BMW 530i M SPORT & BMW 520D LUXURY G30 เจเนอเรชั่นที่ 7 เติมความหรู..คู่ความสปอร์ต

  • May 18, 2017

       บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย พาสื่อมวลชนสัมผัสสุนทรียะแห่งการขับขี่ที่แท้จริง ในกิจกรรมทดสอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 5 โฉมใหม่ ที่จัดขึ้นที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ร่วมทดสอบสมรรถนะการขับขี่ พร้อมสัมผัสนวัตกรรมล่าสุดจากรถยนต์ BMW 530i M Sport และ BMW 520d Luxury ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติอันสวยงามของเขาใหญ่

        ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย มร.สเตฟาน ทอยเชอร์ต กล่าวว่า “บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้ต่อยอดความสำเร็จที่ผ่านมาด้วยสถิติยอดขายสูงสุดในเดือนมีนาคมและไตรมาสแรกของปีทั่วโลก โดยในประเทศไทย บีเอ็มดับเบิลยูสร้างสถิติใหม่ด้วยการส่งมอบรถยนต์สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสแรกของปี 2560 ด้วยยอดส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูจำนวน 2,097 คัน ซึ่งสูงขึ้นถึง 26% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา

       “การเติบโตของบีเอ็มดับเบิลยูในประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคมีต่อบีเอ็มดับเบิลยู โดยตั้งแต่การเปิดตัวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 5 โฉมใหม่ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าในประเทศไทย เราจึงเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าตลอดปีนี้ เราจะสามารถรักษาแนวโน้มการเติบโตนี้ไว้ได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ๆ สู่ตลาดรถยนต์พรีเมี่ยมในประเทศไทย”

        ภายใต้แนวคิด BMW EfficientLightweight ที่เน้นการใช้วัสดุอลูมิเนียมและเหล็กกล้าที่มีความทนทานสูงแต่น้ำหนักเบา บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 5 โฉมใหม่จึงมีน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนถึง 100 กิโลกรัม แต่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่นุ่มนวล ปลอดภัย ยึดเกาะถนน และเพียบพร้อมด้วยความสะดวกสบายบนทุกเส้นทาง ตามแบบฉบับของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 5

        นอกจากน้ำหนักที่เบากว่ารุ่นก่อนแล้ว ตัวถังของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 5 โฉมใหม่ยังมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ กระจายน้ำหนักอย่างสมดุล และมีแรงเสียดทานอากาศต่ำที่สุดในรถระดับเดียวกัน จึงผสมผสานการขับขี่ที่คล่องตัวเข้ากับความนุ่มสบายสำหรับผู้โดยสารได้อย่างลงตัว ทีมวิศวกรของบีเอ็มดับเบิลยูทำงานอย่างหนักเพื่อลดค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศของ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 5 โฉมใหม่ลง 10% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดยมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศอยู่ที่ 0.22 เท่านั้น ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับรถยนต์ซีดาน

         ส่วนเพดานห้องโดยสารของ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 5 โฉมใหม่มาพร้อมวัสดุเก็บเสียงในตัว จึงช่วยลดเสียงรบกวนในห้องโดยสารได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะในบริเวณที่ใกล้กับศีรษะ เพื่อความผ่อนคลายสูงสุดของผู้โดยสาร นอกจากนี้ ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดตั้งอยู่บนแชสซีส์ได้รับการปรับให้มีน้ำหนักเบาลงมาก เช่น การรวมระบบเบรกมือไฟฟ้าเข้ากับก้ามปูเบรกล้อหลัง ซึ่งช่วยให้สามารถลดน้ำหนักได้ถึง 3 กิโลกรัม โดยรวมแล้วการลดน้ำหนักของตัวเบรก ล้อและยาง ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 5 โฉมใหม่มีน้ำหนักของระบบช่วงล่างเบาลงถึง 9 กิโลกรัม ซึ่งมีผลต่อการตอบสนองและความนุ่มนวลในการขับขี่อย่างเห็นได้ชัด

         เพราะ Aerodynamics ของตัวรถเป็นเรื่องสำคัญ ทั้ง BMW 530i M Sport และ BMW 520d Luxury มาพร้อมกระโปรงหลังขนาดใหญ่ขึ้น ด้วยความจุถึง 530 ลิตร โดยส่วนขอบล่างของกระโปรงได้ปรับให้มีระดับต่ำลงกว่าในรุ่นก่อน จึงทำให้สามารถจัดเก็บสัมภาระขนาดใหญ่ได้ง่ายขึ้น ภายในช่องเก็บของที่ทั้งเปิดฝากระโปรงได้กว้างขึ้น และมีขนาดที่กว้างกว่าเดิม นอกจากนี้ ฝากระโปรงหลังของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 5 โฉมใหม่ยังทำจากอลูมิเนียมทั้งบาน ทำให้สามารถลดน้ำหนักลงไปได้กว่า 4.2 กิโลกรัม

