนี่ยว!! ในสนามแข่งแบบจุใจในยามค่ำคืน

      ทริปนี้เรียกได้ว่าเป็นการประสบการณ์ใหม่ ที่ตื่นเต้นเร้าใจ และก็ถือเป็นครั้งแรก กับการทดลองขับรถ MINI บนสนามแข่งมาตรฐานระดับโลก ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ที่สื่อมวลชนรวมทริปทุกคน รวมทั้งผมเองได้ขับรถมินิทุกรุ่น ที่มีการเติม DNA ความกระชุ่มกระชวยด้วยชุดแต่งและขุมพลังในเวอร์ชั่นอัพเกรดอย่าง JCW มาหวดกันแบบจัดหนัก จัดเต็ม บนสนามแข่งในยามค่ำคืน อย่างทั่วถึงและปลอดภัยในหลากหลายรูปแบบการขับทดสอบ

      ไม่ว่าจะเป็นการประชันความเร็วในด่าน Time Attackภายในเวลาที่กำหนดในด่านแรก หรือ ในการขับขี่ Full Lap ให้ได้ทดสอบสมรรถนะเต็มรอบสนามระยะทางต่อรอบ 4.5 กิโลเมตร ที่เปิดโอกาสให้ขับกันอย่างจุใจตามทิศทางการวิ่งแบบตามเข็มนาฬิกา กับจำนวนโค้งทั้ง 12 โค้ง ในสนามที่ได้รับการรับรองจาก FIA ให้ใช้เป็นสนามจัดการแข่งขันรถยนต์ ฟอร์มูล่า 1 หรือรถสูตร 1 ได้

     ส่วนตัวสำหรับผมไฮไลท์ของแทร็คมีอยู่ หลายจุดครับ ทั้งทางตรงยาวระยะทาง 1 กิโลเมตร ที่สามารถทำความเร็วได้ในรถระดับ200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ถัดมาคือโค้ง 4 ที่เป็นโค้งซ้ายความเร็วสูง ที่นักขับสามารถเข้าโค้ง ด้วยความเร็วแต่ก็จะต้องต่อสู้กับแรงเหวี่ยงอันมหาศาลในโค้งนี้ ตามด้วยโค้ง 7 เป็นโค้งหักขวา 70 องศา ที่ถือเป็นอีกหนึ่งโค้งความเร็วสูงของสนาม ที่ในช่วงออกจากโค้ง 7 นี้ รวมไปถึงโค้ง 9 และ 10 ที่มีความต่อเนื่องกัน ซึ่งในเรื่องความปลอดภัยในการทดลองก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะด้วยความชำนาญที่อาจไม่เทียบเท่านักแข่งตัวจริง แน่นอนในสนามจึงต้องมีการวางไพลอนเพื่อบอกจุด ลดความเร็ว ไพล่อนแจ้งจุดน้ำหนักเบรกเบาหรือเบรกหนัก

     ที่สำคัญในการลองขับในครั้งนี้ นอกจากที่ผมได้ลองหวดเจ้ามินิใหม่ทั้งรุ่นคอนเวิร์ตทิเบิล, คลับแมน, แฮทช์แบ็ค และคันทรีแมน ครบหมด โดยไม่ปิดระบบ DSC หรือระบบควบคุมเสถียรภาพแบบไดนามิก ที่จะช่วยการทำงานของเบรกให้ขับรถเข้าโค้งได้ปลอดภัยขึ้น และได้ใช้ความกว้างของแทร็คสนามได้อย่างเต็มที่ในแบบ Racing Line แล้ว ยังได้ความรู้ใหม่ ในการใช้ทักษะการเลี้ยวรถแบบ J-Turn อธิบายสั้นๆ คือการถอยมาด้วยความเร็ว ซึ่งจะล็อกไว้ที่ 40 กิโลเมตร/ชั่วโมง จากนั้นก็หักพวงมาลัยให้รถหมุนกลับมาในทิศทางเดียวกันแบบ 180 องศา โดยถอยรถมาแล้วหักกลับขับต่อทันที ที่กว่าจะทำได้ก็เหวี่ยงรถกันไปคนละหลายรอบอยู่ ก็ถือว่าเป็นเทคนิคในการขับขี่ที่อาจจะเป็นทักษะที่สามารถช่วยให้ผู้ที่เข้าใจและสามารถทำได้ เอาไปใช้ได้จริงยามเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินบนท้องถนน ไม่ว่าคุณจะขับรถแบรนด์ไหนก็ตามครับ…

 

 

ราคา

มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คอนเวิร์ตทิเบิล  ราคา 3,468,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ MSI Standard)

มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ แฮทช์ 3 ประตู รุ่นปรับโฉมใหม่ ราคา 3,418,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)

มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คันทรีแมน และมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คลับแมน  ราคา 3,548,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ MSI Standard)