First Impression ลองขี่สกู๊ตเตอร์ NIU NQI GT มือถือมีล้อ พลังสะอาด แบตเตอรี่รีชาร์จได้

  • June 04, 2020

      จำได้ลางๆ ว่า ในงานแสดงรถยนต์ประจำปี น่าจะประมาณปี 2017 ผมไปสะดุดตาเข้ากับบู๊ธมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อหนึ่ง มีชื่อว่า NIU (อ่านว่า นิว) คอนเซปต์คือ  รถสกู๊ตเตอร์พลังงานสะอาดใช้แบตเตอรี่แบบรีชาร์จได้ สามารถถอดแบตเตอรี่ขึ้นไปชาร์จบนที่พักได้ด้วย หน้าตาก็ดูน่ารักจุ๋มจิ๋มดี ผมเก็บความรู้สึกสนใจไว้ เพราะตอนนั้นดูเป็นเรื่องไกลตัวไปหน่อย ที่จะรีบซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาใช้ได้แค่ในเมือง  ระยะทางจะได้สักแค่ไหน?  ซ่อมบำรุงยังไง? คำถามมีเยอะมากกว่าคำตอบที่ได้ พักความคิดเอาไว้ก่อนน่าจะดีกว่า...

 

       จนมาปี 2019 ผู้คนในกรุงเทพมหานครหัวเมืองใหญ่  และอีกหลายจังหวัดใหญ่ในประเทศไทย ก็ได้รู้จักกับศัพท์ใหม่ที่เราเรียกกันว่า PM2.5 นั่นก็คือเจ้าฝุ่นร้ายที่ชาวเมืองเดินดินกินกาแฟแก้วละร้อยสามสิบ  สูดเข้าไปอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เป็นภัยร้ายสะสมที่แอบแฝงมาอย่างเงียบๆ และรอวันทำลายสุขภาพเราให้ย่อยยับ  หามกลับเข้าโลงกันไม่รู้ตัว คนทำก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็เราๆ ท่านๆ ที่ใช้รถใช้ถนนกันด้วยรถน้ำมันพลังงานสันดาปกันมากว่าหลายร้อยปีนี่แหละครับ ครั้งนี้มันหนักหนาจริงๆ ดังนั้น ผมจึงกลับมาพิจารณาอีกทีว่า รถพลังงานไฟฟ้าทั่วโลกเขาเริ่มทยอยใช้กันแล้ว เราก็คงต้องหามาลองบ้างแล้วล่ะ ครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเทรนด์  ไม่ใช่เรื่องความล้ำสมัย แต่เป็นการช่วยโลกของเราคนละไม้คนละมือ และเพื่อคนรุ่นลูกรุ่นหลานของเราจะได้เหลืออากาศสะอาดสดชื่นไว้หายใจบ้าง ช่วยได้สักนิดคนละไม้คนละมือก็ยังดี

 

       รถที่ได้ลองขับในวันนี้คือรุ่นใหม่ล่าสุด นั่นคือเจ้า NIU NQi GT Sport ซึ่งจะต่างจากรุ่นก่อนหน้า โดยทางกายภาพที่เห็นๆ คือ มีแถบคาดสีแดงพาดอยู่รอบคันตั้งแต่หัวจรดท้าย บ่งบอกความเป็นรถสปอร์ตเร้าใจ ไฟหน้า LED แบบวงแหวนที่สวยสมาร์ท แต่ถ้าจะมองให้ลึกลงไปอีกก็จะเห็นว่า มีมอเตอร์ขับเคลื่อนแบบคู่หน้า-หลัง กำลังขับ 3000 W เทียบเท่ากับรถมอเตอร์ไซค์ 125 CC โดยมอเตอร์ที่ใช้ขับเคลื่อนจะเป็นยี่ห้อ BOSCH ผู้ผลิตชั้นนำจากเยอรมนีนั่นเอง แบตเตอรี่ที่เอาไว้เก็บพลังงานของรุ่นนี้มีมาให้ถึง 2 ก้อน โดยจะแอบซ่อนไว้อย่างแนบเนียนตรงที่พักเท้าคนขับ 1 ก้อน, และช่องเก็บของใต้เบาะอีก 1 ก้อน ซึ่งตรงนี้ก็ทำให้เสียพื้นที่เก็บสัมภาระไป แต่จริงๆ เราสามารถใช้แบตเตอรี่แค่ก้อนเดียวขับไปไหนมาไหนได้เหมือนกันนะ เพียงแต่ความแรงและระยะทางจะลดลงเท่านั้นเอง เพราะเจ้า NIU NQi GT Sport ออกแบบมาให้ใช้แบตเตอรี่สองก้อนพร้อมกัน เพื่อดึงประสิทธิภาพในการขับพลังงานจากมอเตอร์คู่ให้ไปได้แรงและไกลกว่ารุ่นเดิมมากมาย ในเสปกระบุไว้ว่าความเร็วสูงสุดสามารถทำได้ถึง 75-80 km/h เลยทีเดียว ว่าแล้วขอตัวไปลองหน่อยละกันว่าจะออกตัวไปยูเทิร์นตัด 4 เลนหน้าคอนโดพ้นไหม ?