      กุญแจ Display Key ในบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 5 มาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย เช่น การสั่งการทำงานของระบบปรับอากาศในรถ นอกจากนี้ กุญแจดังกล่าวยังมาพร้อมหน้าจอสีแสดงผลแบบระบบสัมผัส ซึ่งแสดงสถานะต่างๆ ของรถ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถรู้สถานะปริมาณของน้ำมันและระยะทางที่รถสามารถวิ่งได้ รวมถึงข้อมูลที่สำคัญอื่นๆ โดยกุญแจนี้สามารถชาร์จได้ด้วยเครื่องชาร์จไร้สายที่ติดตั้งมากับรถหรือจากพอร์ต USB ทั่วไป

BMW 530i M Sport

       BMW 530i M Sport ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบรุ่นใหม่ ขนาด 2.0 ลิตร ซึ่งมาแทนเครื่องยนต์เบนซินเดิมที่ใช้ใน BMW 528i พร้อมมอบกำลังสูงสุด 185 กิโลวัตต์/252 แรงม้า พร้อมแรงบิด 350 นิวตัน-เมตร มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 17.5 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อย CO2 ที่ 129 กรัม/กิโลเมตร ลดลงจากรุ่นก่อน 11% สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ในเวลาเพียง 6.2 วินาที และเร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง

       รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวหรูหราด้วยชุดแต่ง M Aerodynamics และล้ออัลลอย M ขนาด 19 นิ้วแบบ Double-spoke ภายในโดดเด่นด้วยพวงมาลัยหนังในแบบ M ส่วนหลังคากระจกเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า และกระโปรงหลังพร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติพร้อมมอบความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้นให้แก่ผู้ใช้งาน

            นอกจากนี้ ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอด (Parking Assistance) จะทำให้การจอดรถง่ายดายขึ้นด้วยระบบอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการจอดรถในรูปแบบแนวขนานหรือการจอดแบบเข้าซอง ทั้งยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่นพิเศษเพิ่มเติม โดยในรุ่นนี้ระบบสามารถทำการจอดรถได้ในพื้นที่จอดที่มีความยาวกว่าตัวรถเพียง 80 เซนติเมตร ซึ่งช่วยให้การเข้าจอดในพื้นที่จำกัดสามารถทำได้ดียิ่งขึ้น ระบบอัลตร้าโซนิคเซ็นเซอร์ (Ultrasonic Sensors) สามารถช่วยค้นหาพื้นที่จอดที่เหมาะสมได้ ในขณะขับขี่ที่ความเร็วสูงสุด 35 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยเมื่อพบจุดจอดแล้วระบบจะทำการจอดรถเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเกียร์ หมุนพวงมาลัย ตลอดจนผ่อนคันเร่งหรือเบรกโดยอัตโนมัติ และในกรณีที่พื้นที่จอดรถทำมุมกับถนน ระบบจะต้องการพื้นที่ว่างด้านข้างตัวรถเพียงข้างละ 40 เซนติเมตรเท่านั้น ในการทำงานแบบอัตโนมัติ

        ส่วนระบบ Gesture Control ซึ่งเป็นฟีเจอร์ควบคุมฟังก์ชั่นหลักด้วยท่าทางการเคลื่อนไหวของมือ ได้เปิดตัวออกสู่ตลาดเป็นครั้งแรกในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7 เมื่อปีที่ผ่านมา และ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 5 โฉมใหม่ก็มาพร้อมกับรุ่นล่าสุดของระบบดังกล่าว ซึ่งมาพร้อมกับหน้าจอความละเอียดสูงขนาด 10.25 นิ้ว ที่แสดงผลได้ทั้งข้อมูลระบบนำทาง โทรศัพท์ เพลง หรือเมนูฟังก์ชั่นต่างๆ ของตัวรถ

        ที่สำคัญนอกจากจะสั่งการได้ผ่านทางปุ่ม iDrive Controller แล้ว ระบบควบคุมนี้ยังรองรับการสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือ เสียง หรือการสัมผัสปุ่มบนหน้าจอ สำหรับระบบ Gesture Control นั้น นำเสนอการใช้งานในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและสะดวกสบายในทุกฟังก์ชั่น ทั้งระบบ Infotainment และโทรศัพท์ผ่านการขยับมือหรือนิ้วมือ ซึ่งจะถูกตรวจจับโดยระบบเซ็นเซอร์ 3D บริเวณคอนโซลและแปลเป็นคำสั่งต่างๆ ตามการเคลื่อนไหว เช่น สามารถรับโทรศัพท์ได้ด้วยการชี้นิ้วชี้ไปที่หน้าจอ หรือสามารถปัดมือเพื่อปฏิเสธสายเรียกเข้า

BMW 520d Luxury

       ทางด้าน BMW 520d Luxury มาในแนวเน้นความสง่างามที่เป็นตัวตนของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 5 โดยมาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว แบบ W-spoke ทั้งยังเปี่ยมสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ส่งกำลังสูงสุด 140 กิโลวัตต์/190 แรงม้า พร้อมแรงบิด 400 นิวตัน-เมตร มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 20 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อย CO2 ที่ 132 กรัม/กิโลเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ในเวลา 7.5 วินาที เร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 235 กิโลเมตร/ชั่วโมง

