NISSAN NAVARA DOUBLE CAB 4WD VL 7AT ยกสูง 4 ประตู ขับดี มีความนุ่มนวล

      ลองใช้อุปกรณ์มาตรฐานที่ใช้งานจริงได้บ่อยคือ AVM หรือ Around View Monitor ที่เป็นการทำงานด้วยกล้องรอบรถ 4 ตัว ติดตั้งที่กระจังหน้าตรงโลโก้ Nissan ที่กระจกมองข้างทั้ง 2 ด้าน และที่ฝาท้ายสังเคราะห์ภาพเป็นภาพมุมสูง และมีเส้นกะระยะแบบแปรผันตามการหมุนพวงมาลัย ที่ทำให้การนำรถปิกอัพคันใหญ่คันนี้ถอยหลังเข้าจอด และใช้ตรวจสอบสิ่งกีดขวางรอบรถที่อาจอยู่ในมุมอับสายตา ได้ง่ายขึ้น แต่ด้วยข้อจำกัดจากบอดี้อันใหญ่โต เมื่อเจอกับตรอก ซอกซอยเล็กๆ ก็จะดูเทอะทะเกะกะ ขาดความคล่องตัวไปบ้าง  การตีวงเลี้ยวต้องตั้งลำหาวงเลี้ยว หาเหลี่ยมกันให้ดี ถ้าจะเลี้ยวทีเดียวให้ได้พ้น แน่นอนล่ะความคล่องตัวสำหรับการใช้งานในเมืองแออัด ไม่ใช่คำตอบของรถคันนี้

ภายนอกเน้นแกร่งบึกบึน

         อารมณ์ที่สปอร์ตและบึกบึน ผ่านรูปลักษณ์ที่ดูเรียบง่ายในแบบปิกอัพ 4 ประตูยุคใหม่กับไฟหน้า LED Projector ให้ความสว่างเข้มข้นเหลือเฟือ และควบคุมลำแสงให้อยู่ในขอบเขต กดลงพื้นไม่ฟุ้งกระจายแยงตาผู้ร่วมใช้ทาง เสริมความหรูหราด้วยกระจังสีโครเมี่ยม เข้าชุดกับกรอบไฟตัดหมอก, กระจกมองข้าง, ที่เปิดประตูและกันชนท้าย เล่นสีเมทัลลิกด้านที่บันไดและแร็คหลังคา ส่วนในด้านท้ายแอบมีลูกเล่นดีไซน์กับงานเสริมสปอยเลอร์ชิ้นเล็กที่ขอบฝาท้ายที่ปั๊มลายเพิ่มเส้นสาย ล้อแม็กลายสวยขนาด 18 นิ้ว

        พวงมาลัยปรับได้แค่สูง-ต่ำ บนพวงมาลัยฝั่งซ้ายเป็นชุดสวิตช์ควบคุมหน้าจออเนกประสงค์และคุมเครื่องเสียง ส่วนฝั่งขวาสำหรับครูสคอนโทรล และระบบโทรศัพท์ ชุดมาตรวัดทรงกลมออกแบบดูดี ขนาดใหญ่ชัดเจน แทรกกลางด้วยจอแสดงข้อมูลและปรับตั้งระบบต่างๆ ของตัวรถ ปุ่มรีเซ็ตระยะทางและปรับความสว่างหน้าปัดแยกออกมาอยู่ที่แผงคอนโซลฝั่งขวา เบาะผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า ฝั่งผู้ขับปรับสูง-ต่ำได้ และมีที่ดันหลังไฟฟ้า ส่วนเบาะหลังก็ตามสภาพ พนักพิงค่อนข้างตั้งชัน เบาะรองนั่งยาวรับต้นขาได้เต็มที่ มีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ถ้าผู้ขับไม่ตัวสูงผิดปกติ ผู้โดยสารด้านหลังผู้ขับจะมีที่วางขาเหลือเฟือ

ภายในหรูใช้ได้ มีกลิ่นอายของ SUV

          และเช่นเดียวกับรูปลักษณ์ภายนอก ห้องโดยสารของ Nissan Navara ออกแบบให้ดูเรียบง่ายสะอาดตา เน้นใช้โทนสีดำดูสปอร์ตและดูแลรักษาง่าย การตกแต่งทางนิสสันเลือกใช้สีเมทัลลิกในจุดต่างๆ หลายชิ้นส่วนใช่ร่วมกันกับรถหลายรุ่นของนิสสัน วัสดุที่ใช้มีเกรดคุณภาพดี การเย็บเบาะต่างๆ ทำได้ละเอียด ดูหรูหรา ทั้งแผงหน้าปัดกราฟิก แผงคอนโซล เบาะหนัง พวงมาลัย จัดมางานค่อนข้างเนียน ภาพรวมของห้องโดยสารแทบไม่เหลือความเป็นรถกระบะ ให้อุปกรณ์มาตรฐานมาแบบล้นๆ สมราคา 1.09 ล้านบาท

