HONDA CIVIC HATCHBACK 1.5 TURBO สปอร์ต 173 แรงม้า จี๊ดจ๊าดโดนใจเลือดใหม่ของสายซิ่ง

  • December 22, 2017

     บนเส้นทางหนีกรุงจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปสู่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ผมขับ Honda Civic Hatchback 1.5 Turbo สีดำคริสตัลมุกคันนี้ผ่านแยกเขาหินซ้อนไปจนถึงแยกวัฒนานคร ผ่านวิวธรรมชาติสองข้างทางที่สวยงามและรู้สึกสบายใจทุกครั้งที่มีโอกาสขับรถมา 

       ส่วนตัวผมเองชอบในส่วนท้ายของรถในสไตล์แฮทช์แบ็ค 5 ประตูแบบนี้ครับ เพราะมีความอเนกประสงค์ในการใช้งานจากฝาท้ายที่สามารถเปิดออกได้ด้วยมุมที่กว้างและสูงกว่าฝาท้ายในรุ่นซีดาน ทำให้รูปลักษณ์ภายนอกดูล้ำสมัยโฉบเฉี่ยวและหรูหราด้วยเส้นสายด้านข้างตัวรถที่คมชัด

 

รูปลักษณ์สปอร์ต ปราดเปรียวเพรียวลม

 ด้วยความที่เป็นรถแฮทช์แบ็คในกระแสมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้ Civic Hacthback ได้รับความสนใจตั้งแต่ก่อนเปิดตัว กับรูปลักษณ์ของแฮทช์แบ็ก 5 ประตู ที่มาพร้อมรูปลักษณ์ที่ดูสปอร์ต หรูหรา และดีไซน์ด้านท้ายที่ดูโฉบเฉี่ยว ผสานกับสปิริตแห่งเครื่องยนต์ VTEC TURBO ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดี แต่ยังคงให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม พร้อมกับความอเนกประสงค์ที่สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของกลุ่มคนที่ชื่นชอบความโดดเด่นแบบมีสไตล์

      ความเป็นสปอร์ตและดุดันในเจเนอเรชั่นที่ 10 จากกระจังหน้าโครเมี่ยมรูปร่างคล้ายปีกที่วางตัวเป็นแนวยาวเต็มกรอบกระจังหน้า เชื่อมต่อกับไฟหน้าสไตล์สปอร์ตพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ทั้งยังโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยไฟท้ายรูปทรงตัว C แบบ LED รูปทรงมองด้านข้างมันคล้ายรถคูเป้ สปอยเลอร์หลังออกแบบให้มีสันเหลี่ยมดูแปลกๆ ตา พร้อมช่องระบายอากาศที่มีรูปทรงคล้ายกับสปอยเลอร์หน้าและล้อแม็ก 17 นิ้ว

 

ห้องโดยสารแปลกตา ดูทันสมัย

       ภายในห้องโดยสารของ Honda Civic Hatchback 1.5 Turbo เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ส่วนเบาะผู้โดยสารตอนหน้าก็ยังปรับด้วยไฟฟ้าได้ 4 ทิศทาง และติดตั้งระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch ควบคุมฟังก์ชั่นความบันเทิง พร้อมระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth) และช่องเชื่อมต่อ USB ที่รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay มาตรวัดพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิตอล แสดงผลการใช้งานได้หลากหลาย และระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยรีโมทพร้อมระบบปรับอากาศ (Engine Remote Start) ที่สามารถสั่งการได้จากระยะไกลเพื่อช่วยอุ่นเครื่อง พร้อมปรับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารให้เย็นสบายล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง

      ในเรื่องอุปกรณ์อำนวยความสะดวกก็ครบครัน ใช้วัสดุคุณภาพสูงมีการบุนุ่มตามจุดต่างๆ พวงมาลัยหุ้มหนังจอที่คอนโซลกลางสั่งงานด้วยระบบสัมผัสทำงานได้รวดเร็วดีใช้ง่ายฉลาดกว่ารุ่นเก่า เบาะคู่หน้านั่งสบายกระฉับตัวดี ทำให้นั่งขับในระยะทางไกลๆ ได้โดยไม่เมื่อยล้ามากนัก

