THE ALL-NEW MINI COUNTRYMAN มินิ ที่ไม่ มินิ

  • June 27, 2017

         มินิ ประเทศไทย จัดกิจกรรมพิเศษ The All-New MINI Countryman Press Drive นำสื่อมวลชนสัมผัสดีไซน์อันโดดเด่น แรงบิดที่เป็นเอกลักษณ์ กำลังขับเคลื่อนเหนือระดับ และประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานในแบบฉบับของมินิ พร้อมร่วมทดสอบและสัมผัสสมรรถนะการขับขี่ของรถยนต์มินิ คันทรี่แมน โฉมใหม่ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติแบบสบายๆ ในสไตล์ “ADD STORIES” เติมเรื่องราวและประสบการณ์ที่มีความหมายให้กับชีวิตที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

 

          มินิ คันทรี่แมน โฉมใหม่ เป็นรถยนต์ที่ได้รับการพัฒนาจากรถยนต์ขนาดเล็ก ไปสู่รถยนต์อเนกประสงค์ พรีเมี่ยม คอมแพ็คในรูปแบบ “Sport Activity Vehicle”ที่ยังคงให้ความรู้สึกแบบ “go-kart feeling”  อีกทั้งดีไซน์รูปลักษณ์ภายนอกและภายใน รวมถึงเทคโนโลยีและฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้ามากขึ้นทุกการใช้งานของผู้ขับขี่ โดยเฉพาะกลุ่มที่รักในการเดินทาง ชื่นชอบการทำกิจกรรมกลางแจ้ง และใช้งานในชีวิตประจำวันสำหรับ การขับขี่ในเมือง

 

เจเนอเรชั่นที่ 2 ผ่านรูปลักษณ์แข็งแกร่งแบบฉบับมินิ

         มินิ คันทรี่แมน เจเนอเรชั่นที่ 2 นี้ ยังคงมาในขนาดเล็กกะทัดรัด เช่น มินิ คันทรี่แมน รุ่นก่อนหน้าด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์แบบดั้งเดิมด้วยรูปลักษณ์อันแข็งแกร่งและโครงสร้างแบบเส้นตรง การออกแบบที่รถยนต์ในแบรนด์มินิมีร่วมกันยังรวมไปถึงหลังคาแบบ Helmet Roof แถบโครเมี่ยมบริเวณ Shoulder Line และทรวดทรงที่โฉบเฉี่ยวสะอาดตา แต่ยังเปี่ยมด้วยดีไซน์สุดคลาสสิกของรถยนต์มินิ

        แนวคิดการผสมผสานดีไซน์ที่แปลกใหม่กับเอกลักษณ์แบบมินินี้ ยังเห็นได้ชัดเจนในทุกองค์ประกอบของตัวรถ อย่างเช่นไฟหน้าที่มาพร้อมกับ Daytime Running Light แบบวงแหวนเป็นครั้งแรก พร้อมให้แสงสว่างที่นวลตาอย่างทั่วถึง เกิดเป็นเอกลักษณ์ที่สะดุดตาทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน

        ด้วยเส้นสายที่เฉียบคมยิ่งขึ้น มินิ คันทรี่แมน โฉมใหม่จึงดึงดูดสายตาด้วยพื้นผิวตัวถังที่เรียบเนียน แต่เสริมเส้นขอบโลหะที่ล้อมรอบส่วนแถบสีดำที่โอบล้อมตัวรถและซุ้มล้อ ควบคู่ไปกับเหลี่ยมมุมรอบตัวรถที่เฉียบคมมากขึ้น เข้ากันกับพื้นผิวด้านข้างตัวรถที่ออกแบบมาดูโฉบเฉี่ยวหนักแน่นยิ่งขึ้น

 

ห้องโดยสารกว้างขวางและทันสมัยขึ้น

       มินิ คันทรี่แมน โฉมใหม่ที่มีขนาดรถยนต์ที่ใหญ่และกว้างขึ้นกว่าเดิม ด้วยขนาดความยาวที่เพิ่มขึ้นถึง 20 เซนติเมตร ความกว้างที่เพิ่มขึ้นอีก 3 เซนติเมตร และฐานล้อที่ยาวขึ้น 7.5 เซนติเมตร และด้วยขนาดรถที่ใหญ่ขึ้นช่วยให้พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างมากยิ่งขึ้น ทั้ง Headroom Legroom และ Shoulder Room

