ALL-NEW MAZDA CX-5 เอสยูวีตัวพ่อ..หล่อขั้นเทพ

  • November 29, 2017

โดย.. จิรายุ ห่วงทรัพย์

  

       เมื่อไม่นานมานี้ผมเองเพิ่งมีโอกาสได้ไปขับทดสอบรถเอสยูวี ALL-NEW MAZDA CX-5 รุ่นใหม่สุดๆ โมเดลนี้ ในสนามทดสอบที่ปีนัง ประเทศมาเลเซีย เหมือนได้ไปทำความรู้จักกันแบบออเดิร์ฟ ก่อนที่มาสด้าจะเปิดตัวเจ้ารถอเนกประสงค์รุ่นนี้อย่างเป็นทางการที่เมืองไทย 

      ส่วนในทริปนี้ผมมีภารกิจในการมาทำความรู้จัก ALL-NEW MAZDA CX-5 ทั้งรุ่นเครื่องยนต์แบบเบนซิน 2.0 ลิตร และ ดีเซล 2.2 ลิตร บนเส้นทางลัดเลาะแม่น้ำโขงบนแดนดินถิ่นอีสาน จากอุดรธานี-นครพนม-อุบลราชธานี ตามคำเชิญของพีอาร์น้องรัก คุณอุทัย เรืองศักดิ์ ผู้จัดการอาวุโสส่วนงานประชาสัมพันธ์ ที่รับหน้าที่วางเส้นทางการทดสอบในครั้งนี้

 

เจเนอเรชั่นที่ 2 หน้าตาดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

      เท้าความให้ทราบกันสักนิดกับความเป็นมาของ Mazda CX-5 2018 ใหม่คันนี้ ที่นับเป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 ครับ นับตั้งแต่โฉมแรกถูกเปิดตัวเมื่อปี พ.ศ. 2555 และเป็นรถยนต์รุ่นแรกของค่ายมาสด้าที่บุกเบิกเทคโนโลยี SKYACTIV แบบทั้งคัน พร้อมกับแนวทางการออกแบบที่เรียกว่า KODO Design จากนั้นจึงค่อยพัฒนาต่อมายังรถรุ่นอื่นอย่าง Mazda3, Mazda2 และ CX-3 เป็นต้น ทำให้แบรนด์มาสด้ากลายเป็นที่จดจำในตลาด จนกระทั่งสามารถสร้างยอดขายได้อย่างล้นหลามนั่นแหละครับ

       ส่วนตัวยอมรับตั้งแต่แรกเห็นว่า โดน เพราะ ALL-NEW MAZDA CX-5 โฉมนี้ดูหล่อและแพง สะดุดตากับกระจังหน้าขนาดใหญ่ดีไซน์ตะแกรงไขว้ที่เสริมด้วยโครเมี่ยมเพิ่มความหรูหรา แม้ว่าเส้นสายภายนอกหลายๆ เสียงจะบอกว่าดูคล้ายคลึงกับโฉมแรก แต่ทางมาสด้าเขาก็มีการปรับปรุงต่อยอดจากโฉมแรกในหลายจุด ทั้งการติดตั้งไฟหน้าแบบ LED ดีไซน์เฉียบคม พร้อม Daytime Running Light ดีไซน์ใหม่ ไฟหน้าออกแบบให้เชื่อมต่อกัน ขณะที่ส่วนล่างของกันชนตกแต่งด้วยสีดำพร้อมไฟตัดหมอกแบบ LED ขณะที่ด้านข้างออกแบบให้มีความลึกของเส้นสายมากขึ้น ตกแต่งซุ้มล้อสีดำ เสริมด้วยโครเมี่ยมบริเวณขอบหน้าต่างประตู

       มุมมองด้านท้ายของรถเน้นความสปอร์ตด้วยแนวประตูท้ายที่ลาดเทกว่าโฉมเดิม และไฟท้ายที่ถูกออกแบบใหม่ให้มีดีไซน์เรียวเล็กและเส้นสายที่เฉียบคม พร้อมไฟหรี่และไฟเบรกแบบ LED รวมทั้งมีการติดตั้งเซ็นเซอร์กะระยะรอบคันเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และติดตั้งล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 17 และ 19 นิ้วตามแต่รุ่นย่อย เรียกได้ว่าแนวทางการออกแบบ Mazda CX-5 2018 ยังคงยึด KODO Design เอาไว้อย่างครบถ้วน

 

