ลองขับ MG Extender แกร่ง ใหญ่ ใช้งานดี ตัวท็อป 4x4 ค่าตัว 1.029 ล้านบาท

  • November 04, 2019

     ลองปรับเบาะนั่งให้สูงจนสามารถมองเห็นข้างหน้าชัดเจน เพื่อคุมอาการของรถรุ่นท็อป Grand X ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ ปีนไต่ ทางชันและทางขึ้นเนินแบบ Walking Speed โดยใช้ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HAS) ในแบบที่รถเคลื่อนที่โดยไม่แตะคันเร่ง MG EXTENDER Double Cab ก็จับอาการออกตัวได้ดีในเส้นทางแบบออฟโรดสั้นๆ

 

       ก่อนหน้านี้ไม่นานเคยได้มีโอกาสไปร่วมงานเปิดตัวพร้อมทริปทดสอบสั้นๆ  ที่สนาม 8 Speed เขาใหญ่ ทั้งในแบบออนโรดและ ออฟโรด โดยรุ่นที่ทาง MG จัดให้สื่อมวลชนได้ขับนั้นเป็นรุ่นยกสูง Grand D ,Grand X เกียร์อัตโนมัติและรุ่นท็อป Grand X ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ เพื่อทำความรู้จัก กระบะพันธุ์ยักษ์ ให้มากกว่าความแกร่ง คันนี้ในแบบเรียกน้ำย่อย ส่วน ในทริปนี้ 2 วัน เริ่มจากกรุงเทพฯ ไปสู่บุรีรัมย์ และเดินทางสู่เป้าหมายปลายทางที่จังหวัดขอนแก่น คือการทำความรู้จักรถปิกอัพ โมเดลแรกของ MG คันนี้ ให้มากยิ่งขึ้น

      ถ้าจะให้พูดถึงการเดินเกมส์ทางการตลาดของทาง MG นั้น เคยลงเล่นตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ซึ่งเป็นตลาดที่ไม่เคยทำมาก่อนประเดิมด้วยรถตู้ MG V80 11 ที่นั่ง ในราคาไม่เกินล้านบาท และถ้าจะพูดถึงแนวคิดที่จะพัฒนารถกระบะ เพื่อรองรับความต้องการของตลาด หลายคนงอาจจะเคยได้ยินชื่อ Maxus กันมาบ้าง ด้วยแนวคิดและการสร้างแบรนด์ ที่แตกต่างและน่าสนใจกว่าที่เราเคยรับรู้มา และการส่ง MG EXTENDER คันนี้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีที่ทาง MG เองมั่นอกมั่นใจในการขอร่วมชิงเค้กตลาดรถกระบะตันครึ่งในประเทศไทย

 

รูปลักษณ์ปรับและพัฒนามาจาก Maxus T60

      กระจังหน้าแบบโมเดิร์นดีไซน์รังผึ้งขอบโครเมี่ยมเอกลักษณ์ของ MG พร้อมไฟหน้า Projector LED กับไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime และพิเศษด้วยระบบปรับเลี้ยวตามองศาพวงมาลัยอัตโนมัติ AFS  ในแบบรถยุโรปพรีเมี่ยม พร้อมการวางตลาดด้วยรุ่นย่อยทั้งหมด 9 รุ่นย่อยทุกระบบส่งกำลัง ประกอบในประเทศ โดยพัฒนามาจาก Maxus T60 ที่ทำตลาดมาแล้วทั้งในจีน ออสเตรเลีย

      ในรุ่น Grand X ขับเคลื่อน 4 ล้อ มีออพชั่นพิเศษกับกล้องมองภาพรอบทิศทาง สัญญาณเตือนกะระยะด้านหน้าและด้านหลัง และกล้องมองหลังช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ ไฟท้ายดีไซน์ทันสมัยสีขาวแดง ติดตั้งโลโก้ขนาดใหญ่สไตล์ยุโรป ราวหลังคาและบันไดข้างดีไซน์ขึ้นรูป

 

        ภายนอกดูแข็งแรงคมเข้ม ภายใต้แนวคิด Brit Dynamic ด้วยมิติตัวถังขนาดใหญ่ รับกับกันชนหน้ากับไฟตัดหมอกหน้า ด้านข้างแข็งแกร่งด้วยคิ้วขอบล้อทรงบึกบึนขึ้นรูป พร้อมล้ออัลลอยให้เลือกตั้งแต่ ขนาด 16 และใหญ่สุด 18 นิ้ว โดยสำหรับ MG EXTENDER เปิดตัว จำหน่าย ทั้งแบบตอนครึ่ง Giant Cab และ 4 ประตู Double Cab ทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อมาตรฐาน ขับเคลื่อน 2 ล้อยกสูง Grand และ ขับเคลื่อน 4 ล้อ Grand 4WD เหมือนอย่างในคันที่ผมได้มีโอกาสขับทดสอบในครั้งนี้

       สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นต้นฉบับ Maxus T60 คือ กระจังหน้า จากเดิมเป็นเส้นแนวตั้งโครเมี่ยม มาเป็นลายตาข่ายซึ่งคล้ายกับ ZS และ MG3 Minorchange ฝากระบะหลังเปลี่ยนจากคำว่า Maxus แบบขึ้นรูปมาเป็นแบบเรียบ พร้อมแปะโลโก้ MG, Extender โลโก้ Brit Dynamic  และไม่มีโรลบาร์โครเมี่ยมมาให้

       มือจับทั้ง เสา A และ เสา B ครบทุกจุดช่วยในการขึ้นลงรถทำได้สะดวก การออกแบบภายในสร้างความรู้สึกแข็งแกร่งสอดคล้องกับรูปลักษณ์ภายนอกโดยใช้โทนสีเข้มและเพิ่มความเรียบหรูด้วยวัสดุให้สัมผัสนุ่ม (SOFT TOUCH) พร้อมแผงหน้าปัดดีไซน์สปอร์ต นอกจากนี้ ยังมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ครบครัน อาทิ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น กุญแจระบบ Smart Key พร้อมปุ่ม Push Start ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ

       โดยในรุ่น Double Cab Grand 4WD มอบออพชั่นครั้งแรกในวงการรถกระบะด้วย เบาะปรับไฟฟ้าคู่หน้า ปรับได้ 6 ทิศทาง ส่วนรุ่นยกสูง Grand ปรับได้ด้วยระบบธรรมดา 6 ทิศทางสำหรับคนขับ และ 4 ทิศทางสำหรับคนนั่ง เบาะหลังพับได้แบบ 100% โดยให้เลือกวัสดุหุ้มเบาะได้ทั้งแบบผ้าและกึ่งหนังแท้ พร้อมช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลังทุกรุ่น

 

เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า ยกความบันเทิงจากรถยนต์นั่ง มาสู่รถกระบะด้วย i–SMART สั่งการด้วยเสียงภาษาไทย

        หน้าจอสีระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 10 นิ้ว พร้อม ระบบปฏิบัติการ i–SMART ที่มีในรุ่น Grand X ในแบบขับเคลื่อน 4 ล้อเป็นอีกไฮไลท์หนึ่งที่ยกเทคโนโลยีความบันเทิงจากรถยนต์นั่ง มาสู่รถกระบะ ช่วยให้ผู้ขับขี่กับรถสามารถเชื่อมต่อกันได้ เพื่อความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การสั่งการ หรือ SMART Command ผ่านระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย ที่สามารถสั่งการให้โทรออก เปิด-ปิดหรือควบคุมระบบปรับอากาศ หน้าต่างฝั่งคนขับตลอดจนวิทยุภายในรถ

      นอกจากนี้ ยังสามารถควบคุมหรือสั่งการระบบต่างๆ ผ่านหน้าจอทัชสกรีนภายในรถ หรือเลือกสั่งการบนสมาร์ทโฟนผ่าน MG Mobile Application การเชื่อมต่อ หรือ SMART Connect ที่สามารถเลือกฟังเพลงผ่าน Online Music ค้นหาร้านอาหารและที่พัก รวมทั้งเรียกดูข้อมูลข่าวสารและเหตุการณ์ปัจจุบันจากเว็บไซต์ดังได้บนหน้าจอในรถ สามารถตรวจเช็กผลสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ และการตรวจเช็กรถ หรือ SMART Check โดยสามารถสั่งล็อกหรือปลดล็อกประตู ตรวจสอบตำแหน่งและค้นหารถ แจ้งความผิดปกติ และแจ้งสถานการณ์ทํางานของรถ รวมถึงระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ 

 

ขุมพลังดีเซลคอมมอนเรลอาจไม่ทันใจคนเท้าหนัก

      การคุมพวงมาลัยของ Extender ที่เป็นแบบไฮดรอลิก ให้น้ำหนักการทำงานอยู่ในเกณฑ์พอดี ไม่หนักมากแต่ก็ไม่เบามากจนเกินไป แต่ก็ยังควบคุมได้ดี เนื่องจากพวงมาลัยชุดนี้เป็นไฮดรอลิกไม่ใช่พวงมาลัยไฟฟ้า จึงไม่ได้เซทปรับค่าให้แปรผัน การบังคับทิศทางจะมีระยะฟรีเล็กน้อย ส่วนในเรื่องการขับ MG EXTENDER สามารถปรับรูปแบบการขับขี่ได้ทั้ง ECO และ POWER โดยมีให้เลือกทั้งแบบโดยในรุ่นท็อป Grand X ขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นระบบ 4WD Part Time และมีโหมดการขับขี่ให้เหมาะกับสภาพถนน 3 รูปแบบ คือ 2H, 4H และ 4L โดยปรับเปลี่ยนจาก 2H เป็น 4H ได้ทันทีแต่ว่าความเร็วต้องไม่เกิน 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง

        อัตราเร่งช่วงออกตัวที่ยังรู้สึกถึงการตอบสนองช้าไปนิด มีอาการหน่วงๆ ตั้งแต่ออกตัวแต่พอช่วงกลางและปลายก็ไหลลื่นแรงทันใจ ในเรื่องของแบบเครื่องยนต์นั้น แม้ว่าขุมพลังของรุ่นต้นฉบับอย่าง Maxus T60 และ T70 เวอร์ชั่นต่างประเทศ จะมีให้เลือกหลากหลายแต่ในเวอร์ชั่นไทยจะมีให้เลือกแบบเดียวคือ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตรเทอร์โบเดี่ยว 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 161 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 375 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-2,400 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Diff-Lock ดูรวมๆ ในเรื่องของ พละกำลัง เครื่องยนต์ ดีเซล บล็อคเล็ก บล็อกแรกของ MG ในตลาดบ้านเรา สมรรถนะ โดยรวมอาจไม่ใช่จุดเด่น แต่ก็ไม่ได้ดูด้อย เครื่องยนต์และเกียร์ ทำงานได้ในเกณฑ์ที่ดี ในเส้นทางการขับแบบทางไกล หรือการขับขี่ในเมือง

      ระบบความปลอดภัยที่จัดเต็ม ทั้งในเรื่องของระบบควบคุมการทรงตัว ป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล ตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาและเตือนเมื่อรถออกนอกเลน โดยเฉพาะในรุ่นท็อป Grand X ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัตินั้นจะให้ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย พร้อมเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ

       ปิดท้ายที่เรื่องจุดศูนย์ถ่วงและ การกระจายน้ำหนัก ตามคอนเซปต์ของรถเน้นมาให้นั่งสบายสไตล์เก๋ง แต่ความสามารถ ในการตอบสนองโดยรวมในสภาพถนนที่ต่างกัน ทั้งทางโค้ง ถนนแคบแบบลาดยาง และลูกรัง ยังมีอาการดีด ดิ้น ของช่วงล่างออกมาให้เห็นอยู่บ้าง ความหนึบ และมั่นคงในการเข้าโค้ง ในการขับขี่ความเร็ว ช่วงล่าง การเก็บอาการและรับมือกับแรงสะเทือนจากพื้นผิวถนน ยังทำได้ไม่เนียนเท่าไรนัก ยังมีกระเด้งบ้างเวลาผ่านทางขรุขระตามสไตล์รถที่มีแชสซีส์ใต้ตัวถัง ส่วนระบบเบรกเป็นความภูมิใจของทาง MG เพราะติดตั้งดิสก์เบรก 4 ล้อทุกรุ่นมาพร้อมระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS ระบบช่วยเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA และ ระบบช่วยกระจายแรงเบรก EBD ทั้งหมดเป็นข้อมูลรายละเอียดของ NEW MG EXTENDER DC 2.0 GRAND 4WD X 6AT ราคาค่าตัว 1,029,000 บาทคันนี้ รุ่นที่มีการนำมาขับทดสอบกันครับ

 

AFTER DRIVE BY KAN YENSABAI

       เดิมพันหมากเกมส์นี้ด้วยการตั้งเป้าจำหน่าย 20,000 คัน/ปี นับเป็นสิ่งที่ท้ายอย่างมากสำหรับ MG ในการเดินหมากตลาดรถปิกอัพแบบปราบเซียน ในบ้านเรา เนื่องจากหลายในบ้านเรา คนยังติดว่า รถจากจีน คุณภาพตัวรถนั้นคงไม่ดีแบบที่รับรู้มาจากเสียงบอกเล่า แม้จะยังไม่ได้เคยสัมผัสหรือทดลองขับ

        แต่จากการทดลองขับทัวร์อีสานในทริปนี้ ผมมองว่า MG EXTENDER ก็มีจุดต่างทั้งในเรื่องของ พละกำลัง และการส่งกำลังเครื่องยนต์และเกียร์ทำงานได้ในเกณฑ์ที่ดี ในเส้นทางการขับแบบทางไกล หรือการขับขี่ในเมือง ช่วงล่าง ขับแล้วก็ยังได้ฟีลแบบกระบะ 4 ประตูทั่วๆ ไป แม้จุดขายของ MG ที่อยากให้ Extender ในแบบ 4 ประตูคันนี้ เป็นเหมือนรถปิกอัพ ที่ใช้งานได้วาไรตี้หลากหลายมากกว่าปิกอัพเพื่อการพาณิชย์

     ส่วนการพูดคุยกับทีมผู้รับผิดชอบดูแล MG EXTENDER ท่านก็ตอบมาเสียงดังฟังชัดว่า ชิ้นส่วนที่นำมาประกอบกว่า 50% เป็นชิ้นส่วนในประเทศ จึงสบายใจได้มากขึ้นในการเซอร์วิสดูแลรถ โดยรวมแม้จะดูเหนื่อยหน่อย แต่จุดขายตรงความเป็นสมาร์ทปิกอัพที่พัฒนา และออกแบบมาเป็นอีกมิติใหม่ของวงการรถกระบะในบ้านเรา ที่ยกเทคโนโลยีสไตล์ยุโรปมาลงในรถกระบะพร้อมความใหญ่ของตัวรถและออพชั่นด้านความปลอดภัยก็มากันแบบจัดเต็ม การเติบโต และยอดขายของ MG EXTENDER ปิกอัพโมเดลแรกของค่ายนี้ มีทิศทางที่สดใสได้ครับ