       BMW 530i M Sport และ BMW 520d Luxury ทั้ง 2 รุ่น ยังติดตั้งปุ่มควบคุมฟังก์ชั่นพร้อมระบบสัมผัส iDrive พร้อมแสดงระบบนำทาง ระบบโทรศัพท์ ระบบความบันเทิง และระบบการทำงานของรถผ่านจอแสดงผลความละเอียดสูงขนาด 10.25 นิ้ว โดยรองรับการควบคุมผ่านทาง iDrive Controller สั่งงานด้วยเสียงหรือท่าทาง หรือสัมผัสที่หน้าจอโดยตรง

       นอกจากนี้ ดีไซน์ภายนอกของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 5 ใหม่ทั้ง 2 รุ่น ยังโดดเด่นด้วยไฟหน้า LED ที่ปรับทิศทางตามการหมุนของพวงมาลัย อันถือเป็นเอกลักษณ์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 5 ใหม่โดยเฉพาะ โดยมีระบบปรับการกระจายแสงให้เหมาะสมกับเส้นทางที่ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มแสงสว่างในมุมอับในขณะเข้าโค้ง หรือระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติในระยะไกลสุด 500 เมตร และภายในห้องโดยสารนอกเหนือจากพื้นที่วางขาสำหรับผู้โดยสารในห้องโดยสารที่เพิ่มขึ้น เทคโนโลยี SYNTAK (Special Synergy Thermoacoustic Capsule) ยังช่วยเสริมการเก็บเสียงเพื่อความผ่อนคลายสูงสุดในห้องโดยสาร

 

After Drive by Kan Yensabai

      ในส่วนของการทดสอบทริปนี้ ที่สนามบินขนงพระ ในสนามกอล์ฟ แรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ท แอนด์ คันทรีคลับ ที่เป็นรันเวย์สนามบินแบบส่วนตัว เป็นเหมือนแล็บปิดที่มีความปลอดภัยในการขับทดสอบ ผมมีโอกาสได้ทดสอบรถในอนุกรมซีรี่ส์ 5 ใหม่ครบทั้ง 2 โมเดล ที่ทางบีเอ็มฯ เค้าภูมิใจนำเสนอครับ ทั้ง BMW 530i M Sport เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 252 แรงม้า ที่มีการอัพเกรดแรงม้าจากเดิมที่มีกำลังอยู่ 218 แรงม้า และในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 190 แรงม้า ในตัวโมเดล BMW 520d Luxury ที่ทั้งคู่มาพร้อมกับชุดเกียร์อัตโนมัติแบบ 8 สปีด

       ในการทดสอบสมรรถนะของรถผ่าน 3 สถานีทดสอบ ทั้งสถานี Handling ที่เป็นการทดสอบการควบคุมรถในย่านความเร็วที่แตกต่างกัน เพื่อลองน้ำหนักพวงมาลัยในการคุมรถ และระยะในการเบรกหยุดรถ และในสถานี Slalom เป็นการทดสอบประสิทธิภาพการทรงตัวของรถ โดยไม่มีการปิดระบบ DSC ที่เป็นระบบช่วยควบคุมการทรงตัว

      ต้องขอบอกว่า จุดเด่นของรถหรูคันนี้ยังเป็นในเรื่อง Performance ของรถ ในการทดสอบผมเองเลือกโหมด Sport Individual ในการขับขี่ ที่ตัวรถจะปรับทั้ง Steering Engine Transmission คือ ปรับทั้งเครื่องยนต์ เกียร์ และชุดช่วงล่าง ให้ทำงานแบบสปอร์ต ที่ต้องขอบอกว่าตัวรถให้ความรู้สึกการขับที่เฟิร์ม กระชับ ยึดเกาะถนนสมชื่อชั้น

      ส่วนในสถานีสุดท้ายเป็นการทดสอบการนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ Parking Assistance ที่ทำให้สามารถนำรถบอดี้ที่จัดว่ามีขนาดใหญ่แบบซาลูนครอบครัว เข้าจอดได้ในช่องจอดที่มีความยาวมากกว่าตัวรถเพียง 80 เซนติเมตร    

     โดยรวม บีเอ็มดับเบิลยู ซี่รี่ส์ 5 โฉมนี้ยังเป็นรถที่ขับคอนโทรลได้สนุก นอกจากทางเลือกในเรื่องของเครื่องยนต์ตามรสนิยมความชอบ ทั้งเครื่องยนต์แบบเบนซินและดีเซลแล้ว ของแถมที่สำคัญคือ อุปกรณ์ฟีเจอร์หลักๆ ที่เพิ่มเข้ามาเพิ่มความสะดวกสบายในรถหลายๆ จุด ที่แทบจะยกมาจากในโฉมซีรี่ส์ 7 ก็ยิ่งยกระดับความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร ทำให้รถใหม่ในอนุกรมซีรี่ส์ 5 น่าสนใจมากยิ่งขึ้นครับ

ราคา BMW 530i M SPORT & BMW 520D LUXURY (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

  •  BMW 530i M Sport                       4,399,000 บาท
  •  BMW 520d Luxury                       3,899,000 บาท
  •  BMW 520d Luxury (Limited)     3,599,000 บาท