        โดยรถจะให้กุญแจรีโมทมา มีปุ่มควบคุมอยู่ 3 ปุ่มง่ายๆ คือล็อกรถ / ปลดล็อก / และส่งสัญญาณเรียกตัวรถให้มีไฟเตือนเพื่อระบุตำแหน่งที่จอด น่าเสียดายที่กุญแจรถยังต้องเสียบและบิดหมุนอยู่ ไม่เป็นแบบ Keyless เดือดร้อนคนวัยเราต้องมานั่งเล็งทิ่มรูเสียบกุญแจให้ตรง โดยการใช้งานกุญแจก็คล้ายรถสกู๊ตเตอร์ทั่วไปคือบิดล็อกคอรถ / บิดเพื่อเปิดเบาะ / และบิดเพื่อสตาร์ทรถ  พอเราบิดกุญแจมาที่ Start  หน้าจอ LCD แบบ Multi Color ขนาดใหญ่ก็จะสว่างขึ้นมา ตัวอักษรใหญ่สะใจมองได้ชัดเจน ซึ่งการแสดงผลจะปรับอัตโนมัติได้สอง Mode คือถ้าขับกลางวันมีแสงแดด จอจะปรับเป็นสีขาวดำ เมื่อเข้าในที่ร่มหรือขับในเวลากลางคืน จอจะกลับมามีสีสันเหมือนเดิม ตรงคอแฮนด์จะเป็นที่อยู่ของปุ่มต่างๆ โดยเมื่อบิดกุญแจมาที่ตำแหน่ง Start แล้ว รถจะยังไม่ออกตัวนะครับ เราต้องกดปุ่มสีเขียวอีกครั้งถึงจะมีไฟขึ้นที่หน้าปัดว่า READY ตอนนี้แหละที่ถ้าเราบิดคันเร่ง รถถึงจะเคลื่อนตัวไปข้างหน้า ถัดมาจะเป็นปุ่ม + และ – เอาไว้ใช้ในการปรับ MODE การขับขี่ 3 ระดับ คือ ECO / DYNAMIC / SPORT ซึ่งจากที่ผมลองมาแล้วทุก MODE  เจ้า MODE ECO จะถูกจำกัดความเร็วไว้ที่ประมาณไม่เกิน 20 km/h เท่านั้น เหมาะกับการขับชิลล์ๆ ในหมู่บ้านกันวิ่งชนเด็ก / ชนสุนัขที่ออกมาวิ่งเล่นได้ ถัดมา MODE DYNAMIC ทางสายกลางที่ผมใช้บ่อยๆ จะจำกัดความเร็วไว้ที่ไม่เกิน 48-50 km/h เหมาะกับการใช้งานทั่วไป ขี่ซอกแซกไปในฝูงการจราจรคับคั่งได้สะดวกทันใจ และ MODE สุดท้ายคือ SPORT แน่นอนสำหรับสายหมดปลอก วิ่งปรู๊ดแบบไม่ต้องรอรอบ (รถไฟฟ้ามันไม่มีรอบสิ) ความเร็วสูงสุดที่ผมทำได้อยู่ที่ประมาณ 75 km/h เพราะไม่มีถนนดีๆ โล่งๆ ให้ทดสอบ แต่ถือว่าแรงทันใจมาก ยิ่งถ้าเทียบกับรุ่นเก่าผมว่าใครที่ห่วงเรื่องอัตราเร่งขอให้มาลองคันนี้ก่อน

 

        ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ คือระบบเบรกที่ใครได้มาลองก็ต้องบอกว่ากระชับ นุ่มนวล เบรกหนึบได้ใจ มาพร้อมระบบดิสก์เบรกคู่  และระบบ EBS ช่วยในการเบรก นอกจากนั้น ทุกครั้งที่เราทำการเบรกรถระบบจะทำการ Re-Gen เพื่อชาร์จแบตเตอรี่กลับให้เราอีกด้วย แต่ไม่ใช่ว่าไฟใกล้หมดแล้วคิดจะมาเบรกบ่อยๆ เพื่อเติมแบตเตอรี่นะคันหลังจะทิ่มก้นเอา  มันเอาไว้ช่วยไม่ให้พลังงานที่ใช้ในการเบรกสูญเปล่าไปเฉยๆ เท่านั้นครับ เติมกลับมาได้ไม่เยอะ แต่ก็ดีกว่าไม่เติมนะ อ้อ.. ลืมบอกไป แบตเตอรี่ของ NIU ใช้ยี่ห้อ Panasonic นะครับ แบตเตอรี่เป็นแบบ ลิเธียมไอออน 18650 ความจุอยู่ที่ 26 Ah ใช้เวลาชาร์จทั้ง 2 ก้อนให้เต็มจาก 0-100 % อยู่ที่ประมาณ  4-5 ชั่วโมง โดยการเสียบไฟบ้านจากอแดปเตอร์โดยตรงตัวรถ แต่หากถอดแบตเตอรี่ออกไปชาร์จข้างนอกทั้งสองก้อนจะใช้เวลาชาร์จจาก 0-100% ประมาณ 6 ชั่วโมงครับ ซึ่งเอาจริงๆ เราไม่น่าใช้เวลานานขนาดนั้น เพราะมีผลวิจัยว่าแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน  จะมีอายุการใช้งานที่นานขึ้นถ้าเราชาร์จเต้มไว้แค่ 80% และชาร์จบ่อยๆ ได้เท่าที่ต้องการ อย่าไปชาร์จให้เต็ม 100% เป็นประจำจะทำให้แบตเตอรี่เราอยู่ได้นานขึ้น แต่เอาจริงๆ ผมว่าอย่าเพิ่งไปซีเรียส เพราะแบตเตอรี่มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ และมีแนวโน้มจะราคาถูกลงเรื่อยๆ เช่นกันครับ