ห้องโดยสารเก็บเสียงดี..หรูกว่านี้มีอีกมั้ย

     ดีไซน์ออกแบบภายในทางมาสด้าเองให้น้ำหนักไปที่ความหรูและลงตัวขึ้น พร้อมทั้งพัฒนาให้ผู้โดยสารเป็นศูนย์กลาง จากเดิมที่ใช้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางเพียงอย่างเดียว ทั้งในส่วนของคอนโซลหน้าแบบใหม่ ดูสปอร์ตด้วยเบาะหนังสีดําแต่งด้วยด้ายสีน้ำตาลถูกตกแต่งด้วยโทนสีดำ มีการเพิ่มวัสดุหนังเข้าไปตามชิ้นส่วนต่างๆ ซึ่งสัมผัสได้ว่าเป็นหนังที่มีคุณภาพดีเช่นเดียวกับรถยุโรป ให้ความนุ่มและเรียบเนียนเมื่อสัมผัส เช่น แผงประตู, แผงคอนโซล, ที่วางแขนและช่องแอร์แบบโครเมี่ยม

      จุดเด่นสำคัญอย่างหนึ่งของ ALL-NEW MAZDA CX-5 โฉมนี้คือ เรื่องการเก็บเสียงจากพื้นถนนที่ทำได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นหนึ่งในการปรับปรุง NVH หรือ Noise Vibration Harshness ไปในทิศทางที่ดีขึ้นกว่ารุ่นที่แล้ว โดยเฉพาะวัสดุซีลถูกใช้เพื่อปิดช่องว่างระหว่างแผงด้านล่างเสาบี เป็นการลดช่องว่างให้เหลือน้อยที่สุด ทำให้ลดเสียงรบกวนเข้าไปในห้องโดยสารได้ดีมาก

        ALL-NEW MAZDA CX-5 ยังติดตั้ง DRIVING DISPLAY ที่แสดงข้อมูลสำคัญในการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้ารถในระดับสายตาผู้ขับ และหน้าจอ Center Display ขนาด 7 นิ้ว ลอยตัวขึ้นจากแผงคอนโซลด้านบน สามารถสั่งงานด้วยปุ่ม Center Commander ติดตั้งไว้บริเวณใกล้กับคันเกียร์ ติดตั้งปุ่มเบรกมือแบบไฟฟ้าพร้อมระบบช่วยเหยียบเบรกขณะติดไฟแดง Auto Hold และระบบปรับอากาศอัตโนมัติสามารถปรับแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวาได้

      ส่วนมาตรวัดความเร็วถูกติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 4.6 นิ้ว แสดงผลด้วยความละเอียดสูง สามารถเลือกเปลี่ยนการแสดงผล เช่น ข้อมูลระยะทางที่ขับขี่, อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง, การทำงานของระบบ MRCC ที่สำคัญในโมเดลนี้ยังปรับปรุงในตัวเบาะนั่งที่ถูกออกแบบให้มีความกระชับมากขึ้นกว่าเดิม เบาะนั่งแถวหลังมาพร้อมพนักพิงศีรษะ 3 ตำแหน่ง และยังสามารถปรับเอนได้ 2 ระดับ ช่วยเพิ่มความผ่อนคลายในการโดยสาร

 

เครื่องยนต์มีทางเลือกทั้งเบนซินและดีเซล ไม่เวอร์วังแต่พลังล้น

     บนเส้นทาง 287  กิโลเมตร ในวันแรกของการทดสอบ เมื่อล้อหมุนเข้าโหมดการเดินทางผม และคุณกันต์ เย็นสบาย จากนิตยสาร C max Car และ คุณวิทยา กิญชาญไพบูลย์ จากนิตยสาร Business+  สื่อมวลชนร่วมทริป เราทั้ง 3คนอยู่ใน ALL-NEW MAZDA CX-5 2.0 SP สีแดง โซล เรด คริสตัล Soul Red Crystal หรือ สีแดงเพลิง แบบเฉพาะมาสด้าในรุ่นแบบตัวท็อปสูงสุดของพิกัดเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ แบบเบนซิน SKYACTIV-G 2.0 ขนาด 1,998  CC ติดตั้งล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 17 นิ้ว

       พวงมาลัยดีไซน์ใหม่แบบสปอร์ตพรีเมี่ยมจับกระชับมือ พร้อมปุ่มควบคุมการทํางานที่พวงมาลัย แม้ไม่มีแพดเดิ้ลชิฟท์ แต่ก็มีปุ่มสวิตช์ให้สามารถเลือกโหมดการขับขี่ในแบบสปอร์ตได้ และถ้ามีคำถามถึงกําลัง 165 แรงม้า และแรงบิดสูง 210 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ว่าขับได้ดีแค่ไหน ก็ต้องบอกว่าเหมาะกับการใช้งานทั่วไปครับ ตอบโจทย์การเร่งแซงในระยะประชิดได้ดี ฉับไวตามไลฟ์สไตล์คนเมือง และกำลังรถดูจะเหมาะสมกับกลุ่มผู้หญิง ที่ถือเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่ที่ทางมาสด้าต้องการจะขยายตลาดเพิ่ม