       ส่วนพนักพิงของเบาะหลังยังสามารถปรับพับแยกได้แบบ 60:40 ซึ่งหากปรับพับเบาะที่นั่งด้านหลังลงทั้งหมด จะช่วยเพิ่มพื้นที่ความจุได้มากยิ่งขึ้น พื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้ายที่จุได้ถึง 414 ลิตร ทั้งยังติดตั้งม่านปิดสัมภาระที่สามารถเลือกปิดเก็บได้ทั้งซ้ายและขวา เพื่อป้องกันไม่ให้มองเห็นสัมภาระที่อยู่ด้านท้าย

 

แรงจี๊ดจ๊าดกับขุมพลัง VTEC Turbo 1,500 CC 173 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ CVT

      เมื่อคุณกดคันเร่งของ Honda Civic Hatchback 1.5 Turbo ลงไป เครื่องยนต์ก็จะตอบสนองได้อย่างรวดเร็วทันใจ อัตราเร่งมาแบบต่อเนื่องดีครับ ทั้งการเร่งออกตัวหรือจะเป็นการแซงรถคันหน้าบนถนน 2 เลนสวนทำได้อย่างปลอดภัยมั่นใจ ทันอกทันใจวัยรุ่น ต่างจากอารมณ์ความรู้สึกตอนขับ Civic ในโฉม 1.8 EL เครื่อง i-VTEC 141 แรงม้า และ เกียร์อัตโนมัติ CVT บนเส้นทางภูเก็ต–กระบี่ ได้ว่าเป็นรถที่เรื่องยนต์ให้ความแรงในแบบผู้ใหญ่หน่อย

      ส่วนในโหมดสายซิ่งเมื่อโหมดเกียร์ S และลองเล่น Paddle Shift ก็ยิ่งทำให้รถขับได้สนุกขึ้นครับ ควบคุมรถได้ดังใจต้องการ เครื่องยนต์ VTEC Turbo เครื่องใหม่ 1,500 CC ไดเรกต์อินเจกชั่น เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ DOHC 16 วาล์ว พร้อมระบบแปรผันวาล์ว Dual Valve Timing Control มีกำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 22.4 กก.-ม. ที่ 1,700-5,500 รอบ/นาที จัดว่าเป็นรถในทำเนียบญี่ปุ่นตัวแรงอีกคันที่ให้ฟีลลิ่งการขับ ไม่ธรรมดาแม้จะส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT เน้นความนิ่มนวลในการใช้งาน และให้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยประมาณ 14 กิโลเมตร/ลิตร ตามข้อมูลที่ทางฮอนด้าเคลมมา

      ตลอดเส้นทางที่ทดสอบมีทั้งทางเรียบ โค้งกว้าง โค้งแคบ ทางขรุขระ ทำถนนและทางตรงยาว ช่วงล่างของ Honda Civic Hatchback 1.5 Turbo ทำได้อย่างน่าประทับใจ ดูดซับแรงสั่นสะเทือนจากถนนได้ดี ทั้งนุ่มนวล และหนึบทีเดียวครับ จากระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแม็คเฟอร์สันสตรัทอิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังมัลติลิงค์ อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง เพราะมีการเซ็ตค่าความหนืดของโช้ก และค่า K ของสปริงให้สปอร์ตขึ้นกว่าในตัวโฉมรุ่น 1.8 EL

       ช่วงล่างชุดใหม่ทำให้สัดส่วนความสูงของ Honda Civic Hatchback 1.5 Turbo ลดลงอีก 14 มิลลิเมตร เหล็กกันโคลงมีการเพิ่มความหนาขึ้นอีกนิดเพื่อความแข็งแรง กันโคลงหน้ามีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 25.5 มิลลิเมตร หลัง 16.5 มิลลิเมตร เบ้ายึดซับเฟรมช่วงล่างติดกับตัวถังถูกขั้นด้วย Hydraulic Suspension Bushing ช่วยซับแรงสั่นสะเทือน

      ส่วนการขับทางตรงบนเส้นทางหลวง ข้ามจังหวัด ในการใช้งานแบบความเร็วปกติ ตามที่กฎหมายกำหนด และขับขี่คุมรถได้อย่างปลอดภัยที่ความเร็วประมาณ 100-120 กิโลเมตร/ชั่วโมง Honda Civic Hatchback 1.5 Turbo ให้ความมั่นคงและนิ่งดีครับในชุดช่วงล่าง การเข้าโค้งด้วยความเร็วทำได้ดี ระบบเบรกหยุดรถได้อย่างมั่นใจและนุ่มนวล

