ขับยักษ์เขียว..เที่ยวละลุดินแดนมหัศจรรย์ TR Tansformer II

  • April 06, 2017

ขับยักษ์เขียว..เที่ยวละลุดินแดนมหัศจรรย์ TR Tansformer II 

STORY: กัญญนัท กินนารี / PHOTO: ศุภินทรา รุกขสุวรรณ

 

       เรามีโอกาสได้ขับเจ้ายักษ์เขียว TR Tansformer II มาเที่ยวจังหวัดสระแก้ว ซึ่งทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ยกให้จังหวัดสระแก้วเป็นเมืองต้องห้ามพลาด Plus ความสวยงามของสถานที่ท่องที่เที่ยวตามธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ บวกกับสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ไม่น่าพลาดปักหมุดมาเที่ยวกันค่ะ

       การเดินทางวันนี้เราได้ขับเจ้า TR Tansformer II ไปบนเส้นทางมอเตอร์เวย์ แยกออกจังหวัดฉะเชิงเทรา ต่อด้วยหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 จากนั้นใช้เส้นทางไปอำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ผ่านศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน จะพบทางแยกเขาหินซ้อนแยกขวาไปจังหวัดสระแก้วไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 359 อีกประมาณ 65 กิโลเมตร ก็ถึงตัวจังหวัดสระแก้ว ตลอดเส้นทางดูรูปลักษณ์ที่สะดุดตาของเจ้า TR Tansformer II ที่ไม่ค่อยได้เห็นออกมาวิ่งบนท้องถนนมากนัก ทำให้เป็นที่สนใจของคนที่สัญจรไป-มา ด้วยหลังคาสูง ภายในกว้าง โปร่ง โล่ง นั่งสบาย และสามารถนั่งได้ถึง 11 ที่นั่ง ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น พวงมาลัยปรับระดับ 4 ทิศทาง จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ เกียร์ธรรมดาอัจฉริยะ iMT 6 สปีด ราบรื่นทุกจังหวะความเร็วและเครื่องเสียงพร้อมเนวิเกเตอร์หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ทำให้เราเพลิดเพลินทั้งคนขับและคนนั่ง

ท่องละลุ ดินแดนมหัศจรรย์

         สถานที่แรกที่เราไปแวะเที่ยวคือ ละลุ ฟังชื่ออาจจะไม่คุ้นหูเท่าไรนัก การเดินทางจากอำเภออรัญประเทศไปตามทางหลวงหมายเลข 348 สายอรัญประเทศ-ตาพระยา เลี้ยวซ้ายที่บ้านกุดเตย หลักกิโลเมตรที่ 35-36 ไปตามทางหลวงหมายเลย 3486 สายบ้านโคคลาน-บ้านคลองยาง เป็นระยะทาง 18 กิโลเมตร จากบ้านคลองยางเป็นถนนลูกรังเข้าไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร จะถึงจุดบริการนักท่องเที่ยว โดยชาวบ้านได้รวมกลุ่มกับเพื่อบริการรถอีแต๋นพานักท่องเที่ยวเข้าไปชมด้านใน เพราะที่นี่ไม่อนุญาตให้ขับรถเข้าไปเองเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเอง แต่ทางทีมงานเราได้ขออนุญาตขับรถเข้าไปโดยมีไกด์ท้องถิ่นเป็นคนนำทางพาเราเข้าไป

        ละลุ เกิดจากน้ำฝนกัดเซาะและเกิดการยุบตัวหรือพังทลายของดิน ส่วนดินที่แข็งจะคงอยู่ระดับเดิมในขณะที่ดินอ่อนก็จะพังทลายและถูกยุบลง ประกอบกับเมื่อถูกลมกัดกร่อนจึงเกิดมีลักษณะเป็นรูปต่างๆ คล้ายกับแหล่งธรรมชาติที่ “แพะเมืองผี” จังหวัดแพร่ แต่มีขนาดเล็กกว่า บริเวณละลุจะมีรูปร่างแปลกแตกต่างกันไป แล้วแต่มุมมองและจินตนาการของผู้ดู บ้างมีลักษณะคล้ายกำแพงเมือง คล้ายหน้าผา

       ว่ากันว่าในทุกๆ ปี ละลุจะเปลี่ยนรูปร่างไปเรื่อยๆ ตามแต่ลมและฝนที่ช่วยกันตกแต่งชั้นดิน ขนาดพื้นที่ของละลุกว่า 2,000 ไร่ ทำให้ครอบคลุมถึง 6 หมู่บ้าน ช่วงเวลาที่เหมาะกับการเข้าชมคือช่วงเช้าหรือเย็นเพราะไม่ร้อนเกินไป แต่เวลาตอนที่เราไปช่วงบ่ายโมง แดดกำลังแรงเลยค่ะ แต่เราก็ไม่ย่อท้อเพราะอยากได้ภาพที่สวยๆ มาฝากผู้อ่านค่ะ

The Lost World สด๊กก๊อกธม

       อีกสถานท่องเที่ยวหนึ่งที่ห้ามพลาดเช่นกันคือ ปราสาทสด๊กก๊อกธม โบราณสถานที่ใหญ่และสำคัญของจังหวัดสระแก้วแล้วยังเป็นโบราณสถานขอมที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่บ้านหนองเสม็ด ตำบลโคกสูง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 14 เพื่อใช้ประดิษฐานรูปเคารพ และใช้ประกอบพิธีกรรมตามคติความเชื่อในลัทธิศาสนาฮินดู

       โบราณสถานแห่งนี้ประกอบด้วยองค์ปราสาท 3 หลัง หันหน้าไปทางทิศตะวันออกมีคูน้ำล้อมรอบ 4 ด้าน มีกำแพงแก้ว 2 ชั้นนอกทำด้วยศิลาแลงชั้นในทำด้วยหินทราย ตัวปราสาทก่อด้วยหินทรายหันหน้าไปทางทิศตะวันออก เช่นเดียวกับปราสาทขอมอื่นๆ ด้วยความเชื่อของขอมที่ว่า ทิศตะวันออกเป็นทิศแห่งพลังแสงสว่างและเป็นสิริมงคล เราสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่และทึ่งในความสามารถของคนในสมัยโบราณที่สร้างปราสาทที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ได้ แดดร่มลมตกไปเช่าจักรยานปั่นชมตัวปราสาท และเดินถ่ายรูปดื่มด่ำกับความยิ่งใหญ่และงดงาม

จบทริปวันนี้ต้องขอบคุณเจ้า TR Tansformer II ที่พาเราไปทุกๆ เส้นทาง ไม่ว่าเส้นทางนั้นจะไกลหรือลำบากขนาดไหน ฉบับหน้าเราจะพาไปเที่ยวไหนติดตามกันนะค่ะ

Did U Know?

       สระแก้ว เป็นชื่อที่มาจากชื่อสระน้ำโบราณซึ่งอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองสระแก้ว มีอยู่จำนวน 2 สระ ในสมัยกรุงธนบุรี ราวปี พ.ศ. 2323 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (เมื่อครั้งทรงเป็นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก) เป็นแม่ทัพยกทัพไปตีกัมพูชา (เขมร) ได้แวะพักกองทัพที่บริเวณสระน้ำทั้ง 2 แห่งนี้ กองทัพได้อาศัยน้ำจากสระใช้สอยและได้ขนานนามสระทั้งสองว่า "สระแก้ว-สระขวัญ" และได้นำน้ำจากสระทั้ง 2 แห่งนี้ใช้ในการประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา โดยถือว่าเป็นน้ำบริสุทธิ์