        เบาะโดยสารแบบ 5 ที่นั่งแบบเต็มตัว และช่องเก็บสัมภาระที่มีความจุเพิ่มขึ้น โดยมีความจุมากถึง 450 ลิตร และยังสามารถขยายขนาดเพิ่มขึ้นเป็น 1,309 ลิตร เมื่อทำการพับเบาะที่นั่งหลังซึ่งแยกกันที่สัดส่วน 40:20:40 เพื่อความสะดวกสบายและการใช้งานต่างๆ

        ในมินิ คันทรี่แมน โฉมใหม่ ยังนำคอนเซปต์ของการตกแต่งภายในห้องโดยสารเพื่อสร้างลุคที่สะอาดตาและเฉียบคม โดยการเลือกใช้เส้นสายในแนวราบ มีผลให้บริเวณที่นั่งคนขับดูกว้างขวางและทันสมัยยิ่งขึ้น ส่วนการใช้วัสดุคุณภาพสูงและการคำนึงถึงการใช้งาน เช่น ไฟ LED ที่แต่งแต้มห้องโดยสารเพื่อสร้างหลากหลายอารมณ์แห่งการขับขี่ให้มีความเฉพาะตัวยิ่งขึ้น

         ฟีเจอร์ที่น่าสนใจที่ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ คือหน้าจอ Touch Screen ขนาด 8.8 นิ้ว บริเวณกลางแผงคอนโซลของแบบระบบสัมผัส ซึ่งทำหน้าที่เป็นจอแสดงผลข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Navigation ข้อมูลของตัวรถ ความบันเทิง และโทรศัพท์ นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชั่นต่างๆ ที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็น MINI Country Timer ที่ช่วยตรวจจับและแสดงข้อมูลขณะขับขี่บนพื้นถนนที่ท้าทาย และ MINI Connected ที่เป็นเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวในยามเดินทาง แสดงพิกัดของรถและข้อมูลต่างๆ ผ่านการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน

             ในส่วนของฝากระโปรงท้ายของ มินิ คูเปอร์ คันทรี่แมน และ มินิ คูเปอร์ เอส คันทรี่แมน โฉมใหม่ สามารถควบคุมการเปิดและปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า เพียงใช้เท้าไปจ่อที่บริเวณใต้กันชนท้ายเมื่อมีกุญแจรถอยู่กับตัวเท่านั้น หรือสามารถเปิดด้วยปุ่มด้านประตูข้างคนขับและปิดด้วยปุ่มที่ฝากระโปรงท้าย

 

เครื่องยนต์อารมณ์ “go-kart feeling” ผ่าน มินิ คันทรี่แมน 3 รุ่นย่อย

เครื่องยนต์ที่ให้อารมณ์ “go-kart feeling” ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังของเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด MINI TwinPower Turbo ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่และการตอบสนองที่ดีขึ้น มินิ คันทรี่แมน เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกันคือ

 

มินิ คูเปอร์ คันทรี่แมน 

        เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังขับเคลื่อนสูงสุดอยู่ที่ 100 กิโลวัตต์/136 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-4,300 รอบ/นาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 16 กิโลเมตร/ลิตร ระดับการปล่อย CO2 เพียง 148 กรัม/กิโลเมตร และทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ มีพวงมาลัยหนังแท้แบบมัลติฟังก์ชั่นเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่มากับตัวรถ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมความสะดวกสบายด้วยฟังก์ชัน Easy Opener ให้สามารถควบคุมการเปิด-ปิดฝากระโปรงรถเพียงใช้เท้าจ่อบริเวณใต้กันชนท้าย

 

มินิ คูเปอร์ เอส คันทรี่แมน และ มินิ คูเปอร์ เอส คันทรี่แมน ไฮทริม

         มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน และ มินิ คูเปอร์ เอส คันทรี่แมน ไฮทริม ขับเคลื่อนด้วยเบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ที่มอบกำลังสูงสุดถึง 141 กิโลวัตต์/192 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร ที่ 1,350-4,600 รอบ/นาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 16 กิโลเมตร/ลิตร ระดับการปล่อย CO2 อยู่ที่ 143 กรัม/กิโลเมตร และทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบสปอร์ต พวงมาลัยหนังแท้แบบสปอร์ตพร้อมมัลติฟังก์ชั่น ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว

        นอกจากนี้ ในเวอร์ชั่นล่าสุด มินิยังเพิ่มเต็นท์หลังคา AUTOHOME ที่ออกแบบมาเป็นชุดแต่งเสริมไว้ใช้ในการเดินทางท่องเที่ยว ทางมินิก็ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ของเต็นท์หลังคา ผสานรวมกับโครงสร้างเส้นใยแก้ว (Fibre-glass) สร้างคุณสมบัติในการลดแรงต้านอากาศและเสียงรบกวนจากลม