ที่บริเวณหน้าคอนโซลเกียร์มีช่องเสียบ USB และ HDMI สำหรับระบบเครื่องเสียง ที่เท้าแขนกลางเบาะหน้าบุด้วยวัสดุนุ่ม และติดตั้งชุดเครื่องเสียงแบบจอสัมผัสขนาด 2 DIN และสวิตช์ควบคุมแอร์พร้อมหน้าจอแสดงผล ต่อเนื่องด้วยสวิตช์เปิด-ปิดระบบ HDC ช่วยลงทางลาดชัน สวิตช์เข้าระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

เครื่องยนต์รถกระบะยุคใหม่ ไม่ใหญ่ แต่ใช้เทคโนโลยีช่วยรีดแรงม้า

        การตอบสนองของ พวงมาลัยแร็กแอนด์พิเนี่ยนพร้อมพาวเวอร์ เน้นขับสบายๆ แปรผันการผ่อนแรงได้ดี ขับความเร็วต่ำพวงมาลัยเบาควบคุมรถคันใหญ่ได้ง่ายคล่องแคล่ว ขับความเร็วสูงพวงมาลัยหนืดมือมั่นคง ตามแนวทางของ รถกระบะยุคใหม่ ที่เครื่องยนต์ไม่เน้นใหญ่ แต่อาศัยเทคโนโลยีช่วยรีดแรงม้า Nissan Navara ใช้เครื่องยนต์ ดีเซลคอมมอนเรล 4 สูบ ฝาสูบแบบ DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบแปรผัน VGS พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ รีดกำลังได้ 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 45.9 กก.-ม. ที่ 2,000 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ พร้อม Manual Mode

       การออกแบบอัตราทดเกียร์ไว้สำหรับการบรรทุก กับรอบของเครื่องยนต์ดีเซล ช่วยให้อัตราเร่งไหลลื่นต่อเนื่องพอสมควร โดยที่ไม่ต้องกดคันเร่งเค้นรอบสูงมากนัก ยิ่งถ้าลองใช้ Manual Mode ช่วยปรับโยกคันเกียร์ก็จะลากรอบสูงได้อีกนิด และเกียร์ไม่เปลี่ยนขึ้นเกียร์สูงให้ มีข้อดีเวลาบรรทุกหนักไต่ทางชันหรือขับบนเส้นทางออฟโรด เช่นเดียวกับการเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำในโหมดนี้จะคิกดาวน์ไม่ลงต้องโยกคันเกียร์เท่านั้น

        ที่ความเร็ว 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง เสียงและความสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์แทบไม่มีให้สัมผัส   สมรรถนะโดยรวมของเครื่องยนต์บล็อกนี้ เน้นกำลังที่มาแบบต่อเนื่องครับ ตอบสนองดีตั้งแต่รอบต่ำ ไม่ได้ดึงหนักหน่วงนัก ขับใช้งานได้สบายนุ่มนวล ควบคุมง่าย จังหวะเร่งแซงก็ตอบสนองได้ทันใจ เกียร์เหมือนจะเซ็ตมาให้เปลี่ยนเกียร์ได้นุ่มนวล แต่ก็ยังให้ความต่อเนื่องในการเปลี่ยนจังหวะทั้งขึ้นและลงในด้านคุณภาพการขับถือว่าทำได้ดี

       ระบบเบรกเป็นอีกหนึ่งจุดที่ทำให้ขับรถรุ่นนี้ได้อย่างมั่นใจ เบรกหน้าดิสก์พร้อมครีบระบายความร้อน ด้านหลังดรัมเบรก มี ABS, EBD และ BA เหมือนรถกระบะส่วนใหญ่ แต่ผลงานดีมาก สร้างแรงเบรกได้หนักหน่วง ดึงรถคันใหญ่ให้ช้าลงได้อย่างมั่นคง และที่สำคัญคือ สร้างแรงเบรกได้สัมพันธ์กับน้ำหนักเท้า เบรกได้นุ่มนวลปลอดภัยตั้งแต่ครั้งแรกที่ขับ ไม่ต้องปรับตัวกันนาน