     เครื่องยนต์ของ ALL-NEW MAZDA CX-5 2.0 SP แบบเบนซิน ทำงานคู่กันกับชุดเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-DRIVE แบบ 6 สปีดได้ในระดับที่ดี แม้จะใช้เกียร์ลูกเดิมแบบเดิมที่เคยประจำการใน MAZDA CX-5 โมเดลก่อนครับ แต่ทางมาสด้าเขาก็มีการปรับปรุงให้สามารถตอบสนองฝีเท้าได้รวดเร็วมากขึ้น ให้ใช้เวลาเร่งแซงน้อยลงกว่ารุ่นที่แล้ว โดยรวมยังทำงานฉลาด สั่งงานได้รวดเร็ว แม่นยํา เปลี่ยนเกียร์ราบรื่น ให้อัตราเร่งต่อเนื่องในทุกรอบความเร็ว

              “อยากจะไปนครพนม เขาลือกันว่ามีกัญชา อยากจะไปหาซื้อมา จะได้เอามาดูดกัน

           อยากจะเป็นสิงห์อมควัน พี้เนื้อกันสบายอุรา อยากจะได้ยา ไม่ได้มาข้าต้องตาย

        ผมเปิดเพลง ฆาตะ-กัญชา ของศิลปิน วงเนื้อกับหนัง หรือ Fresh And Skin ที่คอเพลงเฮฟวี่เมทัล ยุค 80-90 คงจะเคยได้ยินผ่านหูกันมาบ้าง ฟังผ่านเครื่องเสียงแบบพรีเมี่ยม BOSE® พร้อมระบบเสียงแบบเซอร์ราวนด์ 10 ตำแหน่ง ที่ไม่ต้องเป็นห่วงในเรื่องคุณภาพเสียง เพื่อเรียกบรรยากาศความคึกคัก กระชุ่มกระชวยในหัวใจให้เข้ากับแรกสัมผัสอากาศหนาวๆ ที่นครพนม ที่คงหาไม่ได้จากในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ ทันทีที่คาราวานมาสด้า ALL-NEW MAZDA CX-5 เดินทางมาถึงที่นี่

       ตลอดการเดินทางไกลทั้งวัน ตั้งแต่อุดรธานี ผ่านอำเภอหนองหาน อำเภอสว่างแดนดิน อำเภอพังโคน อำเภอพรรณานิคม แวะเยี่ยมชมสหกรณ์โคขุน โพยางคำ จังหวัดสกลนคร ก่อนมุ่งหน้าต่อที่อำเภอท่าแร่ อำเภอกุสุมาลย์ จนเดินทางถึงจังหวัดนครพนม แบบไม่อ่อนล้าและเหนื่อยจากการเดินทาง และมาทันเวลาดูภาพอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ริมแม่น้ำโขง และเช็กอินห้องพักที่โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว โฮเทล จังหวัดนครพนมครับ

 

         ส่วนบนเส้นทางจาก นครพนม-อุบลราชธานี  กับระยะทาง 423  กิโลเมตร ในวันที่ 2 ของการทดสอบ ผมและสมาชิกย้ายสัมภาระมาประจำการ ใน ALL-NEW MAZDA CX-5 XD เครื่องยนต์สกายแอคทีฟ คลีนดีเซล 2.2 ลิตร สีเทา แมชชีน เกรย์ Machine Grey ติดตั้งล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 19 นิ้ว

        ความพิเศษของเครื่องยนต์คลีนดีเซล SKYACTIV-D 2.2 ขนาด 2,191 CC ของมาสด้ายกระดับเทคโนโลยี ทั้งการใช้หัวฉีดแบบหลายรูซึ่งช่วยให้สามารถฉีดน้ำมันได้อย่างแม่นยำ และมีลูกสูบร่องรูปไข่ที่ช่วยรักษาสภาวะการเผาไหม้ให้สมบูรณ์ เพื่อให้ได้อัตราส่วนกำลังอัด 14.0:1 ซึ่งต่ำที่สุดในโลก