         บริเวณช่องเก็บสัมภาระด้านท้ายของมินิ คูเปอร์ คันทรี่แมน และ มินิ คูเปอร์ เอส คันทรี่แมน โฉมใหม่ มี MINI Picnic Bench ซึ่งสามารถกางออกเป็นที่นั่งปิกนิกสำหรับ 2 คนได้ ตัวเต็นท์ยังรวมไปถึงที่นอนแบบหนาพิเศษ พร้อมผ้าปูที่นอนผ้าฝ้าย ประตูและหน้าต่างอย่างละ 2 บาน พร้อมซิปสำหรับเปิด-ปิดมุ้งกันแมลงแบบตาละเอียด และไฟ LED แบบใส่ถ่านในตัวเต็นท์ รวมไปถึงตาข่ายและกระเป๋าสำหรับเก็บของใช้ส่วนตัว พร้อมบันไดอลูมิเนียมสำหรับปีนขึ้นสู่หลังคารถได้สะดวก

 

AFTER DRIVE BY KAN YENSABAI

        จุดเด่นสำหรับ Mini Countryman คือ เป็นรถมินิที่ไม่มินิครับ เพราะถือเป็นรถที่มีตัวถังขนาดใหญ่ที่สุดของทางมินิ แต่ก็ถือว่าในเรื่องของงานดีไซน์ความสวยงามผ่านบอดี้มีการเพิ่มสัดส่วนมิติความยาว ความกว้าง รวมทั้งระยะฐานล้อยังทำออกมาลงตัว ผ่านคาแร็คเตอร์ของรถที่ดูมีสไตล์และเอกลักษณ์

        สำหรับผู้ที่มีรสนิยมชื่นชอบรถแบบที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร รวมถึงผู้ที่เคยใช้รถมินิมาแล้ว แต่มีความต้องการรถมินิที่มีมิติห้องโดยสารที่ใหญ่และกว้างขวางมากขึ้น คงจะถูกใจการออกแบบเบาะนั่งแบบ 5 ที่นั่งเต็มตัว ที่ทำให้การเดินทางทดสอบนั่งยืดแข้งขากันได้สบายๆ ไม่อึดอัด เทคโนโลยีฟีเจอร์ที่ช่วยในเรื่องของความสะดวกสบายและทันสมัยภายในรถอย่าง MINI Connected ก็จัดให้มาไม่น้อยหน้าใคร

       ในโหมดการขับแม้จะเป็นรถมินิที่ออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานได้อเนกประสงค์แบบครอบครัวยุคใหม่ แต่ถ้าถามถึงโกคาร์ทฟีลลิ่งคือ ความสนุกความดิบและความมันส์จากการขับ มินิ คันทรี่แมน ทั้ง มินิ คูเปอร์ คันทรี่แมน 136 แรงม้า และมินิคูเปอร์ เอส คันทรี่แมน รวมถึง มินิ คูเปอร์ เอส คันทรี่แมน ไฮทริม 192 แรงม้า ที่เป็นตัวโฉมท็อปสุดในไลน์โปรดักส์ก็ยังให้ความรู้สึกกระชุ่มกระชวยในการขับ จังหวะการทำงานของเครื่องยนต์รวมทั้งเกียร์โดยรวมให้อารมณ์สปอร์ต เครื่องยนต์ เร็ว แรง ได้ ตามใจสั่ง การขับคอนโทรลพวงมาลัยแบบมัลติฟังชั่นก็ยังทำได้เนียนและคมสมชื่อ

        ส่วนใครชอบท่องเที่ยวเดินทางก็น่าจะถูกใจกับการดีไซน์ลูกเล่น ที่เรียกว่าหลังคา Autohome ที่เป็นเหมือนเต็นท์เคลื่อนที่และบ้านหลังจิ๋วแนวมินิมอลเท่ๆ ไว้ยามที่ต้องการขับเจ้าคันทรี่แมนคันนี้ไปสูดรับอากาศธรรมชาติกับครอบครัว โดยรวม ในปลายทางของเจเนอเรชั่นที่ 2 ของคันทรี่แมน เมื่อเทียบกับราคายังเป็นรถติดทำเนียบเรื่องคาแร็คเตอร์โดดเด่น และตอบโจทย์ในเรื่องความเอนกประสงค์ได้ดีจริงๆ ครับ