      เห็นแรงและเน้นความจี๊ดจ๊าดของเครื่องยนต์เป็นจุดขายแต่ในเรื่องของระบบความปลอดภัยก็จัดเต็มครับ ทั้ง การติดตั้งกล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ระบบ  Auto Brake Hold สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) และระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) ติดตั้งมาให้ เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน ถ้าคุณมองหารถเพื่อใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไป

 

 

AFTER DRIVE BY KAN YENSABAI

      แม้ผมเองจะไม่ใช่สาวกหรือแฟนพันธ์แท้ฮอนด้า แต่ต้องยอมรับครับว่า Honda Civic Hatchback 1.5 Turbo รุ่นนี้โดดเด่นมากในตลาดรถยนต์ 5 ประตู ทั้งในญี่ปุ่นเองรวมถึงในประเทศไทย

     ด้วยความที่เป็นรถแฮทช์แบ็คในกระแสมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้ Civic Hacthback ได้รับความสนใจตั้งแต่ก่อนเปิดตัว แฟนคลับของ Honda ชอบหน้าตาที่เต็มไปด้วยเหลี่ยมมุม ไฟหน้าเฉี่ยวๆ กับฝากระโปรงหน้าที่ดูทันสมัย แถมสปอยเลอร์ก็แทบจะไม่ต้องตกแต่งอะไรเพิ่มเติมให้เลอะเทอะ ก็ทำให้รถดูหล่อจัดๆ เป็นรถที่สวยตั้งแต่ออกจากโรงงานส่วน การอัพเดทเรือนร่างจาก 4 ประตู มาเป็น 5 ประตู ก็ยิ่งเพิ่มความอยากให้กับคนชอบ Honda อย่างจังครับ

      ในโหมดการทดลองขับ ผมชอบพวงมาลัยแบบสปอร์ตทรงสามก้านติดตั้งสวิตช์เปลี่ยนเกียร์หลังพวงมาลัย Paddle Shift และสวิตช์สั่งงานระบบเครื่องเสียง ปุ่มรับหรือวางสายโทรศัพท์ในระบบบลูทูธ ปุ่มควบคุมระบบปรับตั้งความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control ปุ่มควบคุมระบบสั่งงานด้วยเสียงในระบบ SIRI และเบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง และเบาะคนขับที่วางตำแหน่งให้เป็นศูนย์กลางของการใช้งานอุปกรณ์ภายใน รวมถึงการควบคุมแป้นคันเร่ง เบรก และพวงมาลัยถูกจัดวางในตำแหน่งที่ลงตัวดีครับ ใช้งานคุมรถได้ง่ายส่งถ่ายท่านั่งขับที่ดีสำหรับการควบคุม

      ต้องปรบมือให้กับความพยายามของ Honda ในการทุ่มเทกำลังคนและเงินทุนจำนวนมากเพื่อพัฒนารถ Civic รหัส FC ทำให้มันขับได้ดีขึ้น ทั้งในส่วนของเครื่องยนต์ที่แรงจี๊ดจ๊าดถูกใจวัยรุ่น เพราะมีหมัดเด็ดจากแรงม้าที่ 173 ตัว ส่วนรอบสูงสุดของเครื่องยนต์ลากไปได้ถึง 6,500 รอบ/นาที รวมทั้งเสียงเครื่อง VTEC Turbo ที่ให้ความเร้าใจพอสมควรในด้านของซุ่มเสียงเมื่อจัดหนักบนไฮเวย์

        การเกาะถนนทำได้ดีเพราะชุดช่วงล่างทั้งหมดที่ถูกเซ็ตมาใหม่ เพราะทางค่าย Honda เอาจริงเอาจังกับการปั้นรถโมเดลนี้ โดยการระดมมันสมองของคนในบริษัท ในการทำโปรเจกต์ New Civic และมันกลายเป็นงานปรับปรุงรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ Honda เคยทำออกมา

     เมื่อผมได้ใช้ชีวิตร่วมกับรถรุ่นนี้นาน 4 วัน บอกได้เลยว่า การปรับปรุงสิ่งที่เคยเป็นจุดด้อยทำให้ Hacthback ของ Honda ที่แม้เครื่องยนต์ที่ทำตามกระแสลดขนาดลดความจุแต่ปรับให้ขับได้สนุก และขับได้สนุกประทับใจขึ้นมาก คุ้มค่าราคาค่าตัว 1.169 ล้านบาทจริงๆ ครับ