      สำหรับขาแรงที่ชอบขับรถคงจะถูกใจกับเครื่องยนต์คลีนดีเซลนี้ ที่ให้แรงบิดและสมรรถนะทางพลศาสตร์ที่น่าทึ่งด้วยการตอบสนองที่รวดเร็วที่รอบสูงกําลัง 175 แรงม้า แรงบิดสูง 420 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที รวมถึงยังมีรุ่น i-ACTIV AWD ที่ติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ ช่วยปรับระบบการขับขี่ให้เหมาะสมกับทุกสภาพถนนมากยิ่งขึ้น

        ตั้งแต่การเดินทางไปสักการะพระธาตุพนม พระธาตุประจำปีของผู้ที่เกิดในปีนักษัตร “วอก” หรือ ปีลิง ที่อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม พระธาตุที่เก่าแก่มากที่สุดในแว่นแคว้นแดนอีสาน แวะชมวิวแม่น้ำโขงที่ร้านแลโขง รวมถึงไปแวะเสพพลังธรรมชาติจากป่าและเขาที่ผาชัน ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่ามาเยือนมากแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี ก่อนเช็กอินเข้าพักที่โรงแรมสุนีย์ แกรนด์ โฮเทล ที่ตัวอำเภอเมืองอุบลราชธานี ปลายทางของเส้นทางการทดสอบ

 

               

นั่งแล้วดีไม่มีเวียนหัว กับระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่ GVC

       ปัญหาของรถอเนกประสงค์แบบครอบครัวก็คือ ด้วยความสูงของตัวรถเวลานั่งเดินทางตัวรถอาจมีอาการโคลงแต่ทางมาสด้าก็แก้ปัญหานี้ด้วยการใช้ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดภายใต้ชุดเทคโนโลยี SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS ระบบ GVC จะช่วยควบคุมสมรรถนะในการขับขี่ให้แม่นยําและสมดุล เพื่อให้ผู้ขับ MAZDA CX-5 โฉมใหม่ สัมผัสความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันของคนกับรถได้อย่างสมบูรณ์

      ซึ่งสิ่งที่เห็นและพิสูจน์ได้ในเชิงประจักษ์ของระบบ GVC ก็คือ ทําให้รถเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น และมีอาการโคลงที่น้อยลงนั่งแล้วไม่เวียนหัว โดยเฉพาะในตำแหน่งผู้โดยสารด้านหลัง ส่วนระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังแบบอิสระมัลติลิงค์ พวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พิเนี่ยน พร้อมดิสก์เบรกด้านหน้าแบบมีครีบระบายความร้อนและดิสก์เบรกด้านหลัง

 

i-ACTIVSENSE เทคโนโลยีความปลอดภัยสุดล้ำ

ในเรื่องของความปลอดภัยทางมาสด้าเลือกติดตั้งเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย ที่ต้องเรียกว่าสุดล้ำที่เรียกว่า i-ACTIVSENSE ที่สามารถคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำ และส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่ให้เพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุได้รอบคัน ทั้งระบบ LDWS เตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน ระบบ LAS ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในกรณีที่ตรวจพบการเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ รวมถึงมาตรฐานความปลอดภัยทั้งแบบป้องกันก่อนเกิดเหตุและแบบปกป้องเมื่อเกิดเหตุ  

      ผู้ที่ชื่นชอบรถแนวอเนกประสงค์ที่มีพื้นฐานความหรูคู่ความสปอร์ต คงถูกใจกับเจเนอเรชั่นใหม่นี้ ตัวโปรดักท์มีการปรับเปลี่ยนใหม่หมดทั้งภายนอกและภายใน เน้นความหรูหรามากขึ้นกับรูปทรงรถที่ดูสง่างาม รวมทั้งเทคโนโลยีที่ใส่เข้ามาจนล้นคัน เพราะทางมาสด้าวางตำแหน่งของ ALL-NEW MAZDA CX-5 เอสยูวีตัวพ่อหล่อขั้นเทพนี้เข้าสู่ตลาดในกลุ่มรถอเนกประสงค์เอสยูวีในระดับพรีเมี่ยม เทียบเท่ากับคู่แข่งรถยนต์จากค่ายยุโรปกันเลยทีเดียวครับ

 

ลองขับแทนคุณ โดยจิรายุ  ห่วงทรัพย์

       ก่อนอื่นเลยขอบอกว่า นี่คืออภิมหาความคุ้มค่าคุ้มราคาของคนที่สนใจรถยนต์ MAZDA CX-5 อยู่ก่อนหน้านี้ เพราะด้วยราคาที่เปิดที่ 1,290,000 บาท สำหรับตัวเบนซินทำให้ยิ่งคันไม้คันมืออยากจะล้วงกระเป๋ารีบไปจองซะในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป

         แต่สำหรับตัวผมได้ไปลองขับจากอุดรธานีวิ่งเลาะลำน้ำโขงมาจบที่อุบลราชธานี ระยะทางเกือบ 700 กิโลเมตร คงต้องขอทุบกระปุกเพิ่มเพราะลองทั้งตัวเบนซิน 2.0 ลิตร และ ตัวดีเซล 2.2 ลิตร

      เอาแบบตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม ถ้าพอมีสตางค์เหลืออีกสัก 200,000-300,000 บาท ขอแนะนำด้วยประการฉะนี้ว่า ตัวดีเซล 2.2 ลิตร 175 แรงม้า เป็นตัวที่ขับสนุกมากที่สุด ส่วนท่านใดอยากจะได้ Option เพิ่ม เช่น ซันรูฟ ขอความกรุณาช่วยไปจัดตัวท็อปมาไว้ในครอบครอง

     สรุปใจความสุดท้ายขอบอกเลยว่ามาสด้าเขาห้ายยยยย... เพราะหากเอาไว้แค่ขับไปทำงานไม่หวือหวามากมายนัก ก็ขอให้จัดเอาตัวเบนซินไปไว้เป็นคู่ครอง แต่ถ้าเป็นคนชอบเดินทาง รักความแรง ไม่เสแสร้งความเชื่องช้า ก็ขอบอกว่าตัวดีเซล 2.2 นั้นเหมาะสมยิ่งนักแล...

 

AFTER DRIVE By กันต์ เย็นสบาย

      “ถึกใจข่อยหลาย แรงกะด้อกะเดี้ย”

         ขอเกริ่นเว้าเป็นภาษาอีสาน เพราะในทริปนี้ผมเองได้ทดสอบครบไลน์ ทั้งในรุ่นเบนซิน 2.0 ลิตร และดีเซล 2.2 ลิตร บนแดนดินถิ่นอีสาน แต่จะขอโฟกัสที่ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 SP รุ่นย่อยที่ได้ขับทดสอบ เห็นรูปร่างสูงใหญ่แบบนี้ แต่เวลาขับจริง พบว่ามุมมองรอบคันไม่อับสายตา หักเลี้ยวก็ง่าย สามารถซอกแซกในเมืองใหญ่ได้อย่างคล่องตัวมากๆ ครับ

       ในโหมดการขับทางไกลถือว่าสอบผ่านทำได้ดีครับ ความเร็วสม่ำเสมอ ผ่อนคลายที่ความเร็ว 120-130 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่หากขับเกิน140 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนผมตัวมองว่าจะเค้นเกินไปสำหรับขนาดของเครื่องยนต์ เมื่อเทียบกับขนาดตัวถังและความสูงของรถ

      จุดเด่นสำคัญอย่างหนึ่งคือ เรื่องการเก็บเสียงจากพื้นถนนที่ทำได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นกว่ารุ่นที่แล้ว ส่วน G-Vectoring Control ก็สามารถเก็บอาการโยนของตัวรถได้ดีขึ้นกว่าเดิมครับ สามารถหักเลี้ยวไปตามเส้นทางได้ตามใจสั่ง แต่หากเทียบกับ Mazda3 ที่มีระบบ GVC ที่ผมเองได้ขับทดลองมา ก็คงต้องบอกว่า CX-5 เป็นรถที่มีจุดศูนย์ถ่วงสูงกว่า อาจเก็บอาการโยนไม่ได้อย่างรถเก๋งซีดาน แต่สำหรับเอสยูวีด้วยกันก็ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว

       โดยรวมถ้ามองเรื่องความหรูหราแบบพรีเมี่ยม ดูเรียบง่ายแต่สุขุม แต่ยังคงให้ความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวในแบบฉบับใหม่ อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีเจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด เทียบกับราคาค่าตัวราคา 1,530,000 บาท ALL-NEW MAZDA CX-5 ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 SP เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ ครับ

ราคาจำหน่าย ALL-NEW MAZDA CX-5

รุ่น 2.0 C           เครื่องยนต์เบนซิน                       ราคาจำหน่าย 1,290,000 บาท

รุ่น 2.0 S           เครื่องยนต์เบนซิน                       ราคาจำหน่าย 1,400,000 บาท

รุ่น 2.0 SP         เครื่องยนต์เบนซิน                       ราคาจำหน่าย 1,530,000 บาท   **รุ่นที่ทดสอบ

รุ่น XD               เครื่องยนต์คลีนดีเซล                  ราคาจำหน่าย 1,560,000 บาท   **รุ่นที่ทดสอบ

รุ่น XDL             เครื่องยนต์คลีนดีเซล                  ราคาจำหน่าย 1,770,000 บาท