ระบบกันสะเทือนเน้นโดยสารมากกว่าบรรทุกของ

         ช่วงล่างของ Nissan Navara Double Cab 4WD VL 7AT มาพร้อมตัวช่วย ระบบกันสะเทือนปรับความนุ่มมาพอเหมาะสำหรับรถกระบะ 4 ประตู ที่เน้นโดยสารมากกว่าบรรทุกของ บนทางเรียบใช้ความเร็วปกติขับนุ่มนั่งสบายไม่ดีดเด้ง ให้ความรู้สึกใกล้เคียงเอสยูวี การทรงตัวทำได้ดี ไม่โยนหรือเหวี่ยงมากขณะเข้าโค้ง

        บุคลิกของรถกระบะที่ยังติดมานิดๆ จาก รูปแบบของระบบกันสะเทือนจึงปรับเปลี่ยนได้ไม่มากนัก ด้านหน้าอิสระ ปีกนก 2 ชั้น คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังคานแข็ง แหนบซ้อน มาพร้อมตัวช่วยครบครัน เช่น VDC ควบคุมการทรงตัว TCS ป้องกันล้อหมุนฟรี ระบบช่วยขึ้น-ลงทางลาดชัน HSA และ HDC และระบบป้องกันการลื่นไถล ABLS – Active Brake Limited Slip เมื่อล้อใดเกิดการลื่นไถลระบบก็จะส่งแรงเบรกไปยังล้อนั้น

AFTER DRIVE BY KAN YENSABAI

             สำหรับ Nissan Navara โมเดลปี 2018 แม้เป็นรถปิกอัพอเนกประสงค์ที่มำตลาดมานานเกือบ 3 ปีแล้ว แต่โดยรวมก็ยังจัดเป็นรถกระบะ 4 ประตู ที่ให้คุณภาพการขับที่ดี อุปกรณ์มาตรฐานครบๆ  สมราคาค่าตัว 1,090,000 บาท

 จุดเด่นจุดขายที่โครงสร้างแชสซีส์เหล็กกล้าขนาดใหญ่ แชสซีส์แบบโมโนเฟรมชิ้นเดียวยาวตลอดคันและได้รับการแต่งเติมฟีเจอร์บางอย่างเพิ่มเข้ามา จากกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง เหมือนกับในรถรุ่นเล็กอย่าง Nissan Note

ในส่วนของเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.5 ลิตร พ่วงเทอร์โบมา 1 ลูก ให้กำลังออกมา 190 แรงม้า ถามว่าพอไหม..ถ้าคุณชอบความคล่องตัวต้นจัด คำตอบคือมันก็ยังตอบโจทย์คุณไม่ได้แน่นอน ยังไงต้นก็อืด แต่พอรถลอยตัวแล้วขับง่ายขับสบาย จังหวะเร่งแซงเจ้าเกียร์ 7 สปีด ทำงานได้ดี แซงได้ปลอดภัย แถมยังมีโหมดให้สับเกียร์ได้เหมือนเกียร์ธรรมดา ขับทางไกล ทางโล่งๆ เนียนกว่าขับอยู่ในเมือง

     Nissan Navara คันนี้ยังใส่ระบบที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะและความปลอดภัยในขณะขับขี่ทั้งแบบทั่วไปและแบบออฟโรด มาชุดใหญ่ แน่นอนว่าถ้ามีโอกาสได้ลองเอาไปลุยเส้นทางออฟโรดแบบเต็มๆ คงจะได้เห็นเพอร์ฟอร์แมนซ์ในอีกรูปแบบ ซึ่งผมเชื่อว่า Nissan Navara คันนี้ สามารถลุยไปถึงได้ อย่างสบายๆครับ

SPECIFICATIONS: NISSAN NAVARA DOUBLE CAB VL 7AT 4WD

•   แบบตัวถัง กระบะ 4 ประตู

•   แบบเครื่องยนต์ ดีเซลคอมมอนเรล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์

•   ความจุ 2,488 CC

•   กระบอกสูบ x ช่วงชัก 89.0 x 100.0 มิลลิเมตร

•   อัตราส่วนการอัด 15.0:1

•   กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที

•   แรงบิดสูงสุด 45.9 กก.-ม. ที่ 2,000 รอบ/นาที

•   ระบบส่งกำลัง อัตโนมัติ 7 จังหวะ พร้อม Manual Mode

•   ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

•   ระบบบังคับเลี้ยว แร็คแอนด์พิเนี่ยนพร้อมพาวเวอร์

•   ระบบกันสะเทือนหน้า อิสระปีกนก 2 ชั้น คอยล์สปริงพร้อมเหล็กกันโคลง

•   ระบบกันสะเทือนหลัง คานแข็ง แหนบซ้อน พร้อม VDC, HAS, HDC และ TCS

•   ระบบเบรกหน้า/หลัง ดิสก์พร้อมครีบระบายความร้อน/ดรัม พร้อม ABS, EBD และ BA