 

            นอกจากนี้ เจ้า NIU ยังมีระบบ Cruise Control หรือระบบล็อกความเร็วอัตโนมัติให้ด้วยนะครับ ใครขี้เกียจบิดเองก็กดใช้งานได้เลย และตัวรถยังมาพร้อมระบบ GPS และมี GSM ด้วยนะครับ เพื่อไว้เชือมต่อกับ App บน Smartphone ของเรา ซึ่งเจ้าของรถสามารถเช็คสถานะแบตเตอรี่ / ดูประวัติเส้นทางการเดินทาง (อันนี้อย่าไปบอก ผบ. ไม่งั้นก็อย่าออกนอกลู่นอกทางนะ) เช็กสถานะรถของเราว่าระบบการทำงานสมบูรณ์หรือไม่,  และดูตำแหน่งปัจจุบันของตัวรถได้, แถมยังมีระบบเตือนเมื่อมีคนมาขยับรถเราด้วยนะ ซึ่งเราสามารถตั้งค่าระดับการเตือนให้ Sensitive มากน้อยใน App ภายหลังได้ดวยครับ ตรงนี้ต้องให้คะแนนความล้ำเขาเลย มีไว้แล้วสะดวกจริงๆ  อ้อ.. เราสามารถตั้งชื่อรถของเราได้ด้วยนะ เอาไว้เท่านั้นแหละ เรียกชื่อมันก็ไม่วิ่งมาหาจากลานจอดหรอก 555 หยอกๆๆ

 

      ว่าจะเขียนแค่สั้นๆ แต่ร่ายมาเสีนยาว ขอสรุปจบมันดื้อๆ ไว้ตรงนี้ละกัน เท่าที่ได้ลองขับเจ้า NIU NQi GT Sport คันนี้ ผมค่อนข้างประทับใจในความแรง ขับง่าย  เพราะจุดศูนย์ถ่วงของรถอยู่ต่ำ แบตเตอรี่ก็อยู่ใต้ท้องรถ ทำให้รู้สึกว่ารถทรงตัวดี รูปทรงสวยทันสมัย เห็นแล้วรู้สึกเตะตา มีคนจอดทักตรงสี่แยกหลายคนละว่านี่รถไฟฟ้าใช่ไหม ขับแล้วยืดน่าดู ที่สำคัญไม่สร้างมลพิษทั้งเรื่องของค่าไอเสียที่เป็น 0 และเสียงการขับขี่ที่เงียบกริบจนคนขี่มาถามว่าลืมสตาร์ทเครื่องแล้วปล่อยไหลหรือเปล่า?  ส่วนตัวผมว่ามันเป็นรถที่เหมาะกับยุค 2020 มากเลยนะ ขี่ได้ไม่เคอะเขินทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่สำหรับขนาดตัวรถผมว่าต้องไปลองเอง ถ้าคนรูปร่างสูงใหญ่มากๆ ท่านั่งอาจจะไม่ถนัด แต่ถ้าไซซ์ปกติซ้อนได้หายห่วงครับ สำหรับเจ้า NIU NQi GT Sport เขามีให้เลือก 3 สี คือดำคาดแดง / ดำคาดขาว / และขาวคาดแดง ใครชอบสีไหนก็ลองไปเลือกกันดูเอง ราคาค่าตัวอยู่ที่ 109,000 บาท ถูกหรือแพงต้องถามใจคุณดู สำหรับผม แลกกับการไม่ต้องแวะต่อคิวเติมน้ำมันในปั๊มน้ำมันอีกเลย ช่วยลดมลพิษไอเสียให้เป็นศูนย์ และแบรนด์ NIU ก็เป็นผู้ผลิตรถ EV Scooter ชั้นนำที่มีชื่อเสียงและน่าไว้วางใจเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และข้อสำคัญไม่ต้องมีความรู้เรื่องรถก็ขับได้นะ มันไม่มีหัวเทียน น้ำมันเครื่องให้เปลี่ยนแล้วนี่ อยากรู้ว่ารถเป็นอะไรก็กด Smartphone เช็กเก๋ๆ  นี่มันมือถือมีล้อวิ่งไปซื้อแกงได้ COOL จะตายครับพี่น้อง...